PICNI เผยเจ้าหนี้ไฟเขียวยืดชำระหนี้ออกไปอีก 6 เดือน ชี้หากเจรจาปรับหนี้ที่เหลือไม่สำเร็จและ เจ้าหนี้ยึดทรัพย์ก็ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงาน อ้างสินทรัพย์เพียบ แจงอยู่ระหว่างหาเงินเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมและผู้ร่วมทุนใหม่ ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ปลดเครื่องหมาย SP หลักทรัพย์ PICNI หลังบริษัทชี้แจงข้อมูล

นายสุเทพ อัคควุฒิไกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ( PICNI ) แจ้งว่าตามที่ตลาดหลักทรัพย์ได้ชี้แจงแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องและผลกระทบต่อการดำรงอยู่ของกิจการหากถูกยึดทรัพย์สิน ซึ่งบริษัทแก้ไขเรื่องการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

1. บริษัทได้เจรจาปรับโครงสร้างกับเจ้าหนี้ โดยในขณะนี้บริษัทได้รับจดหมายตอบรับจากธนาคารหลักแห่งหนึ่งที่จะขยายระยะเวลาผ่อนชำระเงินต้นที่ครบกำหนดแล้ววงเงินรวม 1,816.6 ล้านบาทออกไปอีก 6 เดือน เรียบร้อยแล้ว

2. ขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการจัดหาเงินเพิ่มทุน โดยการเจรจากับผู้ถือหุ้นเดิมและหาผู้ร่วมทุนใหม่

3. ขายทรัพย์สินบางส่วนที่จะไม่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทออกไป

สำหรับเรื่องของการที่เจ้าหนี้ตั๋วแลกเงินของบริษัทจะดำเนินการยึดทรัพย์สินของบริษัทนั้น บริษัทชี้แจง ดังนี้คือมูลหนี้ 50 ล้านบาท บริษัทได้ส่งมอบทรัพย์สินให้เจ้าหนี้มูลค่าประมาณ 17 ล้านบาทเมื่อเดือนมีนาคม - พฤศจิกายน 2550 และอยู่ระหว่างการเจรจาในหนี้ที่เหลืออยู่มูลค่า 33 ล้านบาท

ขณะที่มูลหนี้ 90 ล้านบาท ยังอยู่ในระหว่างเจ้าหนี้บังคับคดีอยู่ บริษัทจะดำเนินการยื่นขอพิจารณาทุเลาการบังคับคดีเป็นครั้งที่ 2 ภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2550 และเจรจา กับเจ้าหนี้โดยด่วนและจะแจ้งผลให้ทราบต่อไป

กรณีที่การเจรจาไม่เป็นผลสำเร็จ และเจ้าหนี้เข้ายึดทรัพย์ก็จะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงาน เนื่องจากบริษัทมีทรัพย์สินทั้งสิ้น ตามงบการเงินไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด กันยายน 2550จำนวน 8,034 ล้านบาท โดยมีสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ 7,262 ล้านบาท (หักค่าความนิยมและเครื่องหมายการค้า) และมีหนี้สินรวม 7,870 ล้านบาท ซึ่งมูลหนี้ที่เหลือที่อาจถูกยึดจำนวน 123 ล้านบาทนั้น คิดเป็น 1.7% ของสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิเท่านั้น และบริษัทยังดำเนินธุรกิจตามปกติ

ขณะที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้สั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ PICNI เป็นการชั่วคราวในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2550 เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ได้รับแจ้งจาก PICNI ว่าเจ้าหนี้ตั๋วแลกเงินบางรายอยู่ระหว่างยึดทรัพย์และบังคับคดีมูลหนี้ 140 ล้านบาท ซึ่งรายการดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อฐานะการเงิน และความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องของ PICNI โดย PICNI ยังไม่ได้เปิดเผยถึงแนวทางดำเนินการ ความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และผลกระทบต่อการดำรงอยู่ของกิจการหากถูกยึดทรัพย์

โดยหลังจากที่ PICNI ได้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์อย่างทั่วถึงแล้ว ตลาดหลักทรัพย์จึงปลดเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่ออนุญาตการซื้อขายหลักทรัพย์ของ PICNI ตั้งแต่การซื้อขายหลักทรัพย์รอบเช้าของวันที่ 28 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นไป