Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 พฤศจิกายน 2550
ปิคนิคฯหนี้ท่วมเงินสดตลท.ฟันหวั่นกระทบงบ             
 


   
www resources

โฮมเพจ ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น

   
search resources

ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น, บมจ.
Oil and gas




ตลท.ไม่ไว้ใจสั่งแขวน "H" หุ้น PICNI ห่วงหากเจ้าหนี้ตั๋วแลกเงินมูลหนี้รวม 140 ล้านบาทยึดทรัพย์กระทบการดำเนินงานของบริษัท หลังงบไตรมาส3/50 บริษัทมีเงินสดแค่ 98 ล้านบาท "ภัทรียา"ย้ำหากมีการชี้แจงข้อมูลเป็นเท็จไม่รอดทีมกฎหมายแน่ ด้านปิคนิคฯ แก้เกี้ยวแจงมูลหนี้กว่า 568 ล้านบาทอยู่ระหว่างการเจรจาเจ้าหนี้ และอีกหลายคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ขณะที่ดิ้นลงบันทึกเป็นภาระหนี้ตั๋วแลกเงินทั้งหมดสิ้น 30 ก.ย. 50

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า ตามที่บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI ได้ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าของ เจ้าหนี้ตั๋วแลกเงินที่อยู่ระหว่างยึดทรัพย์และบังคับคดีมูลหนี้ 140 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย มูลหนี้ 90 ล้านบาท บริษัทแจ้งว่าเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2550 ศาลยกคำร้องเนื่องจากบริษัทไม่หาหลักประกันมาวางต่อศาลตามกำหนด และคู่กรณีจะดำเนินการบังคับคดียึดทรัพย์สิน ซึ่งบริษัทแจ้งว่าจะดำเนินการเจรจาประนอมหนี้กับคู่กรณี ในขณะที่มูลหนี้ 50 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการบังคับคดี และบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าหนี้

ทั้งนี้ จากข้อมูลในงบการเงินไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด 30 ก.ย.50 บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 98 ล้านบาท ซึ่งการถูกยึดทรัพย์และบังคับคดีจะมีผลกระทบต่อฐานะการเงิน และสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องของบริษัท

อย่างไรก็ตามตลาดหลักทรัพย์จึงขึ้นเครื่องหมาย "H" (Halt) หลักทรัพย์ของ PICNI สำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ของวันที่ 27 พ.ย. 50 จนกว่า PICNI จะสามารถชี้แจงถึงแนวทางดำเนินการ ความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และผลกระทบต่อการดำรงอยู่ของกิจการหากถูกยึดทรัพย์และยังสั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ PICNI โดยขึ้นเครื่องหมาย SP จนกว่าบริษัทจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวครบถ้วน ทั้งนี้หากบริษัทดังกล่าวชี้แจงไม่ตรงต่อความเป็นจริง ก็มีกฎหมายดูแลเรื่องนี้อยู่

นายสุเทพ อัคควุฒิไกร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น กล่าวถึงความคืบหน้าในเรื่องของเจ้าหนี้ตั๋วแลกเงิน ว่า หนี้เงินกู้ของสถาบันแห่งหนึ่ง มูลหนี้ 50 ล้านบาท ในส่วนของคดีล้มละลายศาลพิพากษายกฟ้องคดีล้มละลาย เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 49 ขณะที่คู่กรณียื่นอุทธรณ์ วันที่ 6 มี.ค. 50 และบริษัทได้แก้อุทธรณ์วันที่ 2 เม.ย. 50 ล่าสุดปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฏีกา

ในส่วนของคดีแพ่ง ศาลพิพากษาให้บริษัทชำระ 50 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 5% ของ 48ล้านบาท ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 2 ต.ค.49 บริษัทยื่นอุทธรณ์แต่เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 49 ศาลไม่รับอุทธรณ์เนื่องจากบริษัทชำระค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ไม่ทันตามกำหนดเวลา ด้านคู่กรณีได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฏีกาเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 49 ให้ PICNI ชำระ 50 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 5% ของ 50 ล้านบาทและยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา ปัจจุบันยังไม่ได้รับการติดต่อจากศาล และปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าหนี้

ด้านหนี้สถาบันอีกแห่งหนึ่ง มูลหนี้ 90 ล้านบาท คำสั่งของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับคดีแพ่งเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 49 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้บริษัทชำระ 90 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 5% ของ 90 ล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 49 บริษัทได้ยื่นอุทธรณ์โดยศาลรับอุทธรณ์ พร้อมยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 49 บริษัทยื่นคำแก้อุทธรณ์คำสั่งของศาลที่ไม่อนุญาตให้ตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีของคู่กรณี ฉบับลงวันที่ 17 พ.ย.49

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 49 คู่กรณียื่นคำแถลงคัดค้านการขอทุเลาการบังคับคดีระหว่างอุทธรณ์ของ PICNI ฉบับลงวันที่ 22 ก.ย. 49 และยื่นคำขอออกหมายบังคับคดีต่อศาล โดยเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 49 ศาลมีคำสั่งเห็นควรให้งดการบังคับคดีไว้รอฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ในเรื่องของการทุเลาการบังคับคดีของบริษัทยังไม่ออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีให้ยกคำขอ

อย่างไรก็ตามในวันที่ 17 พ.ย. 49 คู่กรณีอุทธรณ์คำสั่งของศาลที่ไม่อนุญาตให้ตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีฉบับลงวันที่ 17 ต.ค. 49 ต่อจากนี้วันที่ 13 ธ.ค. 49 คู่กรณียื่นคำแก้อุทธรณ์คัดค้านอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นของปิคนิคฉบับลงวันที่ 22 ก.ย. 49 ศาลมีคำสั่งรับแก้อุทธรณ์ของคู่กรณีในวันที่ 15 ธ.ค.49 และวันที่ 5 มิ.ย. 50 ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้บริษัทหาหลักประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นพร้อมดอกเบี้ยมาวางไว้กับศาลอุทธรณ์ โดยบริษัทได้เสนอหุ้นสามัญของบริษัทแห่งหนึ่งเป็นหลักประกัน

อย่างไรก็ตามศาลได้มีคำสั่งไม่รับหุ้นสามัญของบริษัทดังกล่าวเป็นหลักประกัน และให้บริษัทหาหลักประกันใหม่มาวางไว้กับศาลอุทธรณ์ และจะพิจารณาหลักประกันใหม่ในวันที่ 26 พ.ย.50

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า กรณีมูลหนี้ 74 ล้านบาทจองกองทุน 3 กองทุนศาลชั้นต้นเกี่ยวกับคดีแพ่งพิพากษาให้บริษัทชำระเงินรวมประมาณ 74 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 5% ของ 74 ล้านบาท ต่อมาบริษัทได้ยื่นอุทธรณ์ทั้ง 3 คดี ระหว่างเดือนมีนาคม - เมษายน 2550 โดยศาลรับอุทธรณ์ทุกคดี

ทั้งนี้ ความคืบหน้าของคดีแพ่งยังไม่มีการบังคับคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาหลักประกัน ขณะที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับเจ้าหนี้

ในส่วนของหนี้ 296 ล้านบาทของกองทุน 6 กองทุน ขณะที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับเจ้าหนี้

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้บันทึกภาระหนี้ตั๋วแลกเงินทั้งหมด ทั้งที่เป็นคดีและไม่เป็นคดี ณ วันที่ 30 ก.ย.50 รวมเป็นเงินต้น 510 ล้านบาทและดอกเบี้ยค้างจ่าย 58 ล้านบาท รวม 568 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us