Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ธันวาคม 2535








 
นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2535
"พงส์ สารสิน นายกฯ ตลอดกาลของ สปอร์ตสคลับ! ?"             
 


   
search resources

สปอร์ตคลับ
พงส์ สารสิน
Sports




นับเนื่องยาวนานถึง 15 ปีเต็มๆ ที่ "พงส์ สารสิน" เป็น CHAIRMAN ของเอ็กซ์คลูซีฟคลับอันเก่าแก่อายุนับ 90 ปีที่ชื่อ "สปอร์ตสคลับ (RBSC)" โดยไม่มีผู้ใดเป็นคู่แข่งเลย ทั้งนี้เพราะบรรดาผู้ทรงคุณาวุฒิและวัยวุฒิต่างก็ให้เหตุผลว่า ไม่อย่างหาเรื่องลำบากใส่ตัวฉะนั้นสมาชิกสปอร์ตคลับจึงมีลักษณะต่างคนต่างอยู่ทั้งๆ ที่หงุดหงิดกับหลายเรื่องที่ต้องเจอ แต่ก็ไม่กล้ากระโดดลงมาเต็มตัว

ภาวะเช่นนี้ ทำให้ทุกปีบรรยากาศการเลือกตั้งกรรมการบริหารสปอร์ตสคลับนี้อยู่ในสภาพวังเวง ล่าสุดเมื่อวันเลือกตั้งที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมประชุมไม่ถึง 300 คนหรือเพียงแค่ 5% ของสมาชิกสามัญที่โหวตเสียงได้ทั้งหมด 6,221 คน ทั้งนี้ไม่รวมสมาชิกโปโลคลับอีก 1,997 คน

ระหว่างการประชุม ปรากฎว่ามีปัญหาสถานที่ประชุมที่ห้องแบดมินตัน เนื่องจากมีลักษณะเสียงก้องมาก สลับกับเสียงพูดคุยโห่ฮาด้านหลังห้องขณะที่มีการอภิปรายมติอยู่ถึงกับท่านพงส์ต้องขอร้องให้ทุกคนเงียบเสียงลงบ้าง

"ข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ นี้น่าจะแก้ไขได้ด้วยการจัดประชุมที่โรงแรมหรือศูนย์สิริกิติ์ซึ่งให้ภาพพจน์ที่ดี และเป็นแรงจูงใจสมาชิกสโมสรมาร่วมในการประชุมใหญ่นี้ด้วย" สมาชิกสโมสรท่านเสนอความเห็น

ในที่สุด ผลการประชุมก็ปรากฎออกมาว่าเป็นไปตามโผคือกรรมการชุดเดิมทั้งหมดเข้าบริหารสปอร์ตสคลับ โดยมีพงส์ สารสินเป็น CHAIRMAN ต่อเนื่องขึ้นสู่ปีที่ 16 นับว่าเป็น CHAIRMAN คนไทยที่นั่งเก้าอี้ที่นี่นานมากๆ

"ผมได้เสนอหลักการสองข้อที่จะให้คณะกรรมการบริหารชุดนี้พิจารณาก็คือ ควรหรือไม่ที่จะกำหนด MAXIMUM OF TERM ของการบริหารสปอร์ตสคลับตามสากลโลกคืออยู่ระหว่าง 4 หรือ 8 ปี และควรหรือไม่ที่จะจัดสัดส่วนจำนวนเก้าอี้กรรมการให้สัมพันธ์กับจำนวนสมาชิกคนไทยในปัจจุบัน" นี่คือความตั้งใจอันแน่วแน่ของพลเอกเฟื่องเฉลย อนิรุทธเทวา สมาชิกเก่าแก่ผู้หนึ่งซึ่งยืนยันเรื่องนี้ในการประชุมใหญ่ทุกปี

ปัจจุบัน เก้าอี้กรรมการคนไทยจะมีอยู่เพียง 4 คนได้แก่คนเก่าพงส์ สารสิน ประทีป จิรกิติ วิชิต จารุสรณ์ พ.ต.อ.วิรัช วาณิชกะและกรรมการชาวต่างประเทศเป็น 8 คน ขณะที่สัดส่วนสมาชิกสามัญคนไทย 5,391 คนและชาวต่างประเทศ 830 คนหรือประมาณ 15% ของคนไทยเท่านั้นเอง

กิจกรรมที่คณะกรรมการบริหารสปอร์ตสคลับทำเป็นเรื่องเก่าๆ โดยเฉพาะด้านสังคมและบันเทิงซึ่งทำเป็นประเพณีคืองานเทศกาลอ็อก โทเบอร์เฟสท์ วันลอยกระทง งานฉลองคริสต์มาสสำหรับเด็กๆ งานวันสงกรานต์และการจัดแสดงคอนเสิร์ต

ขณะที่กิจกรรมประเภท HORSE FAIR ที่สมาชิกเก่าแก่อย่างพลเอก เฟื่องเฉลย อนิรุทธเทวา ได้เสนอให้คณะกรรมการบริหารจัดแสดงขึ้นบ้าง โดยอ้างถึงวัตถุประสงค์ข้อหนึ่งใน "รอยัลชาร์เตอร์" ของสปอร์ตสคลับที่กรรมการบริหารยังไม่ได้ทำก็คือ" งานบำรุงผสมพันธุ์ม้า และจัดการ แสดงม้าประกวด" ขณะที่เมื่อเร็วๆ นี้กลุ่มจุลดิศประสบความสำเร็จจากการจัดงานประชันโฉมม้าและแสดงความสามารถของม้านานาพันธุ์กว่า 200 ตัวที่ฟาร์มม้าเขาใหญ่ พาร์ค สตัด

เป็นไปได้หรือไม่ว่า? HORSE FAIR อาจจะไม่มีแรงจูงใจมากเท่า HORSE RACE เพราะรายได้ที่คณะกรรมการบริหารพอใจมากๆ ในแต่ละปีมีแต่เพิ่มพูนขึ้นโดยในงบดุลปี 2534 ซึ่งสิ้นสุดในเดือนกรกฎาคม 2535 พงส์ได้กล่าวว่า

"การดำเนินงานของสโมสรฯ โดยทั่วไปเป็นที่น่าพอใจในด้านการจัดแข่งม้า ถึงแม้ว่ายอดขายตั๋วในปีที่แล้ว ซึ่งมีจำนวนเงิน 2,051 ล้านบาทจะต่ำกว่ายอดของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวนเงิน 2,083 ล้านบาทรายได้สุทธิเป็นเงิน 28.9 ล้านบาทซึ่งสูงกว่าปีก่อนเล็กน้อย" นี่คือผลประโยชน์ก้อนมหาศาลของสนามม้าฝรั่งซึ่งเป็นรายได้หลักของสปอร์ตสคลับที่พงส์ สารสินดูแลอยู่

นโยบายบริหารรายได้เข้าสปอร์ตสคลับในยุคพงส ์และพวกที่มุ่งสร้างอัตราเติบโตนับว่าเป็นผลสำเร็จ โดยกำไรสุทธิล่าสุดก็เพิ่มจากปีที่แล้วประมาณ 10 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากการเพิ่มค่าบำรุงสมาชิกรายเดือนและการเพิ่มของอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

ปัจจุบัน สมาชิกใหม่ซึ่งแต่ละปีจะรับเพียง 300 คนจะจ่ายค่าสมาชิกแรกเข้า 80,000 บาท ซึ่งเพิ่ม 100% จากเดิมที่เคยจ่ายเพียง 40,000 บาทและล่าสุดได้มีการเก็บ ENTRANCE FEE จากสุภาพสตรีโสดเป็น 50,000 บาทโดยที่ผู้หญิงไม่มีสิทธิโหวดเสียง (NON VOTING) หรือเข้าร่วมประชุมได้เลยปัจจุบันนี้มีสุภาพสตรีที่ได้เพียงสิทธิ์ใช้สโมสรถึง 1,806 คนหรือประมาณ 30% ของสมาชิกสามัญ

"โดยหลักการผมเห็นด้วยกับเสธเฟื่องที่ได้เสนอว่าสิทธิเสมอภาคสำหรับสุภาพสตรีควรจะเกิดขึ้นใน พ.ศ. นี้เพื่อความเป็นธรรมและเฉลิมฉลองเนื่องในวาระศุภมงคลครบ 5 รอบพระบรมราชินีนาถ แต่มตินี้ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากกรรมการซึ่งอ้างว่าไม่มีในวาระการประชุม" ศ.นิคม จันทรวิทูร สมาชิกอาวุโสกล่าว

อย่างไรก็ตาม อัตราค่า ENTRANCE FEE ที่สปอร์ตสคลับเก็บจากสมาชิกใหม่ยังถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบเชิงพาณิชย์กับสโมสรอื่นๆ ทั้งนี้เพราะที่อื่นจะต้องทุ่มทุนมหาศาลในการซื้อ และพัฒนาที่ดินแปลงใหญ่แต่สปอร์ตสคลับไม่มีต้นทุนดังกล่าวทั้งนี้เพราะได้ถือกำเนิดขึ้นมาได้ด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ ในรัชกาลที่ห้า ซึ่งมีพระราชประสงค์ที่จะให้สโมสรแห่งนี้ได้กลายเป็นที่ชุมนุมพบปะ ระหว่างชาวต่างประเทศกับชาวไทยและบำรุงผสมพันธุ์ม้าให้เจริญยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามความพยายามผลักดันนโยบายการบริหารรายได้เข้าสปอร์ตสคลับในอดีตที่ A.F.EBERHAROT สมาชิกคนหนึ่งที่เสนอให้ขายสิทธิสมาชิก ได้ 4.5 ล้านบาทโดยหัก 30% เข้าเป็นรายได้สโมสรแต่ต้องพ่ายแพ้ต่อเสียงคัดค้านในที่ประชุม 2 ปีที่แล้วอาจเป็นไปได้หรือไม่ว่า จะนำมาปรุงแต่งใหม่เพื่อยื่นเสนอเป็นมติในที่ประชุมครั้งหน้า

บนความขัดแย้งระหว่างการบริหารรายได้กับการดำรงอยู่ในฐานะสโมสรอันทรงเกียรติมิใช่สโมสรทางการค้า พงส์และกรรมการบริหารสปอร์ตสคลับชุดนี้อาจจะต้องมีฝีมือการจัดการที่ทันสมัย และตอบสนองต่อความต้องการอันหลากหลายของสมาชิกได้อย่างแท้จริง แทนที่จะปล่อยให้ความเสื่อมโทรมมาเกาะกุมสโมสรเช่นทุกวันนี้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us