Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 พฤศจิกายน 2550
เมเจอร์ฯผนึกบิ๊กซียึดตลาดภูธร             
 


   
www resources

โฮมเพจ เมเจอร์ซินีเพล็กซ์
โฮมเพจ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์

   
search resources

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป, บมจ.
บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์, บมจ.
วิชา พูลวรลักษณ์
Theatre




เมเจอร์ฯ ผนึกบิ๊กซี ร่วมหอลงโรงเป็นพันมิตรทำเลขยายสาขา ด้านเมเจอร์ฯ หวังยึดหัวหาดตลาดพื้นที่ภูมิภาค เพิ่มสัดส่วนสาขาในภูธรเป็น 40% นำร่อง 3 สาขาใหม่ของบิ๊กซีปีหน้า ส่วนบิ๊กซีหวังขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น

นายประพันธ์ เอี่ยมรุ่งโรจน์ รองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บิ๊กซี ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรหลักด้านธุรกิจกับทางเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์รายใหญ่ของไทย เพื่อต้องการผลักดันให้บิ๊กซีเป็น วันสต๊อปชอปปิ้งมากขึ้น

จากผลการสำรวจของบิ๊กซี พบว่า พฤติกรรมของลูกค้าที่มาบิ๊กซีมีประมาณ 65% ที่มาซื้อสินค้าและทำกิจกรรมอื่น เช่น รับประทานอาหาร ซื้อสินค้าในพลาซ่า ชมภาพยนตร์ เป็นต้น โดยสัดส่วนที่มาซื้อสินค้าและชมภาพยนตร์จะมีสัดส่วนประมาณ 40% ดังนั้นการร่วมมือกับเมเจอร์ฯ ในการเปิดบริการโรงหนังในบิ๊กซีจะเป็นการตอบรับไลฟ์สไตล์ดังกล่าวได้อย่างลงตัว และยังเป็นการขยายฐานสู่กลุ่มวัยรุ่นเพิ่มขึ้นด้วย

นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมมือกับบิ๊กซีครั้งนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์แผนการลงทุน 2-3 ปีจากนี้ที่จะขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคโดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ เพื่อต้องการเพิ่มสัดส่วนการขยายสาขาในต่างจังหวัดเป็น 40% และในกรุงเทพฯ 60% ด้วยโมเดลธุรกิจ 4 แบบคือ สแตนด์อโลน, ศูนย์การค้าหรือชอปปิ้งเซ็นเตอร์, ดิสเคาน์สโตร์ และไลฟสไตล์เซ็นเตอร์ ซึ่งบิ๊กซีเป็นหนึ่งในโมเดลของดิสเคานต์สโตร์ที่มีฐานลูกค้าตรงกับเมเจอร์ฯ

โดยปัจจุบันนี้เมเจอร์กรุ้ปมีสาขาในต่างจังหวัดเพียง 20% และสาขาในกรุงเทพฯมากถึง 80% จากทั้งหมด 38 สาขา ในทุกแบรนด์ โดยการปรับสัดส่วนนี้เพื่อเป้าหมายการสร้างอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์โดยรวมเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องการสร้างสัดส่วนตลาดหนังไทยให้เพิ่มเป็น 40% และตลาดหนังฮอลลีวู้ด 60%

ทั้งนี้แผนปีหน้าของความร่วมมือดังกล่าว นายวิชากล่าวว่า จะเปิดโรงหนังแบรนด์เมเจอร์ฯและโบว์ลิ่งที่บิ๊กซี 3 สาขาใหม่คือ บิ๊กซีสาขาอยุธยา สาขานวนคร และสาขาธัญบุรี

สำหรับที่ผ่านมา เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ได้เป็นพันธมิตรกับบิ๊กซี มาตั้งแต่ปี 2546 โดยเปิดให้บริการสาขาแรกกับแบรนด์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ที่บิ๊กซี นครสวรรค์ (ประกอบด้วย โรงภาพยนตร์ 5 โรง โบว์ลิ่ง 12 เลน คาราโอเกะ 9 ห้อง) ปี 2547 เปิด เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ที่บิ๊กซี ฉะเชิงเทรา (ประกอบด้วยโรงภาพยนตร์ 5 โรง โบว์ลิ่ง 12 เลน คาราโอเกะ 7 ห้อง) นอกจากนี้ ได้เปิดให้บริการในแบรนด์ อีจีวี เมื่อปี 2546 ที่ บิ๊กซี ราชดำริ (ประกอบด้วย โรงภาพยนตร์ 7 โรง) ปี 2548 เปิด อีจีวี ที่บิ๊กซี อ้อมใหญ่ และล่าสุดในปีนี้ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2550 เปิดเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ที่บิ๊กซี ชลบุรี (ประกอบด้วย โรงภาพยนตร์ 4 โรง โบว์ลิ่ง 10 เลน คาราโอเกะ 8 ห้อง) รวมเปิดให้บริการ 5 สาขา ประกอบด้วยโรงภาพยนตร์ 26 โรง โบว์ลิ่ง 46 เลน คาราโอเกะ 36 ห้อง

นายประพันธ์กล่าวเสริมว่า ขณะนี้บิ๊กซีมี 54 สาขา ที่เปิดให้บริการแล้ว ส่วนในปีหน้ามีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 8 แห่ง รวมงบลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีที่เป็นขนาดใหญ่มาตรฐาน 3 สาขาและมีเมเจอร์ฯเปิดบริการด้วย ส่วนอีก 5 สาขาจะเป็นรูปบคอมแพ็คหรือโมเดล G4 จากปรกติจะลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท เปิดเพิ่ม 4-5 สาขาเท่านั้น

นายประพันธ์ เอี่ยมรุ่งโรจน์ รองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การแข่งขันธุรกิจค้าปลีกช่วงปลายปีจะมีความเข้มข้นและคึกคักมากขึ้น เพราะเป็นช่วงเทศกาลหน้าขายสำคัญ ขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคเองก็ยังไม่ค่อยดีมากนัก อีกทั้งราคาสินค้าก็มีการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคต้องรัดเข็มขัดเต็มที่

ล่าสุดทางบิ๊กซีได้ลดอัตราค่าเช่าพื้นที่ในฟู้ดคอร์ทให้กับพันธมิตรร้านค้าอาหารต่างๆ เพื่อไม่ให้มีต้นทุนที่สูงขึ้น เพื่อที่จะได้ตรึงราคาจำหน่ายอาหารให้กับผู้บริโภคได้เหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บิ๊กซีไม่ได้เป็นพันธมิตรรายเดียวของเมเจอร์ฯที่เข้าไปเปิดโรงหนังในดิสเคาน์สโตร์ เพราะว่าก่อนหน้านี้ เมเจอร์ฯก็เปิดสาขาในเทสโก้โลตัสซูเปอร์เซ็นเตอร์บ้างแล้ว เช่นที่สาขา เทสโก้โลตัสบางกะปิ เป็นต้น ส่วนในคาร์ฟูร์ยังไม่มี ขณะที่บิ๊กซีเองก็มีผู้ประกอบการโรงหนังบางค่ายที่เปิดบริการอยู่ในบิ๊กซีเช่นกันเช่น ที่บิ๊กซีสาขานครปฐม

นายวิชากล่าวต่อถึงกรณีบริษัทลูกคือ เอ็มพิคเจอร์ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าซื้อหุ้นในบริษัท ทราฟฟิกคอร์เนอร์ ซึ่งมีแผนที่จะต่อยอดธุรกิจด้วยการนำเอาหนังของเอ็ทมพิคเจอร์ไปฉายบนมือถือ หรือทีวีดาวเทียมซึ่งต้องรอผลการสรุปการเจรจาและการศึกษาก่อน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us