Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ธันวาคม 2535








 
นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2535
"เหนือสิ่งอื่นใดประชาชนต้องมาก่อน"             
 


   
search resources

United States
Political and Government




เช้าตรู่ของวันประกาศผลประธานาธิบดี ผู้คนในนิวยอร์กดูจะตื่นเช้ากว่าปกติบางบ้านเปิดประตูบ้าน เปิดประตูร้านค้าเร็วกว่าที่เคยเป็นคนเฒ่าคนแก่ตื่นขึ้นมาสูดอากาศกับวันฟ้าโปร่าง

โล่งอกไปเสียที! กับความอึดอัดที่นั่งลุ้นประธานาธิบดีคนใหม่กันตั้งแต่หัวค่ำ

ในที่สุดพระเจ้าก็ยืนอวยพรเคียงข้างให้กับชนชั้นกลางของอเมริกาชัยชนะอย่างท่วมท้นของ BILL CLINTON และพรรคดีโมแครต ได้บอกให้พรรครีพับลิกันรู้ว่า 12 ปีของการครองอำนาจการบริหารในทำเนียบขาวนั้นเพียงพอแล้ว คนอเมริกันขณะนี้ เบื่อหน่ายอึดอัดกับสภาพที่ไม่มีทางออกของปัญหาปากท้องของผู้คนใน "อเมริกา" คนตกงานเดินกันเกลื่อนถนน คนถูกลอยแพ, ถูกจ้างให้ออกจากงานมีเป็นจำนวนมาก

หนังสือพิมพ์ในนิวยอร์กฉบับหนึ่ง วางแผนก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสองวัน พูดถึงเรื่องราวชีวิตของความยากจนในอเมริกายามนี้เอาไว้ว่า…

"ไม่มีครั้งใดในประวัติศาสตร์อเมริกา ที่คนยากจนต้องเข้าคิวกินข้าวบริจาคจากโบสถ์จากวัดกันมากมายเท่ายุคสมัยนี้" คนยากจนเหล่านี้ยังไม่นับรวมพวก HOMELESS ที่นับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เข้าไปอีก ผู้ที่จะมาเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ จะต้องแบกรับปัญหาปากท้องของคนอเมริกาไว้ไม่ใช่น้อย การแก้ปัญหาความตกต่ำทางเศรษฐกิจภายในประเทศ เป็นสิ่งที่ท้าทายคนที่กำลังจะมาทำงานในทำเนียบขาว

BILL CLINTON ดูเหมือนจะชัดเจนต่อนโยบายการแก้ปัญหาภายในประเทศ มากกว่าผู้สมัครประธานาธิบดีคนอื่นๆ ด้วยการร่างเค้าโครงยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจของอเมริกา "เหนือสิ่งอื่นใดประชาชนต้องมาก่อน" (PUTTING PEOPLE FIRST)

ทำไม BUSH จึงพ่ายแพ้ต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีในครั้งนี้?

คำถามนี้ดูจะมีคำอธิบายภายหลังจากที่คะแนนเสียงอย่างท่วมท้นเทให้กับ BILL

BUSH เกิดในครอบครัวคนมีเงิน ครอบครัวของ BUSH ในขณะนี้มีธุรกิจน้ำมันขนาดใหญ่ในรัฐ TEXAS BUSH เป็นคนมีเงินติดอันดับมหาเศรษฐีคนหนึ่งของอเมริกาเลยทีเดียว นอกจากนั้น บุช ยังทำงานในทำเนียบขาวนานกว่าสิบปี เขาเคยเป็นผู้อำนวยการซี ไอ เอ (ศูนย์ข้อมูลข่าวสารแห่งชาติอเมริกา)

หลายปีที่ผ่านมา BUSH คงจะลืมไปแล้วว่า รสชาติของความยากจนนั้นเป็นอย่างไร ภาวะของการไม่มีงานทำความสับสนความอดอยากและปัญหาครอบครัวของชนชั้นกลางในอเมริกานั้นเป็นอย่างไร สิบกว่าปีที่ผ่านมา BUSH ในฐานะสมาชิกพรรครีพับลิกันผู้มีเงินนั่งทำงานใน WHITE HOUSE สิบกว่าปีที่ผ่านมาอาจจะทำให้เขาหลงลืมไปเสียแล้วว่า "อเมริกานั้นมีปัญหาภายในประเทศที่ต้องแก้ไข" และ BUSH เขาอาจจะหลงลืมไปเสียจริงๆ ก็ได้ว่าในทุกวันนี้ "ความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมันอเมริกานั้น ถูกสร้างขึ้นท่ามกลางขอนไม้ผุ"

ในขณะที่ BUSH หาเสียงท่ามกลางสมาชิกคนร่ำรวยของรีพับลิกันเสียงปรบมือสนับสนุนบุช ดูจะหนักแน่นยาวนานเป็นพิเศษ ทุกครั้งดูเหมือนบุช จะบอกเตือนพวกรีพับลิกันไว้ก่อนเสมอ ให้ระวังนโยบายของบิลล์ คลินตันเอาไว้ให้ดี

"ท่านสุภาพสตรี ท่านสุภาพบุรุษพวกท่านต้องระมัดระวังเงินในกระเป๋าเอาไว้ในดี

บิลล์ คลินตันคนนี้ กำลังจะมาเอาเงินออกจากกระเป๋าของคุณ "นั่นก็คือการหาเสียงของบู๊ช ยามที่หาเสียงในหมู่พวกรีพับลิกัน

ส่วนการหาเสียงของบิลล์ เหมือนจะเข้าถึงความรู้สึกของชนชั้นกลางและคนจนในอเมริกามากกว่า

"พี่น้องอเมริกาที่รัก อเมริกาเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจ รสชาติของชีวิตความขมขื่นแบบนี้ผมรู้ ครอบครัวบางครอบครัวต้องแตกสาแหรกขาด ผมเข้าใจในความรุ้สึกของครอบครัวนี้ไม่มีงานทำ ยิ่งเป็นในย่านเมืองอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ขวดเหล้าดูเหมือนจะกองเต็มอยู่หลังบ้านคนงาน เพียงเพื่อเป็นทางออกอันน้อยนิด พ่อและแม่เด็กบางครอบครัวต้องหย่าร้าง ภาวะความระส่ำระสายเหล่านี้เป็นผลพวกมาจากปัญหาเศรษฐกิจโดยแท้ชนชั้นกลางอย่างเราดูจะแบกรับปัญหาไว้เต็มประดา"

การหาเสียงของบิล เข้าถึงจิตใจของชนชั้นกลางในอเมริกาขณะนี้ ก็เพราะพื้นฐานชีวิตในวัยเยาว์ของ BILL CLINTON ก็มิได้ต่างกันมากในสิ่งที่เขาพูด

จากหนังสือชื่อ "เหนือสิ่งอื่นใดประชาชนต้องมาก่อน"เค้าโครงยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจแห่งชาติของอเมริกาซึ่งเขียนโดยบิลล์ คลินตัน, บิลล์พูดถึงนโยบายของบุชและพรรครีพับลิกันเอาไว้ว่า

"12 ปีที่ผ่านมาของการทำงาน ของรีพับลิกันในทำเนียบขาว เขาเชื่อว่าความร่ำรวยจะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ เปรียบเสมือนเอาเงินดอลลาร์เทลงจากภูเขาปล่อยให้มันไหลกระจายไปถึงคนจน เมื่อน้ำไหลจากภูเขา เงินเหล่านี้ก็จะกระจายไปถึงมือคนจนในที่สุด ยามที่น้ำขาดแคลนกาลกลับกลายเป็นว่าคนที่อยู่ต้นเขื่อนกลายเป็นผู้มั่งคั่งไป มีน้ำกินน้ำใช้ไปตลอดชีวิต ยิ่งเป็นคนใกล้ชิดประธานาธิบดีผู้เป็นเสมือนคนที่ควบคุมเปิดปิดน้ำบริเวณเขื่อนด้วยแล้ว เป็นอันว่าพวกนี้มีน้ำกินน้ำใช้ไปถึงลูกถึงหลาน

ด้วยความเชื่อ ในความเข้าใจของสังคมแบบนี้กระมัง จึงไม่ใช่สิ่งแปลกที่มีข่าวเปิดเผยอยู่บ่อยครั้งว่า สมาชิกพรรครีพับลีกันคนรวยๆ บริจาคเงินสนับสนุนพรรคจำนวนมหาศาล โดยมีเงื่อนไขแลกเปลี่ยน ให้ประธานาธิบดีอนุมัติโครงการช่วยเหลือในการขยายงานของบริษัทของพวกเขา ก็ด้วยความเชื่อว่าความร่ำรวย จะไหลจากภูเขาสูงลงสู่ที่ต่ำแบบนี้ของบุชและพวกรีพับลิกัน บิลล์ คลินตันจึงชนะใจชนชั้นกลางไปในที่สุด

การบริจาคเงิน ให้พรรคการเมืองเพื่อการแลกเปลี่ยนเงื่อนไข เป็นสิ่งที่เปิดเผยกลายเป็นประเพณีประชาธิปไตยไปเสียแล้ว การบริหารงานของบุชภายใต้ความเชื่อที่อยู่เบื้องหลังว่า "เงินจะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ความมั่งคั่งจะไหลจากคนรวยไปสู่คนจนในที่สุด" ทำให้บุชไม่ได้เข้าไปตรวจสอบการล้มละลายของธนาคาร และบริษัทใหญ่ๆ แต่ในขณะเดียวกันรัฐบาลที่วอชิงตัน กลับเอาภาษีที่ได้มาจากคนส่วนใหญ่ เข้าไปช่วยค้ำจุนในธนาคารเหล่านี้ เรื่องราวกลับกลายเป็นว่า ลูกหลานครอบครัวของบรรดานายธนาคารร่ำรวยไปตามๆ กันหลังจากที่ธนาคารล้มละลาย

เมื่อถามคนอเมริกาายามนี้ว่ารู้สึกอย่างไรกับบุช หลายคนก็จะตอบว่า "พอแล้ว" "เต็มทนแล้ว" "ITS TIME FOR CHANGE" ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงเสียที ยามที่เดินผ่านผู้คนในแมนฮัตตัน เราก็จะพบแต่เข็มกลัดรณรงค์ของบิลล์ นักศึกษา, สุภาพสตรี, คนแก่ดูเหมือนจะเป็นฟันเฟืองรณรงค์ตัวสำคัญ บางคนเป็นอาสาสมัครรณรงค์ให้กับบิลล์ โดยมิได้ผลประโยชน์ตอบแทน อากาศจะหนาวอย่างไร ก็ยังเดินออกจากบ้านพร้อมป้ายมีใจความว่า "ถึงเวลาแล้วที่อเมริกาต้องเปลี่ยนแปลง…ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นมาอีกครั้ง…"

และแล้วคืนวันที่ 2 พฤศจิกายนอเมริกาก็เปลี่ยนจริงๆ สิ่งที่ผู้คนอเมริกาเฝ้ารอก็มาถึง

บุรุษไปรษณีย์ที่เดินส่งจดหมายตามบ้านคน เขาเป็นบุคคลที่เดินเคาะประตูบ้านแทบทุกบ้าน ทุกเช้าที่เขามาเดินส่งจดหมายตามบ้านคน บุรุษไปรษณีย์มักพูดกับเจ้าของบ้านเสมอก่อนหน้าวันเลือกตั้ง "สิบวันจากนี้ไปเราก็จะมีประธานาธิบดีคนใหม่" พร้อมๆ กับการวิจารณ์การทำงานของ บุชให้เจ้าของบ้านฟัง

รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่งบุรุษไปรษณีย์คนเดิม ก็มักจะพูดแบบเดิมเสมอจนถึงเช้าวันสุดท้าย หลังจากผลการเลือกตั้งออกมาว่า บิลล์ คลินตันได้เป็นประธานาธิบดี นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาเราก็ไม่ได้ยินเสียงบุรุษไปรษณีย์วิจารณ์การเมืองอีกเลย มีแต่ส่งยิ้มให้กับเจ้าของบ้านที่เปิดประตูออกมารับจดหมาย พร้อมกับยกหัวแม่โป้ง" ส่งเป็นภาษาใบ้ GOOD! "เป็นอันเชื่อได้ว่าบุรุษไปรษณีย์คนนี้ ทุ่มสุดตัวเพื่อการเปลี่ยนแปลงในอเมริกา

ประธานาธิบดีหลายต่หลายคนของอเมริกา จะเป็นคนที่มีประสบการณ์ช่วงชีวิต ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งแตกต่างจากบิลล์ เขาเป็นหนุ่มที่เติบโตจขึ้นมาในช่วงสังคมอเมริกากำลังต่อต้านสงครามเวียดนาม และบิลล์ก็เป็นผู้นำนักศึกษาคนหนึ่งที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านสงครามเวียดนามในมหาวิทยาลัย บุชเอาเรื่องราวการต่อต้านสงครามเวียดนามมากล่าว เพื่อปลุกกระแสชาตินิยมอเมริกาว่า…

"ในขณะที่ประเทศชาติมีศึกสงคราม บิลล์เป็นบุคคลที่ออกมาสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นของคนในชาติ บุคคลคนนี้หรือ! ที่จะมาเป็นผู้นำของอเมริกา" กระแสของพวกชาตินิยม ดูจะล้าสมัยในอเมริกาเสียแล้ว

แต่แล้ว บิลล์ก็แก้ข้อกล่าวหานั้นไปได้อย่างถูกอกถูกใจสื่อมวลชนรวมไปถึงปัญญาชนตามมหาวิทยาลัย "ท่านสุภาพสตรี ท่านสุภาพบุรุษ ผมรักประเทศของผม ผมรักประชาชนของผม ผมไม่อยากให้คนอเมริกาต้องสูญเสียชีวิตเยาวชนของเรา ผมรู้อยู่เสมอ ผมรักประเทศของผม แต่ในขณะเดียวกันผมก็รักสันติภาพด้วยเช่นเดียวกัน"

ในวัยเด็กบิลล์ถูกเลี้ยงดูมาอย่างไรเติมโตมาอย่งไรกำลังเป็นที่สนใจของผู้คนในอเมริกาในยามนี้

ชีวิตของชนชั้นกลางค่อนข้างต่ำอย่างเขา กว่าจะมาถึงวันนี้ได้มีเรื่องราวมากมาย ที่ผ่านเข้ามาอย่างขมขื่นเช่นกันในช่วงการหาเสียงมีการพยายามขุดคุ้ยเรื่องราวภายในครอบครัวของเขาขึ้นมาโจมตี ซึ่งก็เป็นเรื่องราวอันธรรมดาของวิถีชีวิตนักการเมือง แต่หากจะตีแผ่เรื่องราวในเชิงความจริง มันก็เป็นเรื่องราวที่สะท้อนชีวิตขื่นขมของชนชั้นกลาง เช่นกันกับชนชั้นกลางในสังคมไทย เพียงแต่จะยอมรับในรากเง่าของตนเองหรือไม่เท่านั้น บิลล์ดูจะไม่ค่อยปฏิเสธกลบเกลื่อนชีวิตชนชั้นกลางของเขา และเรื่องราวเหล่านี้นี่เองได้กลายเป็นความงดงามในชีวิตของเขาไปในที่สุด

"บิลล์ เคยมีปากเสียงกับพ่อเลี้ยงตอนที่พ่อเลี้ยงของเขาเมาเหล้า จะตบตีแม่และน้องชายของเขา บิลล์ซึ่งเป็นวัยรุ่นในขณะนั้น กระโดดเข้ามาปกป้องแม่และน้องชาย บอกพ่อเลี้ยงว่า หากจะตีแม่และน้องชายก็ต้องข้ามเขาไปเสียก่อน"

ก็เพราะเขามีเรื่องราวในชีวิตที่คล้ายคลึง กับวิถีชีวิตของชนชั้นในอเมริกาโดยทั่วๆ ไป เหตุนี้กระมังที่พวกเขาหาเช้ากินค่ำเทคะแนนเสียงให้เขา ล้ม BUSH ยักษ์ผู้เทเงินดอลลาร์ลงจากภูเขา

ปีนี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงในอเมริกา การแก้ปัญหาปากท้อง, การแก้ไขปัญหาภายในบ้านของตัวเอง ปัญหาคนว่างงาน, ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ, ปัญหาการถดถอยทางมาตรฐานการศึกษาของเยาวชน, คนสูงอายุไม่มีสวัสดิการรัฐมาดูแล ปัญหาอีกร้อยแปดพันเก้าที่รอและทีมงานมาแก้ไขตามที่ให้สัญญาไว้กับคนอเมริกาในยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจแห่งชาติอเมริกา ซึ่งเขียนโดย คลินตัน ความสนใจในเรื่องราวการเมืองระหว่างประเทศแทบไม่ได้ให้ความสำคัญเอาไว้เลย

ปีนี้เป็นปีที่พรรคดิโมแครตเข้ามามีบทบาท บริหารงานในทำเนียบขาวและปีนี้เช่นเดียวกันที่สมาชิก CONGRESS ของอเมริกา ก็กลายเป็นคนของดิโมแครตเสียเป็นส่วนใหญ่ กฎหมายกีดกันทางการค้า ซึ่งเคยออกมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจของอเมริกาเคย ทำเอาคนงานไทยตามโรงงานทอผ้า ตกงานไปหลายพันคนเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายเจิงกิน, ฟาร์มแอ็ก

กฎหมายกีดกันทางการค้าเหล่านี้ล้วนเป็นกฎหมายที่เสนอมาจากสมาชิกพรรคดิโมแครตทั้งสิ้น กฎหมายเหล่านี้เคยทำเอาสาวโรงงานทอผ้า ย่านอ้อมน้อยออกมาชุมนุมหน้าสถานทูตอเมริกามาแล้ว และประเทศไทยมีสินค้าที่ส่งเข้ามาตีตลาดในอเมริกาเป็นจำนวนมากเช่นกัน อเมริกาเปลี่ยนไปแล้ว…งานนี้เห็นทีประเทศไทยอาจจะต้องปรับตัวกันขนานใหญ่เป็นแน่ บิลบิลล์มักพูดเสมอตอนหาเสียง "นับแต่นี้ต่อไปอเมริกาจะขาดดุลการค้าอีกไม่ได้" และ "เหนือสิ่งอื่นใดประชาชนต้องมาก่อน"

ครับ! ประชาชนในที่นี้ประชาชนของอเมริกาครับ…

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us