ไทยประกันภัยพอใจผลงาน 9 เดือนแรกของปี มีเบี้ยประกันภัยรับ 920.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.4% โดยเฉพาะในส่วนของการประกันภัยรถยนต์ เผยมียอดรับประกันจากงานมอเตอร์สูงถึง 547.6 ล้านบาท พร้อมเดินหน้ารุกตลาดรายย่อย เตรียมตบเท้าก้าวขึ้นสู่ผู้นำธุรกิจรายย่อย ระบุกลยุทธเร่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ครองใจลูกค้า และเพิ่มช่องทางการขายตอบโจทย์ความง่ายในการทำประกันภัยให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น

นางสาวพณิตา ตู้จินดา กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยถึงผลประกอบการในรอบ 9 เดือนของปี 2550 ว่า บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับสูงถึง 920.3 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวถึง 34.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีอัตราการขยายตัวสูงกว่างบประมาณอยู่ที่ 8.3% โดยเฉพาะการรับประกันภัยรถยนต์ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของเบี้ยรับจากงานมอเตอร์สูงถึง 547.6 ล้านบาท ขยายตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเท่ากับ 68.5% ซึ่งโตสวนทางกับตลาดรถยนต์ที่ยังคงซบเซาอยู่ในขณะนี้

สำหรับการรับประกันภัยประเภทอื่นก็เติบโตเช่นเดียวกัน ทั้งการรับประกันอัคคีภัยที่มีเบี้ยรับ 187.6 ล้านบาท ขยายตัวสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 7% การรับประภัยเบ็ดเตล็ดมีเบี้ยรับอยู่ที่ 167.2 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการลงทุนในช่วงเวลา 9 เดือนของปี 2550 นั้น สูงถึง 56.2 ล้านบาท ซึ่งเกินเป้าหมายที่ทางบริษัทตั้งไว้ที่ 45.3 ล้านบาท โดยเฉพาะรายได้จากเงินปันผล และการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เท่ากับ 7.82% สูงกว่าเป้าหมายทั้งปีที่กำหนดไว้ที่ 5.3% ในส่วนของกำไรจากการรับประกันภัยในช่วง 9 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 114 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 32.9 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลประกอบการในรอบ 9 เดือนที่สรุปออกมานั้น นับเป็นผลตอบรับที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีอัตราการเติบโตเกินเป้าที่ทางบริษัทตั้งไว้อยู่ที่ 20% ในช่วงต้นปี

ด้านกลยุทธ์ในการดำเนินงานของทางบริษัทยังคงเน้นที่จะรุกตลาดรายย่อย ธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม พร้อมทั้งมีการปรับสัดส่วนของงานอย่างเหมาะสมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ และพร้อมที่จะรับมือกับคู่แข่งในทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำธุรกิจรายย่อยในตลาดประกันวินาศภัย ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เอาใจลูกค้า และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด ด้วยความคุ้มครองที่คุ้มค่าในราคาอันแสนประหยัด อาทิ ประกันภัยอุบัติเหตุรักษ์ช้าง (PA-Elephant) และล่าสุดกับประกันภัยรถยนต์ประเภท 5 หรือที่รู้จักกันดีในชื่อประกันภัย 3 Plus นอกจากนี้ ในส่วนของการพัฒนารูปแบบการดำเนินงาน และการบริการ ทางบริษัทได้มีการปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในที่เรียกว่า Business Process Improvement (BPI) เพื่อเตรียมความพร้อม และรับมือกับการแข่งขันของธุรกิจประกันภัยในอนาคต พร้อมเพิ่มคุณภาพในการบริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ ภายใต้แบรนด์คอนเซ็ปต์ของไทยประกันภัยที่ว่า"จบเรื่องยาก ด้วยความง่าย"