สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประกาศวันนี้อาร์เอสไม่ใช่เป็นเพียงบริษัทเพลงอีกต่อไปแล้ว
สร้างธุรกิจ 3 ขา เพลง-ภาพยนตร์-สื่อ กระจายรายได้และความ เสี่ยง แต่ในที่สุดแล้วทั้ง
3 ธุรกิจจะเอื้อประโยชน์ต่อกันและกัน และผลักดันให้อาร์เอส ก้าวสู่การเป็นบริษัทบันเทิงที่แข็งแกร่งและครบวงจรที่สุด
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อาร์ เอส โปรโมชั่น จำกัด(มหาชน)
เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ถึงทิศ ทางการทำธุรกิจของอาร์เอส ภายหลังจากการกระจายหุ้นในตลาด
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้วว่า รูปแบบของการทำธุรกิจของอาร์เอส จะเปลี่ยนไป จากปี
2545 สัดส่วนรายได้ของอาร์เอส มาจากธุรกิจเพลงถึง 70% และธุรกิจสื่อภาพ ยนตร์ และอื่นๆ
30%
ในปีนี้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจเพลง จะลดลงเหลือ 50-55% ขณะที่ภาพยนตร์จะมีสัดส่วนรายได้
20-25% และธุรกิจสื่อ ที่รวมทั้ง วิทยุ สิ่งพิมพ์ และรายการโทรทัศน์ จะมีสัดส่วนรวมกันเกือบ
20% และปีต่อไปบริษัทจะพยายามเกลี่ยสัดส่วนรายได้ของธุรกิจทั้ง 3 กลุ่มให้มีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน
หรือประมาณ 33% เพื่อกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจและสร้าง ให้ธุรกิจทั้ง 3 ส่วนเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน
เพื่อผลักดันให้อาร์เอสก้าวสู่การเป็นบริษัทบันเทิงที่ครบวงจร
สำหรับการนำบริษัทเข้าระดม ทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทย ในเดือนพ.ค.นี้ได้กำหนดขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไป
จำนวน 28 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 20% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด 140 ล้านหุ้น โดยคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้
760 ล้านบาท
เงินจำนวนดังกล่าวอาร์เอส จะนำมาใช้ชำระเงินกู้ระยะสั้นที่กู้มา เมื่อไตรมาสสี่
ของปี 2545 จำนวน 300 ล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้ นำมาใช้สร้างโรงงานผลิตเทป ซีดี
วีซีดี และดีวีดี แห่งใหม่ที่ปทุมธานี ของบริษัท เค มาสเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออาร์เอส
จำนวน 200 ล้านบาท มีกำลังการผลิตเทปปีละ 8 ล้านม้วน ซีดีและวีซีดี 17-18 ล้านแผ่น
และเตรียมลง ทุนซื้อเครื่องผลิตดีวีดี อีก 1 ชุด มูลค่า 40 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังได้ลงทุนสร้าง บอร์ดคาสติ้งสตูดิโอ ที่อาคารเชษฐโชติศักดิ์
ซอยลาดพร้าว 15 ซึ่งเป็นที่ทำการของอาร์เอส อีก 40 ล้านบาท เพื่อทำห้องส่งวิทยุระบบดิจิตอล
ซึ่งห้องดังกล่าวใช้ระบบซอฟต์แวร์จากต่างประเทศ ที่สามารถตรวจวัดการออกอากาศของสปอตวิทยุ
ได้อย่างแม่นยำ เพื่อสร้างความสบายใจให้แก่เจ้า ของสินค้าและบริษัทโฆษณา ที่มาลงโฆษณาในรายการวิทยุของอาร์เอส
จากการลงทุนห้องส่งดังกล่าว ทำให้ภาย ในกลางปีนี้ อาร์เอส จะได้บริหารคลื่นวิทยุเพิ่มอีก
1 คลื่น จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 2 คลื่น คือ คลื่นแซด FM 88.5 Mhz และคลื่นคูล
FM 98.0 Mhz
ในขณะที่ธุรกิจภาพยนตร์ ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้นำเงินกู้ส่วนหนึ่งมาลงทุนสร้างภาพยนตร์กว่า
10 เรื่อง แต่ออกฉายไปแล้ว 3 เรื่อง และเตรียมจะออกฉายภายในปีนี้อีกประมาณ 7 เรื่อง
ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของอาร์เอส ที่จะผลิตภาพยนตร์ป้อนตลาดปีละ 10 เรื่อง โดยคาดว่าภายในปีนี้จะมีรายได้จากภาพยนตร์
500 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเรื่องละ 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ที่โตกว่าปี 2545 ที่มีการรับรู้รายได้จากธุรกิจภาพยนตร์เพียง
1.5 เรื่องเท่านั้น
"จากการเดินสายโรดโชว์ในที่ต่างๆ พบว่าหลายคนมองว่าธุรกิจภาพยนตร์มีความเสี่ยง
แต่เมื่อผมนำเสนอแผนงานแล้วทุกคนก็เข้าใจว่ามันไม่เสี่ยง เพราะหนังที่แย่งที่สุดของเราก็คือเท่าทุน
จากรายได้ที่ฉายในโรงภาพยนตร์ สายหนังต่างจังหวัด และการผลิตเป็นวีซีดี ซึ่งยังไม่นับรวมถึงการขายลิขสิทธิ์ในต่างประเทศที่เป็นเสมือนกำไร
แต่ถ้าเราทำดี มันทำรายได้ให้มากทีเดียว เช่น มือปืน/โลก/พระ/จัน หรือพันธุ์ร็อค
หน้าย่อน เป็นต้น" นายสุรชัย กล่าว
นอกจากนี้ อาร์เอส ยังได้ขยายธุรกิจที่เกี่ยว ข้องกับภาพยนตร์ สู่ เทเล มูฟวี่
ซึ่งเป็นการผลิต ภาพยนตร์ลงบนแผ่นวีซีดีออกจำหน่าย ซึ่งใช้เงิน ลงทุนไปประมาณ 120
ล้านบาท สำหรับผลิตภาพ ยนตร์ไทยลงบนแผ่นวีซีดีออกจำหน่าย 25-30 เรื่อง หรือใช้เงินลงทุนเรื่องละ
4 ล้านบาท และคาดว่าแต่ละเรื่องจะทำรายได้ขั้นต่ำให้แก่อาร์เอส ประมาณ 6 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ริงโทน การขาย คอนเทนต์ ผ่านเว็บไซต์โมบี้ คลับ
และการจัดเก็บลิขสิทธิ์คาราโอเกะ ก็เป็นรายได้ใหม่ที่เพิ่มขึ้น เรื่อยๆ
ทั้งนี้ นายสุรชัย กล่าวว่า โฉมหน้าของอาร์เอส นับจากนี้ไปจะพลิกบทบาทไปสู่การเป็นบริษัทบันเทิงที่ครบวงจร
ที่ตลอดเวลาอาร์เอสไม่เคยไปเทียบกับคู่แข่งขันรายใด แต่จากการขยายธุรกิจใหม่ จะส่งผลให้อาร์เอสเป็นบริษัทบันเทิงรายใหญ่
ที่ทำธุรกิจอย่างครบวงจร โดยเฉพาะธุรกิจภาพยนตร์ ที่อาร์เอส คาดว่าน่าจะเป็นรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ที่แม้แต่ค่ายสหมงคลฟิล์ม ผู้สร้างหนังรายใหญ่ ก็ยังมีภาพ ยนตร์เข้าฉายในโรงภาพยนตร์เพียงปีละ
7 เรื่อง เท่านั้น ขณะที่อาร์เอสจะมีถึง 10 เรื่องต่อปี
สำหรับวานนี้ (8 พ.ค.) บริษัท อาร์ เอส โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัท
หลักทรัพย์ แอสเซท พลัส จำกัด ผู้จัดการจำหน่ายหุ้นอาร์เอสฯ ประกาศราคาเสนอขายหุ้นอาร์
เอสฯ ที่ราคา 28 บาทต่อหุ้นและแต่งตั้ง 6 บริษัทหลักทรัพย์เป็น Underwriter พร้อมจัดงานใหญ่
Investors Roadshow แนะนำนักลงทุนวันนี้ ( 9 พ.ค.)
โดยดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธาน กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ แอสเซ็ท
พลัส จำกัด กล่าวถึงความคืบหน้าของการระดมทุนครั้งนี้ว่า "การกำหนดราคาเสนอขายต่อหุ้นในครั้งนี้จะเป็น
Fixed Price บริษัทและที่ปรึกษาร่วมกันกำหนดขึ้น โดยประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัทฯ
ด้วยวิธีส่วนลดกระแสเงิน สด (DCF) ประกอบกับการใช้วิธีเทียบเคียง ราคาตลาด (Market
Comparable) ซึ่งทำให้กำหนดราคาของหุ้นได้อย่างโปร่งใสและมีหลักการ เพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั่วไปว่าราคาเสนอขายต่อหุ้นที่
28 บาทนี้ เป็นราคาที่เหมาะสม"
สำหรับในวันนี้ (9 พ.ค.) อาร์ เอสฯได้จัดงานเพื่อแนะนำบริษัทและให้ข้อมูลกับนักลงทุนอย่างเป็นทางการที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ
ไทย เวลา 12.30 น. ซึ่งการจัดงานครั้งนี้จะประมวลความสำเร็จของบริษัทในทุกแขนงธุรกิจ
บันเทิง ไม่ว่าจะเป็น เพลง , ละคร , ภาพยนตร์ , รายการวิทยุ , รายการโทรทัศน์ มานำเสนอพร้อม
กับศิลปินดารา-นักร้อง นักแสดงที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง