ยุคที่การเกิดขึ้นมาของอาคารสูงในไทยไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงานหรือที่พักอาศัยหรือแม้กระทั่งสถานบริการต่างๆ
เช่น โรงแรม โรงพยาบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพแม้จะมีเพิ่มโดยตลอดในระยะ
3-4 ปีที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าความต้องการในเรื่องของอาคารสูงในกรุงเทพยังไม่มีลดลงการเกิดใหม่ด้วยการเปิดโครงการจึงมีมากทุกวันเวลา
อันเป็นการตอบสนองต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่กล่าวกันว่า ไทยกำลังจะเป็นเสือตัวที่
5 ของเอเซีย
ขณะเดียวกันจากการตื่นตัวของอาคารสำนักงานต่างๆ ในเรื่องเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน
ทำให้โอกาสของการเกิดบริษัทที่ทำหน้าที่ในเรื่องเกี่ยวกับการบริหารควบคุมและซ่อมแซมระบบภายในอาคาร
(OPERATION&MANTENANCE) หรือ O&M ก็มีมากตาม
"เราพร้อมที่จะเข้ารับงานในเรื่องดังกล่าว" สุรชัย จิริยะสินผู้จัดการทั่วไปบริษัทพร้อมเทคโนเซอร์วิสผู้บุกเบิกในธุรกิจประหยัดพลังงาน
กล่าวกับ "ผู้จัดการ" ถึงสถานการณ์ของการรับงานด้านดังกล่าว และย้ำว่าแนวคิดนี้มาจากการมองเห็นลู่ทางว่ามีอนาคตไกลของไพศาล
ศิริรัตน์อัสดงประธานกลุ่มเตียวฮง
"คุณไพศาลคิดโดยมองการถึงเรื่องการให้บริการหลังการขาย" สุรชัยกล่าวถึงเรื่องการตั้งพร้อมเทคโนเซอร์วิสขึ้นมา
เพื่อให้การดำเนินงานของเตียวฮงกรุ๊ปเป็นแบบครบวงจร
กลุ่มเตียวฮง นับเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมการค้าที่มีงาน และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างมากกลุ่มหนึ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาอุปกรณ์สำนักงานหรือก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นลิฟท์ เครื่องปรับอากาศ
สุรชัยกล่าวถึงการหันมาให้ความสนใจให้บริการของบริษัทต่ออาคารสูงต่างๆ
ในกรุงเทพฯ ว่ามาจากการที่ภาครัฐเป็นผู้ริเริ่มให้ความสนใจในเรื่องเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานในประเทศในปัจจุบัน
ถึงขึ้นมีการออกกฎหมายเรื่องนี้โดยเฉพาะขึ้นมา ดังนั้นความต้องการ "ผู้เชี่ยวชาญ"
ของเจ้าของอาคารต่างๆ เพื่อมาดูแลเรื่องนี้ก็มีมาก
จะว่าไปแล้ว ในเรื่องการให้บุคคลภายนอกมาเป็นผู้ดูแลอาคารแทนเจ้าของในโครงการอาคารสูงต่างๆ
นั้นไม่ได้เป็นเรื่องใหม่นัก เพราะที่ผ่านๆ มานั้นเจ้าของอาคารสูงต่างๆ ก็มีการว่าจ้างบรรดาบริษัทต่างๆ
ให้เป็นผู้ดูแลความปลอดภัยและการรักษาความสะอาดมากกว่าเรื่องการประหยัดพลังงาน
"การประหยัดพลังงานที่ผ่านๆ มานั้นเป็นการเดินดูเรื่องการเปิดปิดไฟ
หรือเครื่องปรับอากาศมากกว่าเรื่องที่เราจะเป็นผู้ดูแลให้" สุรชัยกล่าวถึงเรื่องนี้ในอดีต
ขณะเดียวกันตัวเลขอาคารสูงที่มีการศึกษาโดยอเมริกันแอพไพรซัล (ประเทศไทย)
ที่มีระบุว่า ในปีนี้จะมีอาคารสูงประมาณ 510 อาคาร เพิ่มเป็น 622 ในปี 2536
เป็น 644 อาคารในปี 2537 และเป็น 667 อาคารในปี 2538 ซึ่งเป็นปีที่การก่อสร้างอาคารสูงมีไม่มากนัก
ตัวเลขที่น่าสนใจจากการศึกษาเดียวกันนั้น ระบุว่า ในบรรดาอาคารสูงต่างๆ
นั้น จะมีพื้นที่ใช้สอยของสำนักงาน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญของงานของพร้อมเทคโนเซอร์วิสสูงประมาณ
2.72 ล้านตารางเมตรในปีนี้ เพิ่มเป็น 4.33 ล้านตารางเมตรในปีหน้าเป็น 5.62
ล้านในปี 2637 และ 5.81 ล้านตารางเมตรในปี 2538
ตัวเลขเหล่านี้ นิพนธ์ ตั้งไพบูลย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดพร้อมเทคโนเซอร์วิสกล่าว
ว่าเป็นตลาดที่ทำให้พร้อมมีความมั่นใจมากว่าจะเป็นตลาดที่ใหญ่มากในการให้บริการในเรื่องการประหยัดพลังงานในอาคารสูง
"เราเชื่อมั่นในตลาดมากเพราะเราเป็น NEW CONCEPT ในเรื่องนี้ เพราะนอกจากเราแล้วยังไม่มีใครคิดเรื่องนี้เลย"
นิพนธ์กล่าวย้ำกับ "ผู้จัดการ"
อย่างไรก็ตาม การที่โนว์ฮาวในเรื่องการประหยัดพลังงานในการใช้อาคารสูงในไทย
ยังเป็นเรื่องใหม่อยู่ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่กลุ่มเตียวฮง ซึ่งแตกไลน์ธุรกิจมาจากการเป็นบริษัทที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องหาโนว์ฮาวและเทคโนโลยีในเรื่องนี้
ซึ่งในการเลือกหาผู้ร่วมทุนดังกล่าวนี้ สุรชัยกล้าที่จะกล่าวกับ "ผู้จัดการ"
ว่าเตียวฮงสามารถที่จะหาพาร์ทเนอร์ที่ดีมาร่วมทุนในครั้งนี้ นั่นคือกลุ่มคอแฟตจากประเทศฝรั่งเศส
ที่มีประสบการณ์ในเรื่องการประหยัดพลังงานในหลายประเทศทั้งในยุโรป อเมริกา
ออสเตรเลีย จนถึงแถบเอเชียโดยเตียวฮงถือหุ้น 51% และคอแฟตถือหุ้น 49% ซึ่งในรูปแบบของการร่วมทุนนี้
กลุ่มเตียวฮงจะเป็นผู้ดูแลในเรื่องเครื่องมือเครื่องใช้ในการดำเนินการจนถึงเรื่องคนในขณะที่คอแฟต
จะเป็นคนดูแลและศึกษาเรื่องเทคนิค การให้บริการและการฝึกอบรมคน
แม้จะใหม่ในไทย แต่คอแฟตก็ไม่ได้เป็นหน้าใหม่ทีเดียวในธุรกิจในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือแถบอาเซียนเพราะคอแฟตมีสำนักงานในภูมิภาคนี้ถึง
2 จุดคือที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อดูเรื่องการให้บริการบรรดาลูกค้าของเขาในภาคพื้นนี้
สำหรับรูปแบบของการให้บริการนั้นสุรชัยกล่าวว่า ได้แก่การให้ความสนใจในเรื่องของการประหยัดพลังงาน
เช่นไฟฟ้าเป็นหลัก โดยพร้อมเทคโนเซอร์วิส จะรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวโดยจะมีทั้งการดูแลในอาคารที่สร้างอยู่แล้วแต่ที่ผ่านมามักจะไม่ค่อยได้รับความสนใจอย่างเรื่องการใช้ลิฟท์เป็นต้น
และอาจจะมีการติดตั้งเครื่องจักรหรือเครื่องมืออื่นๆ เพิ่มเพื่อช่วยในเรื่องนี้ตามแต่การศึกษาที่อาศัยโนว์ฮาวของคอแฟต
ซึ่งเครื่องจักรเครื่องมือ ที่ติดตั้งนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องมือที่เตียวฮงเป็นผู้แทนจำหน่าย
แม้การเริ่มต้นแนวคิดของเรื่องนี้จะมาจากการมุ่งในเรื่องการให้บริการหลังการขายก็ตาม
การให้บริการดังกล่าวนี้ ผู้จัดการทั่วไปพร้อมเทคโนเซอร์วิสกล่าวว่า เป็นการดำเนินการที่มุ่งหวังตลาดอาคารสำนักงานที่มีการเกิดขึ้นโดยตลอดในระยะหลังๆ
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่ความต้องการในเรื่องอาคารสูงสำหรับการเป็นสำนักงานมีมาก
ด้วยการที่เชื่อมั่นว่า การให้บริการในเรื่องนี้ แม้จะยังใหม่อยู่ในไทยก็ตาม
แต่การได้ผู้ร่วมทุนที่เป็นพาร์ทเนอร์ต่างชาติที่ดี ทำให้พร้อมเทคโนเซอร์วิสมีความมั่นใจมากที่จะ
"รับประกัน" ในเรื่องของการดำเนินงานโดยสุรชัยกล่าวว่า บริษัทจะตั้งเป้าว่า
สามารถที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายในขั้นต้นอย่างน้อย 10% หากผู้ใช้บริการทำตามคำแนะนำและการศึกษาของบริษัทและสามารถที่จะประหยัดการใช้พลังงานมากกว่า
10% ด้วยซ้ำหากมีการติดตั้งเครื่องจักรหรือเครื่องมือบางอย่าง
ซึ่งหากการดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายแล้วพร้อมเทคโนเซอร์วิสก็จะรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว
ตัวเลขเหล่านี้ คิดกันง่ายๆ ว่า สมมติอาคารหลังหนึ่ง เคยจ่ายค่าไฟฟ้าเดือนละ
5 ล้านบาท แต่เมื่อมีการดูแลโดยพร้อมเทคโนเซอร์วิส ก็จะสามารถที่จะประหยัดได้ถึงเดือนละ
5 แสนบาท ปีละ 6 ล้านบาท หากการประหยัดสามารถที่จะทำได้เกิน 10% พลังงานที่ลดการใช้ก็จะมากขึ้นอย่างแน่นอน
"เราประกันว่าสามารถที่จะทำได้ตามที่ต้องการ เพราะเราเชื่อมั่นในคอแฟตว่าทำได้ตามที่เขามีประสบการณ์"
สุรชัยกล่าวและย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวนี้ เชื่อว่าจะได้รับการยอมรับมากขึ้นในอนาคต
แม้วันนี้จะเป็นเพียงการเริ่มต้นและมีเพียงบริษัทพร้อมเทคโนเซอร์วิสเท่านั้นที่ดำเนินงานด้านนี้อยู่
อย่างที่นิพนธ์กล่าวทิ้งท้ายกับ "ผู้จัดการ" ถึงธุรกิจนี้ว่าเพิ่งเริ่มต้นนับหนึ่งและมีลูกค้าเริ่มต้นในวันนี้เพียง
3 รายคืออาคารว่องวานิช อาคารบางนาทาวเวอร์และอาคารเตียวฮงบางนา แต่บริษัทก็ตั้งเป้าเอาไว้สำหรับปีนี้จำนวนประมาณ
8-10 อาคาร โดยเน้นเฉพาะอาหารที่สูงเกิน 15 ชั้น ที่มีการจัดทำ BUILDING
SURVEY อยู่ในขณะนี้มีจำนวนประมาณ 20 อาคารที่กำลังรอผลการสำรวจและเจรจาอยู่
แต่ก็เริ่มมีการกล่าวถึงบ้างในท้องตลาดว่าจะมีรายใหม่มาดำเนินการในรูปแบบนี้ซึ่งแสดงว่าหลายๆ
คนเริ่มมองเห็นว่าธุรกิจนี้มีอนาคตดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ภาครัฐลงมาให้ความสนใจและความสำคัญในเรื่องนี้เพราะทุกๆ
มิเตอร์ของการเพิ่มปริมาณการใช้พลังงาน คือการเพิ่มขึ้นของการทำลายมลภาวะของโลก
แต่กว่ารายอื่นจะเริ่มดำเนินการ วันนั้น พร้อมเทคโนเซอร์วิสก็คงจะเป็นที่รู้จักกันดีแล้ว
ว่าเขามาถูกทั้งกาละและเทศะ ในยุคที่คนกำลังหันมาให้ความสนใจเรื่องนี้มากกว่าอดีตที่ผ่านมา