|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ ธันวาคม 2550
|
|
เมื่อยังเป็นเด็กเล็กๆ อาศัยอยู่ที่ Bronx นักออกแบบชื่อกระฉ่อนโลกอย่าง Ralph Lauren จำได้ดีว่า เขาตกหลุมรักเจ้ารองเท้าหนังกลับสีน้ำเงินคู่เท่ที่ตั้งโชว์อยู่ในร้านที่ต้องเดินผ่านตอนกลับจากโรงเรียนทุกวันอย่างจัง เวลานั้นสิ่งที่เขาทำได้ก็เพียงแค่ยืนมองดูตาละห้อยเพราะความอยากได้แต่ไม่มีเงินซื้อ
ณ วันนี้ Lauren มั่งคั่งล้นเหลือเสียจนสามารถซื้อรองเท้าหนังกลับสีน้ำเงินมากองให้สูงเท่ายอดเขาเอเวอร์เรสต์ก็ยังได้ แถมยังมีเงินเหลือเฟือจนอยากจะซื้ออะไรก็ได้เท่าที่ใจปรารถนา แต่เขากลับทุ่มเทเวลาและแรงกายแรงใจที่มีอยู่รณรงค์ให้คนทั้งโลกเห็นคล้อยและซื้อแนวคิดเรื่อง "การมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี" อย่างเอาจริงเอาจัง นั่นเป็นเพราะทุกวันนี้บริษัท Polo Ralph Lauren ของเขามีห้างในทั่วโลกร่วม 300 แห่ง และทำยอดขายถึง 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ "สิ่งที่ผมทุ่มเทให้คือเรื่องของการดำเนินชีวิต" ยอดนักออกแบบเขียนไว้ในหนังสือ Ralph Lauren ที่จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 40 ปีของบริษัท "คุณต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้"
"ผมโปรดปรานสถานที่ที่ทำให้ชีวิตเราเกิดการเปลี่ยนแปลง" จึงไม่แปลกที่ตัวเขาและ Ricky ภรรยาคู่ชีวิตจะมีคฤหาสน์ถึง 5 แห่งไว้ในครอบครอง แต่ละแห่งก็มีหน้าที่แตกต่างกันตามจุดประสงค์ของผู้เป็นเจ้าของ ที่แมนฮัตตันพวกเขามีอพาร์ตเมนต์และบ้านอีก 2 หลังอยู่ใกล้ๆ กัน แห่งที่สองเป็นบ้านริมชายหาดอยู่ที่ Montauk ตรงส่วนปลายสุดของเกาะ Long Island แห่งที่สามเป็นคฤหาสน์ใน Bedford ห่างจากนิวยอร์กซิตี้ไปทางเหนือราว 1 ชั่วโมง นอกจากนี้มีฟาร์มอีกแห่งหนึ่งอยู่ที่โคโลราโด และแห่งสุดท้ายเป็นบ้านพักตากอากาศระดับหรู ในรีสอร์ต Round Hill ใกล้กับอ่าว Montego Bay บนเกาะจาเมกา
"ฟาร์มที่โคโลราโดเอาไว้สนุกกับชีวิตบนแผ่นดินใหญ่" Lauren อธิบายพร้อมรายละเอียดว่าที่นี่มีเนื้อที่กว่า 15,000 เอเคอร์ไว้ให้ครอบครัวที่รักกีฬาเป็นชีวิตจิตใจได้ยืดเส้นยืดสาย เดินป่า และขี่ม้า ขณะที่สองสามีภรรยากับลูกชายสองคนและลูกสาวอีกหนึ่ง ซึ่งต่างก็เติบโตเป็นหนุ่มสาวกันหมดแล้วมีบ้านบนเกาะจาเมกาไว้พักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นการนอนเล่นบนผืนทรายหรือผูกเปลญวนแล้วนอนแกว่งไกวจนผล็อยหลับไป
"ผมมีชีวิตที่เร่งรีบมาก" Lauren เล่าถึงชีวิตนักธุรกิจ "มีงานยุ่งตลอดเวลา แต่เมื่ออยู่ที่จาเมกาผมไม่มีข้อผูกมัดอะไรเลย มันเป็นโลกที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เพราะห่างไกลออกมาจากทุกสิ่งทุกอย่างจึงมีแต่ความสงบ"
คฤหาสน์หลังแรกบนเกาะจาเมกาที่ครอบครัว Lauren ซื้อไว้เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้วและตั้งชื่อว่า High Rock ตั้งอยู่ตรงจุดสูงสุดของรีสอร์ต Round Hill รีสอร์ตนี้ตั้งอยู่บนแหลมยื่นไปในทะเลและประกอบด้วยโรงแรมหนึ่งแห่งกับวิลล่าอีก 29 หลัง
High Rock สร้างขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1950 มี Clarence Dillon ผู้บริหารระดับสูงของกิจการวาณิชธนกิจที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเป็นเจ้าของเดิม และออกแบบโดย F. Burrall Hoffman, Jr. สถาปนิกชื่อดังผู้ออกแบบ Halianate Villa Vizcaya ในไมอามี แต่ Lauren กลับมีความเห็นแตกต่างจากสถาปนิกผู้ออกแบบตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เห็นคฤหาสน์หลังนี้
"มองในมุมหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นบ้านที่วิเศษมาก แต่มันก็มีบรรยากาศมืดทึบแลดูทึมๆ เป็นอะไรที่สะท้อนถึงอดีต ไม่สดใสหรือน่าอภิรมย์เอาเสียเลย เห็นได้จากบานประตูไม้มะฮอกกานีที่สวยงามตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่กลับทาด้วยสีเทาจนแลดูเหมือนสีของเรือรบ ตัวบ้านโดยรวมมองดูแล้วเหมือนโรงพยาบาลมากกว่า เราจึงเข้าบูรณะตกแต่งเสียใหม่ให้เป็นอย่างที่คิดว่าควรจะเป็น เราเดินคิ้วบนตัวผนัง และทำให้เกิดความสง่างามมีความพิเศษในตัวเอง"
Lauren ยังให้แทนที่สระว่ายน้ำเล็กๆ ที่เหมือน "อ่างอาบน้ำ" ของเจ้าของเดิมด้วยสระขนาดใหญ่ขึ้นจนทำให้สามารถมองเห็นคลื่นเล็กๆ บนผิวน้ำเมื่อยามต้องแรงลม มองดูแล้วเพลินตาได้ ครอบครัวนักออกแบบชื่อดังของโลกยังเพิ่มโครงสร้างใหม่เข้าไปทั้งหมด ด้วยการออกแบบให้มีห้องฉายภาพยนตร์ ซึ่งพวกเขาชอบมารวมตัวกันหาความสุขสนุกสนานจากการดูภาพยนตร์ด้วยกันในยามค่ำคืน ห้องฉายภาพยนตร์นี้ยังเปิดโล่งสู่ป่าดิบชื้นที่รายล้อมอยู่รอบพื้นที่ 20 เอเคอร์ทั้ง 3 ด้าน นอกจากภาพยนตร์เรื่องโปรดแล้ว พวกเขายังได้รับความบันเทิงและความสุขจากธรรมชาติในท้องถิ่นของจาเมกา นั่นคือเสียงร้องของบรรดานกแก้วสีเขียวพันธุ์พื้นเมืองยามพวกมันบินโฉบผ่านไปมา นอกจากจะเปิดโล่งสู่ธรรมชาติเต็มที่แล้ว ห้องนี้ยังมีเพียงพัดลมเพดานสำหรับให้ความเย็นสบายเท่านั้น ไม่มีเครื่องปรับอากาศแต่อย่างใด(ดูภาพประกอบ)เพราะ "ดิฉันชอบลมจากทะเล และคิดว่าพัดลมเพดานให้ความรู้สึกโรแมนติกดีจัง" Ricky คู่ชีวิตของ Ralph ให้เหตุผล
เมื่อลูกๆ ทั้งสามเติบโตขึ้น สองสามีภรรยาตัดสินใจว่าพวกเขาต้องขยับขยายเสียแล้ว จึงซื้อคฤหาสน์แห่งที่สองในปี 1996 และตั้งชื่อว่า Cottage 26 ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลสวยมาก คือติดทะเลและห่างจากเนินเขาด้วยระยะทางเดินด้วยเท้าไม่กี่ก้าวเท่านั้น
เจ้าของเดิมคือ William Paley นั้นได้ชื่อว่าเป็นยักษ์ใหญ่ในโลกธุรกิจของนิวยอร์ก เพราะเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท CBS ด้วยฐานะมั่งคั่งล้นเหลือนี้เองทำให้ Paley สามารถทุ่มเงินสร้างคฤหาสน์ด้วยการระเบิดหินเพื่อให้เกิดพื้นที่ที่ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร จากนั้นก็สร้างสถูปแล้วห้อมล้อมด้วยห้องนอน 4 ห้อง (ดูภาพประกอบ)
Josef Forstmayor กรรมการผู้จัดการของรีสอร์ต Round Hill เล่าว่า "เดิมคฤหาสน์นี้ก็สวยงามมากอยู่แล้ว แต่ Ralph Lauren ก็เข้ามาปรับปรุงให้ดีขึ้นอีกด้วยการขยายเทอร์เรซออกไป และทำให้แลดูมีพื้นที่เพิ่มมากขึ้นด้วยการยกส่วนของประตูและหน้าต่างให้สูงขึ้นอีก 2 ฟุต รวมทั้งยกแนวหลังคาขึ้นอีก 3 ฟุต ตอนนี้จึงวิเศษน่าทึ่งจริงๆ เพราะทำให้รู้สึกว่าได้สัมพันธ์และใกล้ชิดกับมหาสมุทรและโขดหินมากขึ้น"
จริงๆ แล้ว Ralph Lauren ได้แรงบันดาลใจเริ่มแรกในการสร้างรสนิยมแบบยุโรปจ๋าหรือ High WASP จากการเปิดดูหนังสืออนุสรณ์ประจำปีของมหาวิทยาลัย Harvard, Yale และ Princeton จนเกิดความประทับใจ และบังเอิญคฤหาสน์ High Rock ก็มีโครงสร้างของสถาปัตยกรรมสไตล์ทศวรรษ 1940 และ 1950 อย่างครบถ้วน "เป็นบ้านที่มีความเป็นอังกฤษในแบบที่ผมชอบมากๆ คือมีความสง่างามแบบ Old World ที่ผมเรียกได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็นเพชรน้ำงาม"
นอกเหนือจากนี้ High Rock ยังสะท้อนถึงความรักที่ครอบครัว Lauren มีต่อจาเมกาด้วย เห็นได้จากที่ Ricky ภรรยาคู่ชีวิตของเขาเอ่ยถึงในหนังสือ My Island ที่เธอเขียนเองว่า "เป็นบ้านที่เต็มไปด้วยสีสัน มีชีวิตชีวาและน่าประทับใจที่สุดเท่าที่ดิฉันเคยเห็นมา"
หนังสือเล่มนี้จึงมีภาพประกอบที่แพรวพราวไปด้วยความสดใสของดอกไม้หลากสีสันไม่ว่าจะเป็นชมพู แดง และส้ม รวมทั้งภาพดวงอาทิตย์สีทองกำลังลาลับขอบฟ้าในยามเย็น และนั่นอาจเป็นแรงบันดาลใจให้เธอนำความมีชีวิตชีวาของสีสันเหล่านี้มาอยู่บนโต๊ะอาหารด้วย "ที่ตัวบ้านหลังใหญ่ดิฉันจะใช้ผ้าเช็ดปากและผ้าปูโต๊ะสีสดแบบเดียวกับดอกไม้แสนสวยของจาเมกา ดิฉันชอบที่จะตกแต่งให้เกิดบรรยากาศสนุกสนานและตื่นเต้นบนโต๊ะอาหาร"
สำหรับบ้านหลังเล็กติดกับตัวมหาสมุทร ซึ่งครอบครัว Lauren ตั้งชื่อให้ว่า White Orchid จะได้รับการออกแบบตกแต่งให้สื่อถึงบรรยากาศอีกแบบหนึ่งที่แตกต่างออกไปอย่างที่ภรรยาเจ้าของบ้านอธิบายว่า "เป็นบ้านสีขาวสะอาดบริสุทธิ์ที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนลอยอยู่กลางทะเล และมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เสียด้วยนะคะ" เพราะเธอเลือกใช้สีที่สื่อถึงทะเลล้วนๆ คือขาวและฟ้าน้ำทะเล
ความรักที่ครอบครัว Lauren มีต่อจาเมกาไม่ได้เป็นเพียงลมปากที่พูดพล่อยๆ เพื่อให้ฟังดูดีเท่านั้น แต่ยังมีการกระทำให้เห็นเป็นรูปธรรมมากมายจนนับไม่ถ้วน นับตั้งแต่การบริจาคเงินให้กับองค์กรท้องถิ่นที่มีวัตถุประสงค์แตกต่างกัน อาทิ มหาวิทยาลัย ตลอดไปจนถึงแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้าน ที่สำคัญเขาช่วยโฆษณาเกาะจาเมกาแก่นักท่องเที่ยวได้อย่างน่าประทับใจด้วยการขายเชิ้ตและกางเกงขาสั้น Polo ที่ปั๊มตรา Destination Jamaica ไว้ทุกตัวจนรัฐบาลจาเมกาซาบซึ้งใจกับวิธีการนี้มากและมอบเครื่องอิสริยาภรณ์ Order of Distinction ให้เพื่อเป็นเกียรติ รวมทั้งพิมพ์แสตมป์ที่มีใบหน้ายิ้มแย้มของเขาออกเผยแพร่ ซึ่งในอดีตมีเพียงวิสตัน เชอร์ชิลล์ และเจ้าหญิงไดอาน่าเท่านั้นที่ได้รับเกียรตินี้
Ricky เขียนในหนังสือ My Island ว่า "คุณควรทำแต่ในสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขเท่านั้น"
คำพูดนี้ถือได้ว่าเป็นหลักในการดำเนินชีวิตของทั้งคู่เลยก็ว่าได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด Ralph Lauren สรุปตบท้ายอย่างน่าฟังว่า เขายังคิดว่าตัวเองเป็นเด็กผู้ชายที่ยืนอยู่หน้าตู้โชว์รองเท้าหนังกลับสีน้ำเงินอยู่ดี เพราะเขายัง "โหยหาสิ่งที่ทั้งสวยงามและไม่มีกาลเวลาอยู่ตลอดเวลา"
สำหรับดีไซเนอร์มือฉมังผู้นี้แล้ว การโหยหาและความสำเร็จถือเป็นหนึ่งเดียวกันและเป็นสิ่งเดียวกัน เพราะมันนำมาซึ่งความสุขเหมือนกัน!
แปลและเรียบเรียงโดย ดรุณี แซ่ลิ่ว
จากนิตยสาร Architectural Digest/November 2007
|
|
|
|
|