|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ปตท. บุกธุรกิจก๊าซธรรมชาติในประเทศอียิปต์ ทุ่มเงินทุนเกือบ 1.7 หมื่นล้านบาทให้บริษัทลูก "พีทีที อินเตอร์ฯ" ถือหุ้น EMG ในสัดส่วน 25% ด้าน "ประเสริฐ" มั่นใจได้ผลตอบแทนระยะยาวและต่อยอดการลงทุนจัดหาก๊าซจากแอฟริกาเหนือในอนาคต พร้อมแจงขั้นตอนการพิจารณาชี้ขาดของศาลปกครองสูงสุดวันนี้ยังไม่ใช่ข้อสรุป ต้องรอคำพิพากษาขอองค์คณะตุลาการพิจารณาพิพากษาเท่านั้น ขณะที่มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ตอกกลับ "ปิยสวัสดิ์" ทำผิดมารยาทที่ออกมาชี้นำศาล แต่มั่นใจศาลจะพิจารณาอย่างเป็นธรรม
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทได้เห็นชอบให้บริษัท พีทีที อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (PTT INTER) บริษัทย่อยที่ปตท.ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท Mediterranean Gas Pipeline Ltd. (MGPC) ณ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์
โดยสัญญาฉบับดังกล่าว PTT INTER จะซื้อหุ้นของบริษัท East Mediterranean Gas Company S.A.E. (EMG) จาก MGPC จำนวน 36.75 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ในราคาหุ้นละ 13.25 เหรียญสหรัฐ รวมเป็นเงินประมาณ 486.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 16,554.60 ล้านบาท (คำนวณอัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐต่อ 34 บาท) โดยคาดว่าการซื้อขายจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในกลางเดือนธันวาคม 2550
ทั้งนี้ ปตท.จะเป็นผู้สนับสนุนเงินลงทุนแก่ PTT INTER ซื้อหุ้น EMG โดยในเบื้องต้นจะอยู่ในรูปของ Shareholder's Loan และจะดำเนินการปรับโครงสร้างเงินทุนโดยการเพิ่มทุนและนำเงินมาชำระหนี้คืน ปตท. ตามความเหมาะสมต่อไป
ภายหลังจากทำรายการซื้อขายหุ้นดังกล่าว ปตท. จะมีสัดส่วนการถือหุ้นใน EMG 25% ขณะที่ MGPC ลดสัดส่วนจาก 53% เหลือ 28% ส่วนผู้ถือหุ้นรายอื่นประกอบด้วย บริษัทในกลุ่ม Merhav, EMG-EGI L.P. และ EGPC/EGAS (รัฐวิสาหกิจอียิปต์) ถือหุ้นในสัดส่วน 25%, 12% และ 10% ตามลำดับ
นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า การซื้อหุ้น EMG สอดคล้องกับนโยบายของกลุ่มปตท. ที่จะขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยประเทศอียิปต์เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศเป้าหมาย เนื่องจากมีศักยภาพปิโตรเลียมสูง เป็นผู้ส่งออก LNG ที่สำคัญของโลก ซึ่งบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อยของ ปตท. ได้เข้าร่วมลงทุนในแปลงสำรวจปิโตรเลียม 2 แปลง
"ปตท.คาดว่าการลงทุนซื้อหุ้น EMG ครั้งนี้ จะได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมจากรายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศอย่างต่อเนื่องในระยะยาว พร้อมสร้างโอกาสในการขยายการลงทุนและการจัดหาก๊าซฯ จากประเทศอียิปต์และภูมิภาคแอฟริกาเหนือต่อไป"
สำหรับ EMG เป็นบริษัทจดทะเบียนใน Free Zone ประเทศอียิปต์ และเป็นบริษัทเดียวที่ได้รับสิทธิในการวางท่อเพื่อส่งก๊าซธรรมชาติจากประเทศอียิปต์ไปขายให้ประเทศอิสราเอลภายใต้ MOU ระหว่างรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ EMGได้ทำสัญญาซื้อก๊าซฯ จาก Egyptian General Petroleum Corporation (EGPC) และ Egyptian Natural Gas Holding Company (EGAS) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านปิโตรเลียมของประเทศอียิปต์ ในปริมาณ 7 Billion Cubic Meters ต่อปี (BCM/Y) หรือประมาณ 677 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (mmcfd) เป็นระยะเวลา 15 ปี โดยมีเงื่อนไขให้ผู้ซื้อสามารถขยายเวลาเพิ่มอีก 5 ปี
ส่วนด้านการจัดจำหน่ายก๊าซฯ EMG ได้ทำสัญญาขายก๊าซฯให้กับโรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศอิสราเอล โดยมีบริษัท Israel Electric Corporation (IEC) ประเทศอิสราเอล เป็นผู้ซื้อก๊าซฯรายใหญ่ในปริมาณ 2.125 BCM/Y หรือประมาณ 206 mmcfd เป็นระยะเวลา 15 ปีพร้อม Option ให้ผู้ซื้อสามารถขยายเวลาเพิ่มอีก 5 ปี
โดยขณะนี้ EMG อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติฯ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2550 โครงการมีวงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 469 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ประกอบด้วย Exporting Terminal ที่เมือง Al-Arish ประเทศอียิปต์ ระบบท่อส่งก๊าซฯ ในทะเล ขนาด 26" ระยะทาง 87.6 กิโลเมตร และReceiving Terminal ที่เมือง Ashqelon เชื่อมต่อกับเครือข่ายท่อส่งก๊าซฯในประเทศอิสราเอล ทั้งนี้ EMG ได้รับเงินกู้สนับสนุนจำนวน 380 ล้านเหรียญสหรัฐฯจาก National Bank of Egypt
ด้านฐานะการเงิน EMG ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2550 มีสินทรัพย์รวม 368.93 ล้านเหรียญสหรัฐ หนี้สินรวม 214.05 ล้านเหรียญ ส่วนของผู้ถือหุ้น 154.88 ล้านเหรียญ ทุนจดทะเบียน 500 ล้านเหรียญ เรียกชำระแล้ว 147 ล้านเหรียญ มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 เหรียญ และมูลค่าหุ้นตามบัญชีหุ้นละ 1.05 เหรียญสหรัฐ
ศาลพิจารณาเพิกถอนปตท.นัดแรกวันนี้
พร้อมกันนี้ ปตท. ได้แจ้งความคืบหน้ากรณีที่มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคกับพวกรวม 5 คนฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดให้มีคำสั่งเพิกถอนการแปรรูปบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งศาลได้พิจารณาคดีนัดแรกในวันนี้ (30 พ.ย.) ว่า ขั้นตอนแรกตุลาการเจ้าของสำนวน ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะตุลาการพิจารณาพิพากษา (องค์คณะฯ) จะเสนอสรุปข้อเท็จจริงและประเด็นของคดี แล้วให้คู่กรณีประกอบด้วยผู้ฟ้องคดีและผู้ถูกฟ้องคดี แถลงด้วยวาจาประกอบคำแถลงเป็นหนังสือ โดยให้ผู้ฟ้องคดีแถลงก่อน
หลังจากนั้น ตุลาการผู้แถลงคดีซึ่งมิใช่องค์คณะฯ ในคดี จะชี้แจงด้วยวาจาต่อองค์คณะฯ เพื่อประกอบคำแถลงการณ์เป็นหนังสือที่ได้เสนอไว้แล้วหรือเสนอคำแถลงการณ์ด้วยวาจา ก่อนที่ตุลาการผู้แถลงคดี ตุลาการหัวหน้าคณะจะนัดประชุมปรึกษาเพื่อพิพากษาต่อไป
"คำแถลงการณ์ของตุลาการผู้แถลงคดี ไม่มีผลผูกพันต่อองค์คณะฯ ทั้งนี้ คำพิพากษาที่มีผลผูกพันต่อคู่กรณี คือคำพิพากษาของตุลาการเจ้าของสำนวนและองค์คณะฯ เท่านั้น"
มั่นใจศาลพิจารณาอย่างเป็นธรรม
ด้านนางสาวสารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ในวันนี้ศาลปกครองสูงสุด โดยตุลาการผู้แถลงคดีซึ่งไม่ใช่ตุลาการผู้รับผิดชอบคดี จะอ่านคำแถลงของตุลาการในคดีเพิกถอนการแปรรูปปตท. โดยทางมูลนิธิฯ จะทำเอกสารปิดคดี ซึ่งคำแถลงของตุลาการดังกล่าวอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับคำพิพากษา โดยคำพิพากษาขององค์คณะฯ อาจจะชี้ต่างหรือชี้เหมือนก็ได้ เพราะเป็นลักษณะการถ่วงดุลของศาล หลังจากนั้นคาดว่าอีกประมาณ 2 สัปดาห์จึงจะมีคำพิพากษาออกมา
"ขณะนี้ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีได้ เพราะเกรงจะเป็นการละเมิดอำนาจศาล แต่มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากคดีนี้ พร้อมยืนยันว่า การตัดสินคดีดังกล่าวในช่วงใกล้เลือกตั้งไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่เชื่อว่าหากชนะคดีจะสามารถนำผลกำไรของปตท. มาทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้อีกมากมาย เช่น การจัดทำระบบหลักประกันสุขภาพ เป็นต้น เพราะเพียงงบการเงินงวด 9 เดือนแรกปีนี้ ปตท. มีผลกำไรสุทธิมากกว่า 9 หมื่นล้านบาทแล้ว"
ส่วนกรณีที่นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ออกมาแสดงความเห็นว่าหากมี พ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงานแล้ว ปตท.จะชนะคดีนั้น นางสาวสารี กล่าวว่า โดยมารยาทแล้วรมว.พลังงานไม่ควรพูดเรื่องดังกล่าว
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า กระบวนการในการพิจารณาของศาลจะเป็นไปอย่างยุติธรรม โดยที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการจัดส่งเอกสารข้อมูลเพื่อใช้ในการประกอบพิจารณาคดีมาอย่างต่อเนื่อง
"เราเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ตอนนี้คงไม่เหมาะสมที่จะพูดอะไรมาก เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล แต่การพิจารณาในครั้งนี้เป็นเพียงการพิจารณาครั้งแรกไม่ใช่การพิจารณาเพื่อตัดสิน ซึ่งนักลงทุนควรจะเข้าใจ" นายปกรณ์ กล่าว
ขณะที่นายมนตรี ศรไพศาล ประธานฝ่ายวิชาการ ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า หากศาลพิพากษาให้เพิกถอนปตท.ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และต้องซื้อหุ้นคืนในราคาที่เสนอขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก (IPO) ที่ 35 บาท จะทำให้ประเทศเสียความน่าเชื่อถือ เพราะปัจจุบันราคาหุ้นในกระดานอยู่ที่ 360-370 บาท
"หากบังคับให้ซื้อคืนในราคาที่เสมือนยกเลิกการเข้าตลาดหุ้น อาจจะทำให้นักลงทุนทั่วโลกเห็นประเทศเหมือนเด็กเล่นขายของ ขาดความน่าเชื่อถือจนอาจจะยกเลิกทำการค้าขายกับไทย รวมทั้งผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นคงไม่จำกัดแค่ผู้ลงทุนจำนวน 7-8 แสนบัญชี เพราะต้องนับรวมนักลงทุนที่ลงทุนผ่านกองทุนต่างๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และกองทุนประกันสังคม ทำให้มีจำนวนจำนวนรวมกว่า 10 ล้านคน"
ส่วนในกรณีที่รัฐบาลต้องซื้อหุ้นคืนในราคาตลาดเพื่อรักษาความน่าเชื่อถือนั้น อาจจะต้องใช้เงินมากกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งยังไม่มีแหล่งเงินทุน และอาจจะขัดต่อหลักการเศรษฐกิจพอเพียงหรือไม่ เนื่องจากประเทศยังต้องใช้เงินทุนในการพัฒนาหลายด้าน
ขณะที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ส่วนใหญ่ต่างวิเคราะห์ว่า ปตท.จะชนะคดีนี้ เพราะจะส่งผลต่อผู้ถือหุ้นและประเทศชาติ และเชื่อว่า หากร่างพระราชบัญญัติประกอบกิจการพลังงานผ่าน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะสามารถทำให้เกิดความเป็นธรรมได้ ขณะที่ราคาหุ้น ปตท.วานนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยราคาอยู่ที่หุ้นละ 364 บาท
|
|
|
|
|