|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตลาดหุ้นไทยบวกเกือบ 12 จุด รับข่าวรัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมช่วยบรรเทาปัญหาซับไพรม์อีกครั้ง บวกกับข่าวโอเปคยันไม่เพิ่มกำลังการผลิตคลายวิตกเรื่องเงินเฟ้อ ด้านโบรกเกอร์คาดเฟดลดดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม 11 ธ.ค.นี้ เชื่อตลาดหุ้นไทยจะผันผวนต่อเนื่องจากนักลงทุนยังวิตกการพิจารณาตัดสินคดีแปรรูป ปตท. พร้อมเตือนระวังแรงขายช่วงหยุด 3 วันติดต่อ
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (6 ธ.ค.) ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นรับข่าวรัฐบาลสหรัฐฯเตรียมเข้ามาช่วยบรรเทาปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ประกอบกับข่าวโอเปคยังไม่ปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน จึงน่าจะช่วยบรรเทาความวิตกเรื่องเงินเฟ้อ-ความเสี่ยงจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่โดยเฉพาะ 2 กลุ่มหลักพลังงานและธนาคารพาณิชย์ จนส่งผลทำให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นมาปิดที่ 845.19 จุด เพิ่มขึ้น 11.85 จุด หรือ 1.42% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 848.11 จุดและจุดต่ำสุดอยู่ที่ 838.76 จุด มูลค่าการซื้อขาย 19,435.28 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 844.13 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 273.35 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,117.48 ล้านบาท
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดหุ้นในภูมิภาค ซึ่งมาจากปัจจัยบวก 2 ประการ คือ การคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ในการประชุมที่จะมาถึงในวันอังคารหน้า เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ และกรณีที่ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ จะเปิดเผยแผนการช่วยเหลือปัญหาซับไพรม์เพื่อให้เจ้าของบ้านรอดพ้นจากการถูกยึดทรัพย์
โดยเบื้องต้นจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยตายตัวในระยะเวลา 5 ปี เพื่อเป็นการลดการยึดหลักทรัพย์ค้ำประกันซึ่งน่าจะทำให้ปัญหาดังกล่าวจบลงได้ในช่วงกลางปีหน้ากลางเป็นประเด็นที่เพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุนในการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น รวมถึงแผนการที่จะช่วยแก้ไขวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ที่อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวในคืนนี้(6 ธ.ค.) ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัย ช่วยคลายความกังวลให้กับนักลงทุนลงได้ในะระดับหนึ่ง
ในส่วนของกรณีประเด็นที่ยังเป็นแรงกดดันตลาดหุ้น กรณีการตัดสินคดีการแปรรูปบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะยังคงเป็นประเด็นกดดันตลาดหุ้นจนกว่าจะมีการตัดสินคดีที่ชัดเจน
"หุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากข่าวการเตรียมเข้ามาแก้ปัญหาซับไพรม์ของรัฐบาลสหรัฐ รวมถึงโอกาสที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย แต่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับคำพิพากษาคดีปตท."นายสุกิจกล่าว
สำหรับทิศทางตลาดหุ้นในวันนี้ ดัชนีน่าจะคงปรับตัวบวกได้ต่อจากเมื่อวาน จากการประชุมโอเปคที่ผ่านมายังคงมีนโยบายไม่เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน ซึ่งอาจจะส่งผลให้ราคาน้ำมันมีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยให้แนวรับที่ 840 จุด และแนวต้านที่ 855 จุด
|
|
|
|
|