Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 พฤศจิกายน 2550
เบอร์ลี่ฯทุ่ม5.5พันล.ลุยบรรจุภัณฑ์ครบวงจร             
 


   
www resources

โฮมเพจ Berli Jucker (เบอร์ลี่ ยุคเกอร์)

   
search resources

เบอร์ลี่ ยุคเกอร์, บมจ.
ธีรศักดิ์ นาทีกาญจนลาภ
Consumer Products




เบอร์ลี่ฯ ทุ่ม 5,500 ล้านบาท ขยายอาณาจักรบรรจุภัณฑ์ครบวงจร รองรับตลาดอาหาร เครื่องดื่มทั้งในประเทศ และอาเซียนขยายตัว รุกซื้อหุ้นบ.ไทย เบเวอร์เรจ แคน ขยายไลน์ผลิตกระป๋องอลูมิเนียม พร้อมขยายกำลังผลิตโรงงานขวดแก้ว 9 แสนตันต่อปี ผุดโรงงานผลิตแก้ว-ทิชชูเวียดนาม ลุยขยายธุรกิจอาหารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปั้นขนมขึ้นรูปลงสมรภูมิตลาดไทย โชว์ผลประกอบการ 9 เดือน โต 9% กวาด 12,135 ล้านบาท

นายธีรศักดิ์ นาทีกาญจนลาภ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นโยบายของบริษัทวางแผนขยายการลงทุน 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มบรรจุภัณฑ์ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มธุรกิจเทคนิคและอุตสาหกรรม อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดได้ทุ่มงบลงทุน 5,500 ล้านบาท ในระหว่างปี 2550-2551 โดยแบ่งเป็นงบ 1,074 ล้านบาท ซื้อหุ้นบริษัทไทย เบเวอร์เรจ แคน จำกัด หรือผู้ผลิตกระป๋องและฝากระป๋องอลูมิเนียม รวมทั้งการพิมพ์ลายทั้งบนกระป๋องและฝากระป๋อง เพื่อขยายไลน์สินค้าในกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ จากปัจจุบันบริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์ประเภทขวดแก้วและพลาสติก ซึ่งการเข้าสู่กลุ่มบรรจุภัณฑ์ประเภทอลูมิเนียม เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ประเภทพกพา ตลอดจนกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มเบียร์ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และกลุ่มอาหาร ฯลฯ เพื่อป้อนตลาดทั้งในประเทศและในภูมิภาคอาเซียน

ส่วนงบลงทุนอีก 1,650 ล้านบาท จะขยายกำลังการผลิตของบริษัทอุตสาหกรรมเครื่องแก้วไทย จำกัด (มหาชน) ที่โรงงานบางพลี คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2551 ส่งผลให้เป็นโรงงานที่มีกำลังผลิตแก้วกว่า 9 แสนตันต่อปี ใหญ่ที่สุดในไทย และวางแผนปรับปรุงเตา 5 เตา พร้อมทั้งใช้งบร่วม 1,000 ล้านบาท วางแผน 5 ปี โยกสายการผลิตโรงงานราษฎร์บูรณะไปโรงงานแห่งใหม่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ อยู่ภาคกลาง ขนส่งสะดวก ใกล้ท่อก๊าซ เนื่องจากต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติแทนน้ำมันเตา เพื่อลดต้นทุนการผลิต

นอกจากนี้ยังลงทุนซื้อเครื่องจักรกว่า 1,000 ล้านบาท ในกลุ่มธุรกิจการผลิตขวดแก้วไปยังประเทศเวียดนาม ภายใต้บริษัท วีนา กล๊าส อินดัสทรีส์ จำกัด ซึ่งบริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ถือหุ้น 100% เมื่อปี 2538 โดยได้ก่อสร้างโรงงานพื้นที่ 45 ไร่ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการกับผู้ร่วมทุน

“แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่ดีในปีหน้า แต่เนื่องจากธุรกิจกลุ่มบรรจุภัณฑ์ขณะนี้กำลังผลิตไม่พอกับความต้องการ ซึ่งเฉพาะแค่การป้อนขวดให้กับกลุ่มธุรกิจเบียร์ของบริษัทไทยเบฟฯ ของเราและอื่นๆ คิดเป็น 43% แล้ว ที่เหลือแบ่งเป็น กลุ่มอาหาร 35% เครื่องดื่มชูกำลัง 10% เครื่องดื่ม 9% และอื่นๆ 3% เป็นต้น อย่างไรก็ตามจากการรุกขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์คาดว่าสัดส่วนรายได้ในกลุ่มดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น”

สำหรับในกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัทสนใจขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร โดยอยู่ระหว่างการเจราจาบริษัทขนาดกลางที่อยู่ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าจะสรุปช่วงต้นปีนี้ พร้อมกันนี้ยังลงทุน 200 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรขนมขึ้นรูป ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้า โดยจะเปิดตัวสินค้าใหม่ในต้นปีหน้านี้ ขณะเดียวกันยังมีความสนใจตั้งโรงงานแปรรูปกระดาษทิชชูภายใต้แบรนด์เซลล็อกซ์ในประเทศเวียดนาม เนื่องจากเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยขณะนี้ยอดขายจากประเทศเวียดนามราว 100 ล้านบาท

ผลประกอบการช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราเติบโต 9% หรือ 12,135 ล้านบาท กำไร 31% มาจากกลุ่มบรรจุภัณฑ์ 41% ธุรกิจเทคนิคและอุตสาหกรรม35% คอนซูเมอร์ 19% อื่นๆ 5%ในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 บริษัทมีผลประกอบการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2550 และไตรมาส3 ของปี 2549 โดยมีรายได้จากการขาย 4,183 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 7 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 13 % เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปีที่แล้ว

โดยรายได้หลักมาจาก 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ 2. ธุรกิจสินค้าอุปโภค บริโภค และ3. ธุรกิจเทคนิคและอุตสาหกรรม และผลจากการซื้อหุ้นสามัญบริษัทไทย เบเวอร์เรจ แคน จำกัด จำนวน 50 ล้านหุ้น หรือ 50% ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว โดยซื้อในราคาหุ้นละ 21.48 บาท จะส่งผลให้รายได้ของบริษัทเพิ่มกว่า 2,000 ล้านบาทในปี 2551 หรือได้กำไรเพิ่มขึ้น 100 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us