บิ๊กบอดี้ โกลฟฯ เชื่อผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง–ราคาหุ้นมีส่วนลด 10%- จูงใจนักลงทุนเข้าซื้อขายหุ้นวันแรก เตรียมเสนอบอร์ดจ่ายปันผลต้นปีหน้า ยังแทงกั๊กไม่ชัวร์ราคาหุ้นเทรดวันแรกเหนือจองหรือไม่

นายนพดล ธรรมวัฒนะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บอดี้ โกลฟ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) หรือ BGT เปิดเผยว่า การเข้าซื้อขายในแรกของหุ้นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai) บริษัทเชื่อมั่นว่าพื้นฐานที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี จะทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในผลประกอบการของบริษัท และจะสะท้อนออกมาในราคาหุ้นในที่สุด

ทั้งนี้ ราคาหุ้นไอพีโอที่ระดับ 4.70 บาท มีค่าP/E 9 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับพี/อีตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอที่มีค่าพี/อี 12 เท่า โดยคิดเป็นส่วนลดให้กับนักลงทุนประมาณ 10% ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ดึงให้นักลงทุนสนใจลงทุนในบริษัท และในอนาคตบริษัทจะมีการจ่ายเงินปันผล โดยบริษัทจะนำเรื่องการจ่ายเงินปันผลงวดปี 50 เข้าที่ประชุมคณะกรรมการในการประชุมคณะกรรมการต้นปีหน้า

สำหรับความผันผวนของบรรยกาศการลงทุนไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อราคาซื้อขายวันแรกมากนัก เนื่องจากปัจจัยทีกดดันความเคลื่อนไหวของดัชนี อาทิ คดีเพิกถอนปตท. หรือคดีผู้บริหารทีพีไอ โพลีนนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท ทั้งนี้เชื่อมั่นว่านักลงทุนจะพิจารณาการลงทุนด้วยปัจจัยพื้นฐานของบริษัทมากกว่า

"ราคาหุ้นวันแรกจะเหนือจองหรือไม่คงตอบไม่ได้เพราะราคาซื้อขายขึ้นอยู่กับนักลงทุนเป็นสำคัญ แต่ผมเชื่อมั่นใจในพื้นฐานธุรกิจของบริษัทที่ทำธุรกิจมากว่า 20 ปี และสามารถมีการเติบโตได้แม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศจะชะลอตัว เพราะอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยมีการเติบโต สูงถึง 17 % ในปีนี้ ขณะที่จีดีพีโตเพียง 4-5% เท่านั้น " นายนพดล กล่าว

นายภาณุ คงแท่น ผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ซีมิโก้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวถึงการเข้าซื้อขายวันแรกของ บอดี้โกลฟว่า ไม่สามารถประเมินได้ว่าจะอย่างไร แต่อยากให้นักลงทุนพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ซึ่งที่ผ่านมาบอดี้โกลฟ มีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 49 มีรายได้รวม 379 ล้านบาท ขณะที่ในปี 50 ช่วง 9 เดือนแรกมีรายได้รวม 333 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิแล้ว 21 ล้านบาท นอกจากยนี้บอดี้โกลฟมีแผนที่จะขยายสาขา ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งจะใช้เงินลงทุนรวม 60-80 ล้านบาท

“คงไม่สามารถประเมินแนวโน้มทิศทางของราคาหุ้นได้ เพราะจะเป็นการชี้นำเกินไป อยากให้นักลงทุนมองในเรื่องปัจจัยพื้นฐานของบริษัทมากกว่า เพราะที่ผ่านมาบอดี้โกลฟมีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง”นายภาณุ กล่าว