Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์3 ธันวาคม 2550
อสังหาฯแนวราบเร่งลดความเสี่ยง ลดต้นทุน-ปรับสินค้าตอบโจทย์เรียลดีมานด์             
 


   
search resources

Real Estate




อสังหาฯ แนวราบ พลิกกลยุทธ์ฝ่าวิกฤตน้ำมันแพง ดีมานด์หด เสนาฯ มั่นใจเรียลดีมานด์บ้านเดี่ยว เดินหน้าลดไซส์บ้าน-โครงการ หวังปิดการขายเร็ว มั่นคงฯ ปรับตัวใช้สินค้าจีน รักษาต้นทุน เล็งเพิ่มบ้านแฝด-ทาวน์เฮาส์ หากตลาดยังเป็นขาลง

ในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ กลายเป็นจุดเปลี่ยนให้ดีมานด์ในตลาดที่อยู่อาศัยเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คอนโดมิเนียมเกาะแนวรถไฟฟ้า จับกลุ่มลูกค้าระดับกลางกลายเป็นสินค้ามาแรง สามารถแก้โจทย์ค่าครองชีพสูงในยุคน้ำมันแพงได้เป็นอย่างดี

ดีเวลลอปเปอร์หลายรายในอดีตที่เคยเน้นแต่โครงการจัดสรรแนวราบเป็นหลักได้ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ หันมาเพิ่มสัดส่วนสินค้าประเภทแนวสูงมากขึ้น แม้จะต้องแบกรับกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น แต่ก็จำเป็นที่จะต้องทำในช่วงที่ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบซบเซาอย่างหนัก

ตัวเลขคาดการณ์รายได้ในปีนี้ที่ 650 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าเดิม 1,000 ล้านบาทที่เคยตั้งไว้เมื่อต้นปี ของเสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ดีเวลลอปเปอร์ที่เน้นการพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลักถึง 70% สะท้อนให้เห็นถึงภาวะตลาดที่ซบเซาได้เป็นอย่างดี ซึ่งเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า เป็นผลมาจากดีมานด์ที่เปลี่ยนไปสู่คอนโดมิเนียมใจกลางเมืองแทนบ้านเดี่ยวนอกเมือง แต่จากการศึกษาผู้บริโภคในเชิงลึกยังมีความมั่นใจว่า ดีมานด์ที่แท้จริงของผู้บริโภคยังคงเป็นบ้านเดี่ยว แต่การไปซื้อคอนโดมิเนียมเป็นเพราะไม่สามารถแบกรับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในขณะนี้ได้

ในภาวะเช่นนี้เสนาฯ ได้ปรับตัวด้วยการปรับที่ตัวสินค้าบ้านเดี่ยวในแบรนด์ “เสนา แกรนด์ โฮม” ให้มีขนาดเล็กลงจากเดิม 50 ตร.วาขึ้นไป ราคา 3-10 ล้านบาท ให้เหลือ 35-40 ตร.วา ในรูปแบบบ้านแฝด ที่ยังมีหน้าตาเหมือนกับบ้านเดี่ยว ราคา 2 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน โดยมองว่าครอบครัวปัจจุบันเป็นครอบครัวขนาดเล็ก 3-4 คน ไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อบ้านที่มีขนาดใหญ่ ทั้งนี้ได้ปรับตัวสินค้าในโครงการเสนา แกรนด์ โฮม รามอินทรา เป็นโครงการแรก

นอกจากนี้การซื้อที่ดินขนาดเล็กไม่เกิน 20 ไร่ เพื่อให้สามารถปิดโครงการได้เร็ว เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เสนาฯ จะนำมาใช้เพื่อลดความเสี่ยงในการพัฒนาโครงการ ในปีหน้าเสนาฯ มีแผนจะพัฒนาโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท ทั้งแนวราบและแนวสูงควบคู่กันไป โดยมั่นใจว่าปีหน้าแม้อัตราดอกเบี้ยจะไม่ลดลง แต่หากสถานการณ์ทางการเมืองดีขึ้น น่าจะทำให้ดีมานด์บ้านเดี่ยวหวนกลับคืนมาได้ และเสนาฯ ก็จะไม่ทิ้งตลาดคอนโดมิเนียม เพราะยังเป็นสินค้าที่สามารถตอบสนองดีมานด์ของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกในการเดินทาง ในช่วงที่น้ำมันมีราคาสูงได้ โดยมีแผนจะเปิดตัวโครงการเดอะ นิช ลาดพร้าว 48 คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น บนที่ดิน 2 ไร่ รวม 200 ยูนิต ราคา 35,000-36,000 บาทต่อ ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 28 ตร.ม. และโครงการเดอะ นิช รัชดาฯ 25 คอนโดมิเนียมไฮไรส์ สูง 25 ชั้น ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาทขึ้นไป

สำหรับมั่นคงเคหะการ ดีเวลลอปเปอร์อีกรายที่พัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลักเพียงอย่างเดียว ในช่วงที่ตลาดบ้านเดี่ยวซบเซาก็จำเป็นที่จะต้องเร่งปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์เช่นกัน เช่น การใช้สินค้าจีน เช่น กระเบื้อง วอลล์เปเปอร์ที่มีคุณภาพดี แต่ราคาถูกกว่ามาช่วยในการบริหารจัดการต้นทุน สามารถลดต้นทุนไปได้ถึง 10% ผสมผสานกับการซื้อที่ดินในราคาต่ำ และการบริหารจัดการเองทุกขั้นตอน ทำให้ต้นทุนของบริษัทต่ำกว่า สามารถตั้งราคาขายได้ต่ำกว่าคู่แข่งในทำเลเดียวกัน 5-10%

ชุติมา ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) (MK) ตั้งเป้ายอดขายในปีหน้าไว้ที่ 2,800 ล้านบาท เติบโตจากปีนี้ 20% ซึ่งหากภาวะตลาดในปีหน้ายังไม่ดีขึ้น บริษัทฯจะปรับตัวด้วยการเพิ่มสัดส่วนสินค้าบ้านแฝด ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ให้มากขึ้นกว่าปีนี้ เพราะเป็นสินค้าที่สามารถตอบสนองกำลังซื้อที่ลดลงได้ดี   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us