Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ธันวาคม 2550








 
นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2550
จักรพรรณ์ ครบุรีธีระโชติ ลูกทุ่งที่ไปร้องเพลงสตริง             
โดย สมเกียรติ บุญศิริ
 


   
www resources

โฮมเพจ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่

   
search resources

Musics
จักรพรรณ์ ครบุรีธีระโชติ
แกรมมี่ โกลด์




การที่อยู่ในวงการเพลงมานานกว่า 20 ปีของก๊อต จักรพรรณ์ ครบุรีธีระโชติ แสดงให้เห็นข้อคิดได้อย่างหนึ่งว่า ความรักและศรัทธาของแฟนเพลงลูกทุ่งยั่งยืนและยาวนานแค่ไหน

ก่อนหน้านี้ก๊อตเคยร้องเพลงสตริงอยู่ 2 ชุด แล้วก็กลับมาร้องลูกทุ่งอีกครั้ง แฟนเพลงในยุคปัจจุบันคงไม่มีใครตามก๊อตมาจากเพลงสตริง แต่มาเริ่มสมัครเป็นแฟนเพลงในเพลงลูกทุ่งมากกว่า

ก๊อตอาจเป็นนักร้องคนหนึ่งที่เรียนรู้และซาบซึ้งกับคำว่า เพลงลูกทุ่งได้ดีที่สุด

"ตอนที่ผมออกเพลงสตริง ก็อยู่ระดับปานกลาง ไม่ดัง เคยขอขึ้นเวทีคอนเสิร์ตรายการหนึ่ง เขาไม่ให้ขึ้นเพราะไม่ดังพอ ผมกลับมาร้องไห้เลยและตัดสินใจขอผู้ใหญ่ทำเพลงลูกทุ่ง"

เขาจำได้ดีว่า เมื่อเขาไปบอกพี่เต๋อ (เรวัติ พุทธินันทน์ ผู้ที่ดูแลการร้องเพลงของก๊อตมาตลอด) ว่าขอทำเพลงลูกทุ่ง เต๋อบอกว่ายังไม่สาย งานเพลงลูกทุ่งของก๊อตมีแรงกดดันสูงตั้งแต่ขั้นตอนอัดเสียง

ถ่ายมิวสิกวิดีโอเพื่อนำไปออกอากาศ เขาบินไปต่างประเทศเพื่อโชว์ตัว เพราะไม่อยากรู้ว่าเพลงลูกทุ่งที่ทำชุดนั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เขาไปโชว์อยู่นาน 1 เดือน เมื่อใกล้เวลากลับจึงโทรศัพท์กลับมาถาม ทางนี้บอกว่าขายไปเป็นล้านแผ่นแล้ว

"ผมร้องไห้เลย จากเด็กที่ถูกกดดันว่าไม่เกิด เป็นเหมือนแรงผลักดัน เมื่อกลับมาขายไปได้ 2 ล้านตลับ และกลายเป็นว่าไม่หยุด ไปไหนคนต้อนรับมาก"

เพลงชุดที่ก๊อตไม่กล้าอยู่ดูก็คือ "หัวแก้ว หัวแหวน" ที่ต้องออกต่อเนื่องถึง 9 ชุด รวมยอดขายกว่า 15 ล้านบาท

เขาอาจไม่ดังในวงการเพลงสตริง แต่เพลงลูกทุ่งอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ

ในความเป็นจริงก๊อตเริ่มต้นมาจากเพลงลูกทุ่ง แต่เมื่อถึงเวลาทำอัลบั้มก็ขอทางแกรมมี่ว่าอยากทำเพลงสตริง เพราะว่ายังเป็นวัยรุ่น แต่เขามาทราบภายหลังว่า ที่ยืนของเขาอยู่ที่เพลงลูกทุ่ง

ก๊อตห่างหายจากการออกอัลบั้มใหม่ถึง 2 ปีเต็มเขาให้เหตุผลว่าเป็นการหาข้อมูลเพื่อทำเพลง และท้อใจกับการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ก่อให้เกิดปัญหากับวงการลูกทุ่งไม่น้อย นักร้องก็อ่อนล้า คนแต่งเพลงก็หมดแรง บางคนถึงกับต้องเปลี่ยนอาชีพก็มี แต่การหายหน้าไปของก๊อต ก็มีงานพิเศษอื่นๆ ออกมา การเดินสายก็ยังมีอยู่ตามปกติ

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ก๊อตอยู่ได้ยาวนานมาจากมาตรฐานงานเพลงของตัวเองกับแนวคิดในการแสดงและร้องเพลง ก๊อตกำหนดทิศทางชัดเจนว่าเมื่อขึ้นเวทีร้องเพลง ทุกอย่างต้องพร้อม จะมีคนดู 3 คน หรือ 3 หมื่นคนต้องเล่นมาตรฐานเดียวกันและจะไม่รับมากเกินไป หลีกเลี่ยงการวิ่งรอก เพราะทีมงานของก๊อตใหญ่ เคลื่อนย้ายลำบากที่สำคัญบนเวทีแสดงเขาไม่ลิปซิงค์ ร้องสดทุกเวที

งานในแต่ละปีของเขาจึงไม่มาก ส่วนหนึ่งต้องรับงานจากเจ้าของสินค้าที่เหมาคิวแสดงอย่างน้อยปีละ 20 คิวเป็นประจำทุกปี

นอกจากต้องบริหารงานเพลงและงานแสดงแล้ว สายสัมพันธ์ระหว่างก๊อตกับแฟนเพลงก็แนบแน่น

บรรยากาศวันแถลงข่าวเปิดอัลบั้มใหม่ "ขอโทษที่คิดถึง" เมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ก๊อตยังรักษาความเป็น "เจ้าชายลูกทุ่ง" ได้อย่างเหนียวแน่น แฟนเพลงของเขาตั้งทีมขึ้นมาช่วยดูแลเรื่องอาหาร น้ำ และบริการผู้ที่มาร่วมงานพร้อมการจองที่นั่งในห้องประชุมของแกรมมี่จนเต็มห้อง เพื่อรอชมมินิคอนเสิร์ตของก๊อตในงานนี้

นับเป็นแฟนเพลงที่มีระบบการจัดการที่ดี ไม่สับสน และไม่วุ่นวาย มาเชียร์แบบมีคอนเซ็ปต์ชัดเจน

แฟนเพลงที่เหนียวแน่นมีประมาณ 300 คน ที่ติดตามไปทุกงานมีอยู่ 100 คน กลุ่มนี้คือศูนย์กลางของแฟนเพลงที่กระจายอยู่ทั่วไป คาดว่าน่าจะมีมากกว่า 1,000 คน

"เราสื่อกับแฟนเพลงด้วยความรู้สึก รู้จักกันด้วยเสียงเพลง" ก๊อตอธิบายให้ฟัง

การสร้างความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นของก๊อตใช้กิจกรรมทำบุญเป็นตัวกลาง

"เงิน 20 บาทแรกที่ได้จากคุณยายที่มาดู เก็บใส่ซองเลย แล้วตั้งใจเลยว่า เงินที่ได้จากหน้าเวทีเท่าไร จะตั้งเป็นกองทุนก๊อต จักรพรรณ์ นำเงินไปช่วยสังคม บางครั้งดูทีวี เห็นน้ำท่วม ต้องการความช่วยเหลือก็บริจาคไป 5,000 บาท 10,000 บาท"

กองทุนก๊อต จักรพรรณ์ ทุกวันนี้มียอดเงินบริจาคไปแล้วกว่า 3 ล้านบาท และวันเกิดล่าสุด ก๊อตตั้งใจจะใช้เงินกองทุน 40,000 บาท บริจาคให้กับ 4 มูลนิธิ เมื่อบอกกับแฟนเพลงที่เป็นศูนย์กลางแล้ว ปรากฏว่าถึงเวลาแฟนเพลงช่วยกันบอกต่อรวบรวมเงินได้ถึง 800,000 บาท

ถ้าวันนั้นก๊อตไม่ตัดสินใจหันกลับมาร้องเพลงลูกทุ่ง เส้นทางนักร้องของเขาก็อาจปิดฉากลงอย่างรวดเร็วก็ได้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us