Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ธันวาคม 2550








 
นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2550
ทางเลือกใหม่สำหรับคอ “สุกี้”             
โดย สุภัทธา สุขชู
 


   
www resources

โฮมเพจ ร้านอาหารบัว

   
search resources

Restaurant
บัว, ร้านอาหาร
ดั๊กกี้ สุกี้
อัญชลี โอสถานุเคราะห์
สมปรารถนา กฤษณคุปต์




กลิ่นหอมของน้ำซุปที่โชยขึ้นมาพร้อมกับไอน้ำทันทีที่เปิดฝาหม้อ ภายในหม้อคือน้ำซุปที่กำลังเดือดพ่นฟองปุดๆ ถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการรับประทานสุกี้ยากี้ที่คอ "สุกี้" คุ้นเคยอย่างดี

ด้วยสภาพเมืองที่แออัด การจราจรหนาแน่นขึ้นในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ทำให้คอ "สุกี้" พันธุ์แท้ที่อยู่ในกรุงเทพมหานครอาจมีความรู้สึกว่าถูกบีบบังคับกลายๆ เมื่อถึงเวลาที่อยากรับประทานสุกี้หม้อโปรด เพราะเขาหรือเธอเหล่านั้นจำเป็นต้องเข้าไปใช้บริการร้านสุกี้ที่อยู่ภายในศูนย์การค้า ซึ่งแม้ว่าจะมีสถานที่ให้จอดรถได้อย่างสะดวกสบาย แต่ก็มีแบรนด์สุกี้ให้เลือกเพียง 1-2 แบรนด์เท่านั้น

การเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตคนเมือง ส่งผลให้พฤติกรรมการบริโภคสุกี้ยากี้จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้!!!

แม้ว่าแบรนด์สุกี้ดั้งเดิมอย่างโคคาหรือแคนตันที่ไม่นิยมขยายสาขาเพื่อเพิ่มจุดขาย ยังมีลูกค้าขาประจำเข้าไปใช้บริการแน่นร้านที่สยามสแควร์อยู่ทุกวัน แต่เนื่องจากจุดขายของร้านที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งทำให้โอกาสของคนอีกหลายคนที่ต้องการรับประทานสุกี้คุณภาพ ชนิดที่เรียกว่าเนื้อเป็นเนื้อมีน้อยลงไปด้วยโดยปริยาย

ธุรกิจร้านสุกี้ยากี้คุณภาพจึงยังคงมีช่องว่างที่เปิดให้คนที่เป็นคอสุกี้ตัวจริงกระโดดเข้ามาจับ

ด้วยความที่มีชื่อเสียงในด้านรสชาติของอาหารไทยมาช้านาน จนชื่อของแบรนด์ติดตลาด ทำให้ร้านอาหาร "บัว" ให้ความสนใจจะเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับคอสุกี้เหล่านี้

ร้าน "ดั๊กกี้ สุกี้" ที่การันตีโดย "บัว" เป็นแบรนด์ที่เปิดตัวขึ้นมาเพื่อสอดแทรกเข้าไปในช่องว่างดังกล่าว

จุดเด่นที่นำมาใช้เป็นจุดขายของดั๊กกี้ สุกี้ คือจุดเด่นที่ร้านบัวประสบความสำเร็จมาแล้ว นั่นคือคุณภาพและรสชาติของอาหาร ไม่ได้เน้นที่สาขา

เป็นสาเหตุให้ในช่วง 6 ปี ตั้งแต่เริ่มเข้ามาจับธุรกิจนี้เมื่อปี 2545 ร้านดั๊กกี้ สุกี้ จึงมีสาขาเพียง 3 แห่งเท่านั้น

โดยสาขาล่าสุดที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อกลางปีที่ผ่านมานี้เอง

"การจะเปิดสาขาแต่ละแห่ง เราต้องดูให้แน่ใจก่อนว่าเรามีความพร้อมแล้วจริงๆ ไม่ใช่เมื่อขยายออกไปแล้ว คุณภาพอาหารของเรากลับลดลง" สมปรารถนา กฤษณคุปต์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจร้านอาหารบัว ให้เหตุผลกับ "ผู้จัดการ"

สมปรารถนามีศักดิ์เป็นหลานของอัญชลี โอสถานุเคราะห์ ภรรยาของเสรี โอสถา นุเคราะห์ ผู้ก่อตั้งร้านอาหารบัว เมื่อหลายปีก่อน

จุดกำเนิดของร้านบัวเกิดจากความเป็นคนชอบทำและรับประทานอาหารของอัญชลี ที่เมื่อทราบว่าที่ใดมีอาหารอะไรอร่อยก็มักจะเสาะแสวงหาไปรับประทาน จนได้สูตรหรือเคล็ดลับ และสามารถสร้างเครือข่ายพ่อครัวมีฝีมือขึ้นมาได้จำนวนหนึ่ง จึงคิดเริ่มต้นทำเป็นธุรกิจ

และด้วยความที่มีฐานะอยู่แล้ว การเข้ามาทำธุรกิจร้านอาหารของอัญชลีจึงไม่ได้เน้นที่กำไรเป็นหลัก แต่เน้นที่คุณภาพของอาหาร ตั้งแต่การสรรหาวัตถุดิบ เครื่องปรุง การสร้างสรรค์เมนู ตลอดจนบรรยากาศของร้าน เพื่อให้ลูกค้าได้รับประทานอาหารที่มีรสชาติอร่อยจริงๆ

ร้านดั๊กกี้ สุกี้ ก็ยึดแนวทางนี้เช่นกัน ด้วยความที่อัญชลีมีสูตรน้ำจิ้มเป็นของตนเอง จึงมักชักชวนญาติมิตรเพื่อนสนิทมาทำสุกี้กินกันที่บ้านเป็นประจำ เมื่อคนที่มากินเริ่มติดใจในรสชาติ ก็เริ่มเชียร์ให้เปิดร้าน

ปี 2545 ดั๊กกี้ สุกี้ สาขาแรกจึงเกิดขึ้นบนพื้นที่ข้างๆ ร้านอาหารบัว ศรีนครินทร์ ก่อนจะขยายมาเปิดสาขาที่ 2 ที่พรีเมียร์ พระราม 9 ในอีก 2 ปีต่อมา

ย้อนกลับไปถึงเรื่องราวของร้านอาหารบัว สำหรับลูกค้าขาประจำที่ติดใจในรสชาติอาหารไทยของร้านอาหารแบรนด์นี้ อาจรู้สึกว่าเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นในระยะหลังๆ โดยเฉพาะกับร้านอาหารบัว สาขาเกษตร

สาเหตุเนื่องจากในกลุ่มของผู้ก่อตั้งร้านอาหารบัว นอกจากอัญชลีที่อยู่ในสายโอสถานุเคราะห์แล้วยังมีอีกสายหนึ่ง คือสายกรรณสูต นำโดยมานะ กรรณสูต น้องชายของ นพ.ชัยยุทธ กรรณสูต

มานะเป็นเพื่อนสนิทของเสรี โอสถานุเคราะห์ ที่เคยร่วมกันก่อตั้งบริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการขึ้นมาด้วยกัน

ระยะหลังเมื่อเจเนอเรชั่นที่ 2 ของสายกรรณสูตเริ่มเข้ามามีบทบาทในธุรกิจ มองเห็นช่องทางการขยายตัวของธุรกิจร้านอาหารว่าน่าจะเน้นไปทางอาหารยุโรป โดยเฉพาะอาหารอิตาเลียน จึงปรับปรุงร้านบัวสาขาเกษตรเสียใหม่ แล้วเปลี่ยนมาใช้ชื่อ "โพลา โพลา" แต่ยังคงป้ายชื่อ "บัว" เอาไว้อยู่ข้างๆ

ขณะที่ "บัว" ในสายโอสถานุเคราะห์ ยังคงเน้นอาหารไทย แต่การขยายธุรกิจร้านอาหารไทยมีความยุ่งยากมากกว่า ดังนั้นเมื่อร้านดั๊กกี้ สุกี้ ทั้ง 2 สาขาประสบความสำเร็จ จึงมองว่าการขยายตัวของร้านอาหารน่าจะไปในทางร้านสุกี้ยากี้มากกว่า

"การจะเปิดร้านอาหารไทยที่มีเมนูให้เลือกถึงร้อยกว่ารายการ ไม่ใช่เรื่องง่าย ประกอบกับพฤติกรรมการรับประทานอาหารของคนเริ่มเปลี่ยนแปลงไป คนส่วนใหญ่เริ่มมองไปที่อาหารเพื่อสุขภาพ ร้านสุกี้จึงเข้ากับเทรนด์นี้ เราจึงคิดว่าจะขยายไปในแนวทางนี้จะดีกว่า" สมปรารถนาบอก

สำหรับสาขาล่าสุดของร้านดั๊กกี้ สุกี้ ในซอยสุขุมวิท 39 ถือเป็นการนำรูปแบบใหม่เข้ามาใช้ โดยเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรที่มองเห็นทิศทางธุรกิจที่ตรงกัน

จุดเด่นของสาขานี้คือการเดินทางที่สะดวก สามารถรองรับคนที่อาศัยหรือทำงานอยู่ในย่านสุขุมวิท ตั้งแต่แยกอโศก นานา ไปจนถึงทองหล่อ ประกอบกับสถานที่ตั้งก็มีที่จอดรถเพียงพอ เพราะอยู่ชั้นล่างของคอนโดมิเนียม เยื้องๆ กับโรงพยาบาลพร้อมมิตร

การนำรูปแบบร่วมทุนเข้ามาใช้ ถือเป็นการเริ่มต้นทดลองระบบ โดยศึกษาจุดเด่นจุดด้อย รวมทั้งขั้นตอนการจัดส่งวัตถุดิบจากร้านหลักที่ศรีนครินทร์มายังร้านสาขาที่จะต้องไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพของอาหาร

ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งของการขยายสาขาดั๊กกี้ สุกี้ ที่อาจนำรูปแบบของการขายแฟรนไชส์เข้ามาใช้ในอนาคต   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us