|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคงผันผวนสูง โบรกฯระบุต้นสัปดาห์มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้หลังข่าวหนุนระยะสั้นเฟดเตรียมลดดอกเบี้ย ขณะที่ต้องลุ้นผลศาลปกครองตัดสินปตท.14 ธ.ค. พร้อมแนะรอจังหวะขายทำกำไรเหตุความเสี่ยงยังสูง บล.เกียรตินาคิน ชี้หากปตท.ถูกถอนดัชนีรูดหลุด 800 จุดแน่ ด้านบล.โกลเบล็กมองหุ้นอยู่ช่วงขาขึ้น เชื่อปตท.ไม่ถูกเพิกถอน แนะเข้าซื้อ
นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้(11-14 ธ.ค.) จะค่อนข้างผันผวน เนื่องจากในวันที่ 11ธ.ค.นี้ ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) จะมีการประชุมเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งไม่ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.25% ก็จะส่งผลทำให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น เพราะนักลงทุนทราบแล้วว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยซึ่งเป็นไปตามที่คาด ขณะที่อาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมาเนื่องจากจะต้องรอฟังผลการพิจารณาตัดสินคดีของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)หรือ PTT ในวันที่ 14 ธันวาคม 2550 โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 814 จุดแนวต้านที่ระดับ 857 จุด
“เชื่อว่าดัชนีหุ้นสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นจะผันผวนซึ่งมีปัจจัยภายนอก และภายในประเทศ ซึ่งดัชนีอาจปรับตัวลดลงแรง โดยเชื่อว่านักลงทุนต่างประเทศจะขายทำกำไรออกมาจากที่เศรษฐกิจอเมริกายังคงชะลอ”นายอดิศักดิ์ กล่าว
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ จะเป็นช่วงขาขึ้น จากกรณีที่ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุซได้ออกมาแนวทางในการช่วยเหลือผู้ซื้อบ้าน ซึ่งจะบรรเทาในเรื่องปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์คุณภาพต่ำ (ซัพไพรม์) และจากการที่ เฟดจะมีการประชุมในเรื่องอัตราดอกเบี้ย ซึ่งบริษัทคาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในอัตรา 0.25% ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มากนัก จากยังมีแรงกดดันจากการที่ศาลปกครองสูงสุดจะมีการพิจารณาตัดสินคดีแปรรูปบริษัทปตท. แต่จากการที่นักลงทุนต่างประเทศมีการขายหุ้นออกไปอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะกลับเข้ามาซื้อสุทธิ โดยบริษัทแนะนำกลับมาซื้อหุ้นจากที่ผ่านมาแนะนำขาย จากที่มองว่าตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาขึ้น ประเมินแนวรับที่ระดับ 841 จุด แนวต้านที่ระดับ 860 จุด
นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่ววว่า ดัชนีในสัปดาห์นี้จะแกว่งอยู่ในกรอบ 820-860 จุด เนื่องจากมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือ การประชุมของเฟดโดยส่วนใหญ่นักลงทุนและนักวิเคราะห์มองว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% และหากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันนี้อาจส่งผลให้ดัชนีมีการรีบาวน์ช่วงสั้นๆ โดยอาจเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 850 จุดได้
นอกจากนี้ จะต้องติดตามคดีของบริษัทปตท. โดยศาลปกครองสูงสุดจะมีคำตัดสินในวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคมนี้ ว่าจะถูกถอดถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือไม่ ซึ่งหากผลออกมาเป็นลบก็อาจส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงมากกว่า 800 จุด ได้ แต่หากผลออกมาเป็นบวกก็อาจส่งผลให้ดัชนีเพิ่มขึ้นกว่ากรอบแนวต้านที่ 860 จุด โดยประเมินกรอบแนวรับที่ 820 จุด โดยบริษัทแนะนำถือเงินสดก่อน เพื่อรอดูข้อมูลทั้งจากคดีของปตท. และการประชุมเฟดที่จะเกิดขึ้น
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า ดัชนีจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ โดยเป็นลักษณะรอความชัดเจน เนื่องจากยังมีอีกหลานประเด็นที่นักลงทุนต้องติดตาม โดยในสัปดาห์นี้หากหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมา แต่หากต้องการลงทุนแนะนำเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน เช่น TOP หรือ PTTEP เนื่องจากมองว่าราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้จะปรับตัวดีขึ้น ขณะที่มองกรอบดัชนีอยู่ที่แนวต้านอ850 จุด และแนวรับอยู่ที่ 830 จุด
|
|
 |
|
|