Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ธันวาคม 2550








 
นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2550
ขอนไม้กับเรือ มิวสิกซีรี่ส์ 3 ตอนจบ             
โดย สมเกียรติ บุญศิริ
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท อาร์สยาม จำกัด

   
search resources

Musics
อาร์สยาม, บจก.
ภานุพันธ์ เพ็งคำ




เครื่องมือในการส่งให้เพลงแรงขึ้น หรือดึงความสนใจของคนฟังได้มากขึ้นก็คือมิวสิกวิดีโอ ซึ่งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง และมิวสิกวิดีโอเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ค่ายอาร์สยามกำหนดไว้ว่าจะเป็นเหมือนกองหนุนส่งเพลงไปให้ถึงฝัน

ภานุพันธ์ เพ็งคำ ถูกมอบหมายให้ทำหน้าที่นี้ และผ่านงานล่าสุดของเขา ก็คือมิวสิกซีรี่ส์จำนวน 3 ตอนของชุดเพลงขอนไม้กับเรือ ซึ่งมีนักร้อง 3 คนใน 3 อัลบั้มเป็นคนร้อง

ขอนไม้กับเรือของบ่าววี สองเราของบิว กัลยาณี และขอบคุณที่ยังรักกัน ของหลวงไก่ 2 เพลงแรกถือเป็นเพลงที่เกี่ยวเนื่องกัน แต่เพลงสุดท้ายเนื้อหาไปกันได้อย่างกลมกลืนกับสองเพลงแรก

"เหมือนกับมีอะไรมาดลบันดาลใจที่ให้ทำมิวสิกวิดีโอเพลงขอนไม้กับเรือให้จบแบบทิ้งท้ายเอาไว้"

ภานุพันธ์อธิบายถึงแรงบันดาลใจของจุดเริ่มต้น เขาอธิบายเพิ่มเติมว่าก่อนลงมือทำเพลงนื้ ศุภชัย นิลวรรณ กรรมการผู้จัดการของอาร์สยามบอกให้ทำแบบนี้ เพราะคิดว่า น่าจะมีอะไรต่อเนื่องมาอีก แล้วก็ได้เพลงสองเรา

ในความเป็นจริงเพลงสองเราของบิว กัลยาณี ถูกวางให้เป็นเพลงแก้ของเพลงขอนไม้อยู่แล้ว ทำให้รอยต่อของมิวสิกวิดีโอสองเพลงนี้เชื่อมกันสนิท

เนื้อหาหลักของมิวสิกซีรี่ส์ชุดนี้คือความรักของชายหญิงคู่หนึ่ง แตกต่างกันด้วยฐานะและการกีดกันจากทางบ้านของฝ่ายหญิง ผู้ชายเสียสละ ต้องการให้ผู้หญิงไปกับผู้ชายที่ดีกว่า แต่ผู้หญิงก็เสียสละด้วยการยอมทิ้งทุกสิ่งเพื่อมาอยู่กับชายที่ตัวเองรัก พร้อมๆ กับโรคร้ายที่กำลังรุมเร้า และมาซ่อนปมที่ภาคสามว่าทั้งคู่อยู่ร่วมกัน แต่ยังไม่สรุปว่าโรคร้ายจะทำอะไรนางเอก แล้วพระเอกจะทำอย่างไร โดยแต่ละเรื่องมีความยาวประมาณ 5 นาที

คล้ายกับจงใจให้มีภาค 4

ภานุพันธ์บอกว่ามิวสิกเพลงนี้เป็นดราม่า แต่ในความตั้งใจก่อนลงมือทำ ต้องการบอกให้รู้ว่าสังคมเราเปลี่ยนไป มีอะไรแปลกๆ และขาดความสามัคคี อยากให้ทุกคนรักกัน และเสียสละ

แนวคิดการเสียสละถ่ายทอดผ่านตัวเอกของเรื่องคือไม้และน้ำ ต่างคนต่างเสียสละให้กัน โดยมีพื้นฐานเดียวกันคือความรัก แต่จะมีกี่คนที่สามารถรับสารของเขาที่สื่อออกมาได้ เพราะเป็นเพียงจุดคิดเล็กๆ ที่หลายคนไม่ได้มองหรือตีความ

ส่วนเพลงที่สามของหลวงไก่ เป็นเพลงที่ไม่เกี่ยวเนื่องเท่าไร แต่เนื้อหาไปด้วยกันได้ เลยพ่วงกันเข้าไป

ส่วนผสมของเพลงกับมิวสิกซีรี่ส์ทำให้เพลงชุดนี้โด่งดังนานกว่าปกติ และอาจจะกลายเป็นการจุดชนวนต่อยอดเป็นภาพยนตร์ก็ได้ในอนาคต

ใครที่ได้ดูมิวสิก ซีรี่ส์ 3 ตอน หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าพระเอก นางเอก ติดกาแฟอย่างหนัก เพราะมีฉากดื่มกาแฟหลายฉาก โดยเฉพาะกาแฟแก้วแดงอย่างเนสกาแฟ

"เป็นเรื่องของสปอนเซอร์ เนสกาแฟเป็นสปอนเซอร์ให้กับทั้ง 3 คน และให้เป็นพรีเซ็นเตอร์เนสกาแฟที่ภาคใต้ด้วย"

เขาบอกว่าถ้าดูผ่านๆ ไม่คิดอะไรก็ไม่ผิดสังเกต ยกเว้นว่าตั้งใจดูก็จะเห็นว่ามันโดด แต่ก็ไม่ได้ล้ำเส้นมากเพราะมีกฎหมายควบคุมอยู่ ต่างจากในภาพยนตร์ หรือละครโทรทัศน์ที่ชัดเจนกว่านี้

ภานุพันธ์อธิบายว่าการทำมิวสิกวิดีโอของอาร์สยาม จะทำควบคู่ไปกับการทำอัลบั้มและเสร็จออกมาพร้อมๆ กับเพลงวางตลาด ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะว่าหากเพลงดังแล้วมาทำก็อาจไม่ทันกับกระแส จึงต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า

การเตรียมการก็คือ ผู้บริหารของอาร์สยามจะเลือกเพลงที่คาดว่าดัง และน่าทำมิวสิกวิดิโอในอัลบั้มชุดใหม่ไว้ 2-3 เพลง ส่วนฝ่ายผลิตมิวสิกวิดีโอก็คัดเลือกเอาไว้เช่นกัน จากนั้นก็เอามาเทียบว่าตรงกันหรือไม่ หรือต้องปรับแก้อย่างไร

เขาบอกด้วยว่าการทำมิวสิกวิดีโอ เพลงลูกทุ่งเปลี่ยนไปในช่วงหลัง จากเดิมที่มีข้อห้ามว่าเพลงลูกทุ่งต้องไม่เจอตึก แต่ขณะนี้กลายเป็นว่าต้องมีตึก เพราะคนต่างจังหวัดย้ายเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ก็มีแต่ตึก ร้านอาหาร จะให้นั่งริมถนน รถเข็น ก็เปลี่ยนเป็นร้านอาหารริมน้ำ

"ที่เป็นอย่างนี้เพราะเพลงลูกทุ่งเปลี่ยนไปและบริษัทต้องการดึงกลุ่มคนฟังอีกตลาดหนึ่ง จึงต้องทำออกมาให้เข้ากับชีวิตจริงของกลุ่มเป้าหมาย"

ในขณะที่เพลงลูกทุ่งบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิต เพลงสตริงก็เปลี่ยนแนวคิดมาบอกเล่าเรื่องของอารมณ์เหมือนเพลงลูกทุ่งมากขึ้น เดิมข้อห้ามของมิวสิกวิดีโอเพลงสตริงก็คือต้องไม่เจอต้นไม้ แต่ขณะนี้มีต้นไม้เข้ามาเต็มไปหมด

ภานุพันธ์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการทำมิวสิกวิดีโอ คือต้องมีฉากร้องไห้ ไม่ว่าจะเป็นนางเอกหรือพระเอก เพราะมิวสิกวิดีโอของเขาคือหนังสั้นแนวดราม่า   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us