Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน4 ธันวาคม 2550
ต่างชาติทิ้งหุ้นปตท.กดดัชนีรูด15จุด             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ปตท., บมจ.
Stock Exchange




ฝรั่งกระหน่ำทิ้งหุ้นปตท.ไม่แน่ใจผลตัดสินคดีแปรรูป 14 ธ.ค. ฉุดดัชนีหุ้นไทยรูด 15 จุด ขณะที่ PTT ร่วง 22 บาท หรือเกือบ 6% โบรกเกอร์เชื่อมีสิทธิรูดต่อ เตือนอย่าเพิ่งรีบลงทุนรอสารพัดปัจจัยลบชัดเจน ด้าน"เอเชียซอฟท์ฯ" เลื่อนระดมทุนจากเดิม 14 ธ.ค.เป็นไตรมาส1/51หวั่นราคาหุ้นต่ำจองเหตุเป็นวันเดียวกับการวันตัดสินคดีเพิกถอนปตท. โบ้ยเหตุนักลงทุนสถาบันสนใจจองซื้อในราคาต่ำสุดจากปัจจัยลบทั้งใน-นอกประเทศ ด้าน 7 พรรคใหญ่พร้อมโชว์วิสัยทัศน์การพัฒนาตลาดทุนวันนี้

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ช่วง 6 วันก่อนฟังผลพิจารณาตัดสินคดีการแปรรูปในวันที่ 14 ธ.ค.50 โดยนักลงทุนยังกระหน่ำขายอย่างต่อเนื่องเนื่องจากความไม่แน่นอน ซึ่งทำให้วานนี้(3 ธ.ค.) ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาปิดที่ 358 บาท ลดลง 22 บาท หรือ 5.79% มูลค่าการซื้อขายสูงถึง 3,767.73 ล้านบาท หรือกว่า 23% เมื่อเทียบกับมูลค่าการซื้อขายรวม ขณะที่ตลาดหุ้นไทยแม้ว่าในช่วงเช้าจะปรับตัวอยู่ในแดนบวกแต่จากแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคารพาณิชย์ทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงมาปิดที่ 831.12 จุด ลดลง 15.32 จุด หรือ 1.81% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 850.36 จุดและจุดต่ำสุดอยู่ที่ 830.94 จุด มูลค่าการซื้อขาย 16,938.57 ล้านบาท

ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,671.06 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 623.37 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,047.70 ล้านบาท

แหล่งข่าวนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ผลจากการตัดสินในกรณีปตท.จะออกมาอย่างไรจะส่งผลสะท้อนกลับตลาดหุ้นค่อนข้างรุนแรงแน่ โดยหากศาลมีคำสั่งให้ปตท.ไม่ต้องพ้นสภาพการเป็นบริษัทจดทะเบียนเชื่อว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้น PTT อย่างมากโดยอาจจะทำให้ราคาหุ้นสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นไปยืนเหนือระดับ 400 บาทได้อีกครั้ง

ทั้งนี้ หากศาลมีคำสั่งให้บมจ.ปตท. ต้องพ้นสภาพการเป็นบริษัทจดทะเบียนจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในเชิงจิตวิทยาค่อนข้างมาก โดยประเด็นที่ตามมาคงเป็นเรื่องการจับตาราคาที่กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่จะต้องทำการซื้อหุ้นคืนทั้งหมดว่าจะเป็นราคาเสนอขายในช่วงเข้าตลาดหุ้นที่ระดับ 35 บาทหรือเป็นราคาที่ซื้อขายในปัจจุบันซึ่งอาจจะต้องใช้เงินในการซื้อคืนมากกว่า 5 แสนล้านบาท

"ส่วนตัวยังเชื่อว่านักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศยังค่อนข้างสนใจตลาดหุ้นไทย แต่ในช่วงที่ผ่านมาอาจจะมีการชะลอการเข้ามาลงทุนบ้างเพื่อรอสถานการณ์หลายอย่างที่เป็นผลกระทบมีความชัดเจนมากขึ้น โดยในช่วงนี้นักลงทุนควรเลี่ยงการลงทุนช่วงนี้"แหล่งข่าวกล่าว

โบรกฯเชื่อPTTร่วงต่อ

นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า หุ้น PTT ถูกกดดันจากความไม่แน่นอนคำตัดสินคดีแปรรูปบริษัทซึ่งคาดว่าจะยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวจนถึงวันที่ศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษาในกรณีดังกล่าว โดยแนวโน้มราคาหุ้นอาจจะปรับตัวลดลงมาแตะระดับ 346 บาทซึ่งเป็นราคาต่ำสุดในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่หากผลการตัดสินมีคำสั่งให้ต้องถอนบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์จะส่งผลกระทบกับตลาดทุนไทยอย่างมาก

นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) กล่าวถึงสาเหตุที่หุ้นปตท.ปรับตัวลดลงเป็นอย่างมากว่า นอกเหนือจากการรอคำตัดสินของศาลในช่วงสัปดาห์หน้าแล้ว การปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงของหุ้น PTT ในช่วงตลอดปีที่ผ่านมามากกว่า 70% เป็นเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไรออกมา

"เรายังต้องรอความชัดเจนกรณีปตท.ว่าจะมีคำตัดสินออกมาอย่างไร ในระยะสั้นอาจจะมีผลกระทบต่อนักลงทุนบ้างแต่สุดท้ายผลการตัดสินยังเป็นประเด็นที่นักลงทุนต้องการความชัดเจน"นายอดิศักดิ์กล่าว

กองทุนมองด/บปีหน้าขาขึ้น

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า ปัญหาในประเทศแม้ว่าจะยังมีความเสี่ยงจากราคาน้ำมัน ขณะที่เงินเฟ้อก็อยู่ในระดับสูง แต่มูลค่าของหุ้นในตลาดหุ้นไทยที่ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำจึงทำให้เชื่อได้ว่าเมื่อนักลงทุนหายตกลงใจจากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ก็จะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง ทั้งนี้เรื่องอัตราดอกเบี้ยคาดว่าในปีหน้าจะเข้าสู่ขาขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง

"ปีหน้าหากการเมืองสงบเชื่อว่าจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติได้ ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติไม่ได้ให้ความสนใจว่าพรรคไหนจะได้เสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ให้ความสนใจกับประเด็นที่ว่ารัฐบาลควรมาจากการเลือกตั้ง" นางโชติกากล่าว

ในส่วนของปัญหาซับไพรม์ที่ยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นเนื่องจากตอนนี้นักลงทุนยังไม่สามารถประเมินความเสียหายจากเรื่องดังกล่าวได้อย่างชัดเจน ซึ่งหากมีความชัดเจนมากขึ้นน่าจะช่วยลดแรงขายหุ้นได้แม้ว่าเรื่องดังกล่าวจะยังส่งผลกระทบต่อเนื่องกับระบบเศรษฐกิจสหรัฐต่อไป

เอเชียซอฟท์ฯเลื่อนเทรด

นายปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการสำรวจความสนใจจองซื้อหุ้นของนักลงทุนปรากฎว่านักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อในช่วงราคาต่ำสุด ซึ่งเป็นผลจากความกดดันจากสภาวะตลาดทั้งในประเทศและในต่างประเทศที่ผันผวนและไม่แน่นอนโดยเฉพาะในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้น หากบริษัทฯ นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ตามกำหนดการเดิมในวันที่ 14 ธ.ค. การกำหนดราคาหุ้นเพื่อเสนอขายในช่วงสภาวะการณ์ตลาดที่ไม่เป็นปกติจะทำให้ได้ราคาหุ้นที่ไม่เหมาะสม ดังนั้น บริษัทจึงเห็นควรที่จะเลื่อนการเสนอขายหุ้นออกไปเป็นช่วงไตรมาส1/51

ทั้งนี้ การนำเสนอข้อมูลข้อมูล(โรดโชว์)แก่นักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศวันที่ 22 – 28 พฤศจิกายน 2550 และจากการสำรวจความต้องการซื้อหุ้นเอเชียซอฟท์ ฯถือว่าประสบความสำเร็จโดยได้รับความสนใจและผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศค่อนข้างมาก จากจุดเด่นของกลุ่มบริษัทฯ ที่เป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการด้านความบันเทิงออนไลน์ที่เกี่ยวกับเกมออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายสุรัตน์ เตศรีประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นในช่วงที่ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความผันผวนทั้งจากปัจจัยภายในประเทศและปัจจัยภายนอกประเทศ รวมถึงผลเลือกตั้งที่ยังมีความไม่ชัดเจนเป็นแรงกดดันในการเสนอขายและกำหนดราคาไอพีโอ

ทั้งนี้ กำหนดการเดิมในการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของหุ้นบมจ.เอเชียซอฟท์ฯ ซึ่งเป็นวันและเวลาเดียวกับที่ศาลปกครองจะแถลงผลการพิจารณาในการเพิกถอนการแปรรูป บมจ.ปตท. หรือ PTT ซึ่งหากบริษัทยังคงดำเนินการตามแผนการเดิม ราคาหุ้นที่มีการซื้อขายในวันดังกล่าวอาจได้รับผลกระทบทางด้านลบจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อภาพพจน์และความเชื่อมั่นของบริษัทได้

อย่างไรก็ตามหากผลการพิจารณาของศาลปกครองต่อการเพิกถอนการแปรรูปของ ปตท. มีความชัดเจนและสภาวะตลาดมีแนวโน้มที่ดีขึ้น การกำหนดราคา IPO ในภายหลัง และการเลือกช่วงเวลาในการเข้าซื้อขายในตลาดในช่วงไตรมาส 1 ปี 2551 น่าจะมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ได้อนุมัติให้บริษัท เอเชียซอฟท์ ฯสามารถเสนอขายหุ้นได้ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 50 ที่ผ่านมา

7พรรคโชว์วิสัยทัศน์

ด้านสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เชิญ 6 พรรคการเมืองไทยร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในการสัมมนาพิเศษ หัวข้อ “นโยบายพรรคในการบริหารตลาดทุน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบเศรษฐกิจไทย” ร่วมสัมมนาโดย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชาชน พรรคประชาราช พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาและพรรคชาติไทย ขณะที่ดำเนินรายการโดย ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ในวันอังคารที่ 4 ธันวาคม 2550 เวลา 13.30 น - 17.00 น. ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรชัย ชั้น 3 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ ผู้ที่คาดว่าจะเป็นตัวแทนพรรคการเมืองทั้ง 7 พรรคในการนำเสนอนโยบายประกอบด้วยนายมิ่งขวัญ แสงสุวรณ จากพรรคพลังประชาชน

นายกรณ์ จาติกวณิช จากพรรคประชาธิปัตย์ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ จากพรรคมัชฌิมาธิปไตย นายจิรายุ วสุรัตน์ จากพรรคเพื่อแผ่นดิน นายอุตตมะ สาวนายน

จากพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา นายมานะ มหาสุวีระชัย จากพรรคประชาราช และวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ จากพรรคชาติไทย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us