Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ธันวาคม 2535








 
นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2535
"DAVID L.H.WOO งานใหญ่ของเขาอยู่ที่เมืองไทย"             
 


   
search resources

Hong Kong Tourist Association
David L.H.woo
Tourism




สำหรับคนไทยแล้วชื่อเสียงของฮ่องกงเป็นเหมือนสวรรค์สำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวหรือพักผ่อน เนื่องจากความบันเทิงที่เกาะเล็กๆ ที่มีพื้นที่ประมาณ 1,070 ตารางกิโลเมตรแห่งนั้นมีแทบจะทุกรูปแบบ

ไม่เพียงคนไทยเท่านั้นฮ่องกง ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญเมืองหนึ่งของโลกทีเดียว โดยตัวเลยที่มีการเปิดเผยจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวฮ่องกง (Hong Kong Tourist Association) หรือ HKTA ปรากฎว่าปี 1991 ที่ผ่านมาฮ่องกงมีรายได้เข้าประเทศจากการท่องเที่ยวประมาณ 39,606.78 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 134,663.05 ล้านบาท

DAVID L.H.WOO รักษาการผู้อำนวนการสำนักงาน HKTA ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ กล่าวกับ "ผู้จัดการ" ว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยยังคงเป็นเป้าหมายหลักของ HKTA ซึ่งเป็นสำนักงานเอกชนที่ทำหน้าที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มองว่าการเดินทางไปยังฮ่องกงของคนไทยนั้น ยังเป็นเพื่อการท่องเที่ยวมากกว่าเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ

"จากการศึกษาการเดินทางของคนไทยไปฮ่องกง เราพบว่ามีการเดินทางไปเพื่อวัตถุประสงค์ทุกอย่าง ทั้งช้อปปิ้งเอ็นเตอร์เทนจนถึงเรื่องธุรกิจ" DAVID กล่าว พร้อมทั้งย้ำว่า ที่มักจะมีการอ้างว่า มีคนไทยจำนวนมากเดินทางไปฮ่องกงเพื่อเล่นการพนันนั้น มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น กล่าวคือ ในช่วงสุดสัปดาห์ระหว่างวันเสาร์ถึงวันจันทร์ มีคนไทยเดินทางต่อไปยังคาสิโนที่มาเก๊าเพียงประมาณสัปดาห์ละ 2-300 คนเท่านั้น

ตัวเลขของคนไทยแค่ประมาณ 300 คนนั้น HKTA มองว่าเป็นจำนวนน้อยมากเพราะในแต่ละสัปดาห์ มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปยังฮ่องกงถึงประมาณ 5,000-6,000 คน ดังนั้นเป้าหมายของการส่งเสิรมการท่องเที่ยวสำหรับคนไทยนั้น รักษาการหัวหน้าสำนักงาน HKTA ประจำเอเซียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า ยังคงเป็นรูปแบบเดิม คือยังให้ภาพพจน์เมืองฮ่องกง คือเมืองที่มีทุกอย่างสำหรับการเดินทางไปที่นั่น

อย่างไรก็ตาม แม้เดือนกันยายนที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปยังฮ่องกงถึง 29,491 คน หรือคิดเป็น 4.8% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เข้าไปยังฮ่องกง ซึ่งเป็นรองก็แค่ ชาวไต้หวัน ญี่ปุ่น อเมริกัน และออสเตรเลียเท่านั้น แตต่ HKTA ก็ยังไม่คิดที่จะตั้งสำนักงานในประเทศไทยเพราะเชื่อว่า การทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ของ เจ.วอลเตอร์ ทอมป์สัน เอเยนซี่ที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ ยังคงได้ผลอยู่

"ปีที่ผ่านมา เราใช้งบในการประชาสัมพันธ์ในไทยเพียงประมาณ 6 ล้านบาทเท่านั้นซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับสำนักงานททท.สิงคโปร์หรือออสเตรเลีย แต่ก็ได้ผลดี จะเห็นได้ว่าไทยเป็นอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวในแถบเซาท์อีสต์เอเชียที่เดินทางไปฮ่องกง" DAVID กล่าวถึงงานของ HKTA ในไทย

แต่สิ่งหนึ่งที่เขายอมรับว่าหนักใจพอสมควรก็คือการที่บรรดาประเทศท่องเที่ยวต่างๆ เริ่มให้ความสนใจกับตลาดนักท่องเที่ยวไทย ทำให้การแข่งขันกันค่อนข้างที่จะหนักโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศสิงคโปร์แหล่งท่องเที่ยวใหญ่อีกแห่งของคนไทยที่อยู่ใกล้กว่าฮ่องกง

มิหนำซ้ำ ภาพอีกอย่างที่น่ากลัวที่เกิดขึ้นกับฮ่องกงทั้งที่ผ่านมาและกำลังจะเกิดขึ้น ส่งผลให้ภาพการท่องเที่ยวของฮ่องกงไม่สวยงามนัก นั่นคือกรณีการสังหารหมู่ที่เทียนอันเหมินเมื่อหลายปีก่อน และการที่ฮ่องกรงจะกลับไปเป็นเมืองหนึ่งของประเทศจีน เมื่ออังกฤษหมดสัญญาเช่าในปี 1997 มีส่วนต่อการท่องเที่ยวของฮ่องกงอย่างมาก

"เรามองว่า ปี 1997 เป็นคอมมาร์ ไม่ใช่ฟูลสต็อป เราจึงไม่ห่วงอะไรมากนัก" DAVID กล่าวถึงปีที่ฮ่องกงจะกลับเป็นของจีน พร้อมทั้งอธิบายเพิ่มเติมว่า ภาพที่พวกเขาศึกษานั้นเมื่อฮ่องกงกลับเป็นของจีนในปีดังกล่าว ไม่ได้เป็นภาพที่น่ากลัวมากอย่างที่หลายคนกลัวเพราะเชื่อว่า ผู้นำประเทศจีนยุคใหม่นั้น เป็นนักบริหารรุ่นใหม่ที่มองเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง

สิ่งสำคัญอีกประการที่ HKTA วาดฝันไว้ว่าจะเป็นอนาคตของการท่องเที่ยว ก็คือการที่ประเทศจีนในปัจจุบันมีการพัฒนาเมืองต่างๆ มาก โดยเฉพาะในทางตอนใต้ของประเทศ จะกลายเป็นจุดเสริมการท่องเที่ยวของฮ่องกงเป็นอย่างดีซึ่งมุมมองที่ทางการฮ่องกงกำลังศึกษาอยู่ก็คือ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในรูป "สามเหลี่ยมเศรษฐกิจ" เพื่อการท่องเที่ยวใหม่ คือกวางตุ้ง เซินเจิ้นและฮ่องกง เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษโดยการนำส่วนเด่นของแต่ละเมือง หรือมณฑลมาเป็นจุดขายการท่องเที่ยวอย่างดี ขณะที่ทางการของประเทศจีนภายใต้ผู้บริหารใหม่ ก็ได้วางนโยบายไว้แล้วว่าจะยังคงความเป็นเมืองท่องเที่ยวและศูนย์กลางเศรษฐกิจของฮ่องกงต่อไป

"สามเหลี่ยมเศรษฐกิจพิเศษนั้นช่วยฮ่องกงได้มากเพราะคนที่ไปลงทุนมากที่สุดในจีนก็คือคนฮ่องกงอย่างเช่น ลีกาชิง กอดอนวู่ สแตนลีโฮ ดังนั้นเชื่อได้ว่าจะเป็นการเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวของฮ่องกงเป็นอย่างดี"

การมองการณ์ไกลอันนี้จะเห็นได้จากแผนงานการสร้างสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ของฮ่องกง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวหรือนักเดินทางที่จะมาในอนาคต อันเนื่องมากจากการศึกษาพบว่า สนามบินนานาชาติปัจจุบัน สามารถที่จะรองรับได้ถึงปี 1994 เท่านั้น

ในส่วนของการทำงานในไทยนั้น DAVID ยอมรับว่า คู่แข่งที่สำคัญก็คือสิงคโปร์ ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวใหญ่อีกแห่งของไทย ที่มีความเป็นเมืองท่องเที่ยวที่คล้ายกับฮ่องกงมากที่สุดเมืองหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องขิงสินค้าฟรีพอร์ตนานาชนิด แต่ HKTA ก็เชื่อว่า ปัญหาเรื่องค่าเงินของสิงคโปร์ที่แข็งตัวมากและส่งผลให้ราคาสินค้าและค่าครองชีพในสิงคโปร์สูงกว่าในฮ่องกง จะทำให้ฮ่องกงได้เปรียบสิงคโปร์ในเรื่องการดึงดูดคนไทยไปซื้อของหรือท่องเที่ยวที่เกาะดังกล่าว

"เป้าหมายกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยสำหรับเรามีถึงหนึ่งล้านคนเราจึงยังคงยอมรับว่า ไทยเป็นตลาดท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเรา" DAVID นักบริหารชาวสิงคโปร์ที่ทำงานให้กับฮ่องกงในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวกับประเทศของตนเองอยู่กล่าวทิ้งท้ายถึงเป้าหมายให้ฟัง

แค่ฟังเป้าหมาย ก็รู้ว่างานของเขาที่จะดึงนักท่องเที่ยวไทยไปฮ่องกง ไม่ได้เป็นภาระเล็กๆ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us