"จีอี มันนี่" ชิงพื้นที่ธุรกิจ "สินเชื่อรถ" เก็บกินดอกผลในช่วง เศรษฐกิจมีทีท่าจะตกอยู่ในภาวะเงินฝืด ล้วงกระเป๋าเจ้าของรถ ให้วงเงินกู้ 100% ของราคาประเมิน ผ่อนนาน 60 เดือน ไม่มีคนค้ำ ขยายวงจากฐานลูกค้าเดิมในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ที่มีสัดส่วนกว่า 70% มาเป็น "สินเชื่อส่งตรง" ถึงประตูบ้านเจ้าของรถ เป็นการลดต้นทุนเปิดสาขาใหม่ ควบคู่กับเพิ่มอัตราเร่งในการบุกจู่โจม "ราชาเงินผ่อน" รายใหม่....

เชื่อว่า หากใครยังไม่ได้ทำความรู้จักกับ "จีอี" ผู้ปกครองคนใหม่ของ"ธนาคารกรุงศรีอยุธยา" อย่างน้อยก็คงไม่พลาดที่จะได้สัมผัส "จีอี" ผ่านธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคารมาบ้าง ที่โดดเด่นก็คือ จีอี มันนี่ คาร์ฟอร์แคช สินเชื่อรถยนต์เก่า หรือสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ ที่จีอี บุกเบิกตลาดเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว

ไม่อย่างนั้น หลายคนก็คงต้องเคยผ่อนชำระสินเชื่อรถจักรยานยนต์ ผ่าน จีอี มันนี่ มอเตอร์ไซเคิล เครดิต รวมถึงบัตรเครดิตกรุงศรี จีอี บัตรเซ็นทรัล มาสเตอร์การ์ด บัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า บัตรเครดิตโรบันสัน วีซ่า บัตรเครดิตเทสโก้ วีซ่า มาบ้าง

ยังไม่นับ ราชาเงินผ่อน สินเชื่อเพื่อการซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระผ่านทาง จีอี มันนี่ เฟิร์สช้อยส์ และเพาเวอร์บาย สุดท้ายก็คือ กลุ่มลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคลหรือ ควิกแคช ที่กำลังแทรกเข้าถึงทุกครัวเรือน เกือบจะทุกหย่อมหญ้า ไม่เลือกชนชั้น

โดยเฉพาะ โปรแกรม จีอี คาร์ฟอร์ แคช เดลิเวอรี่ ถือเป็นการต่อยอดช่วงเวลา 5 ปี หลังการบุกเบิกตลาดสินเชื่อรถเก่า หรือ การนำรถมาจำนำตามหลักการที่เคยมีอยู่ตามปรกติของธุรกิจเตนท์รถทั่วไป

" นี่คือ ตลาดใหม่ ที่ลูกค้าสามารถนำเอาทรัพย์สินที่มีอยู่คือ รถยนต์ของตัวเอง มาต่อยอดของกู้เงินได้"

ไพโรจน์ ชื่นครุฑ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ -ฝ่ายขาย จีมี มันนี่ ประเทศไทย ให้ข้อมูลธุรกิจที่เพิ่งบุกเบิกได้ไม่นาน แถมเป็นตลาดใหม่ที่ยังมีคู่แข่งไม่มาก แต่ดอกผลที่ได้รับกลับไม่น้อย เพราะลูกค้าต้องผ่อนในเรทที่ใกล้เคียงกับดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์มือสอง

เดิมที ลูกค้ากว่า 70% มักจะเป็นการต่อยอดมาจาก ฐานลูกค้าเช่าซื้อรถยนต์ แต่ภายหลังมีโครงการส่งตรงสินเชื่อถึงหน้าบ้านเจ้าของรถที่ผ่อนรถไปได้ระยะหนึ่งแล้ว จีอีก็จะเริ่มรุกเข้าไปในกลุ่มลูกค้าใหม่ ที่ไม่เคยใช้บริการของจีอีเลย ซึ่งมีสัดส่วนเพียง 30%

" เราทำตลาดมานาน 4-5 ปี หลังจากนี้ก็ควรที่จะออกไปหาลูกค้าใหม่ โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเดินเข้ามาหาเราเหมือนเดิม"

ไพโรจน์ บอกว่า แคมเปญ จีอี คาร์ฟอร์แคช เดลิเวอรี่ มีงบการตลาด 30 ล้านบาท ที่จะกระตุ้นยอดขายปีนี้ขยายตัว 20%

โดยหลักการง่ายๆของ สินเชื่อสำหรับคนมีรถก็คือ การให้วงเงินต่อรายประมาณ 1 แสนบาท ใช้รถเป็นหลักประกัน ถ้าได้ 100,000 คัน ก็จะปล่อยสินเชื่อได้ถึง 10,000 ล้านบาทในปีนี้

นอกจากนั้น การใช้พนักงานรวม 600 ชีวิต เดินสายไปเคาะประตูบ้านเจ้าของรถ ก็ยังทำให้ประหยัดการลงทุนด้านสาขา

"จากเดิมการขยายฐานลูกค้า เราต้องเพิ่มจุดบริการ โดยการลงทุน แต่เดลิเวอรี่ จะไม่เน้นให้ลูกค้าเดินมาที่ ช้อป แต่จะโฟกัสไปที่กลยุทธ์กระจายช่องทางรูปแบบใหม่มากขึ้น"

ก่อนหน้านั้น ลูกค้าต้องเข้ามาใช้บริการสาขา 28 แห่งทั่วประเทศ ใช้บริการช้อปของควิกแคช 96 แห่ง ร้านตัวแทนที่มีโลโก้ Car 4 Cash อีกกว่า 100 แห่ง รวมถึงสินเชื่อ ออนไลน์ และ Call Center

ไพโรจน์ บอกว่า กลุ่มเป้าหมายของจีอี จึงมีทั้ง ลูกค้าที่เคยใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ และที่ยังไม่เคยใช้เลย รวมกับกลุ่มคอร์ปอเรท ประเภท ไมโคร เอสเอ็มอี โดยจะใช้เงื่อนไขที่ต่างจากเต้นท์รถเก่าคือ วงเงินสูงกว่า อายุรถไม่เกิน 12 ปี เฉลี่ย 6-7 ปี ส่วนดอกเบี้ยจะกำหนดตามอายุรถ ยี่ห้อรถและเงื่อนไขอื่นๆ

" ในอดีต ธุรกิจนี้ไม่มีผู้เล่นในตลาดจริงๆสักราย ต้องมืออาชีพจริงๆเท่านั้น ส่วนดอกเบี้ยจะเก็บเท่าหรือสูงกว่า รถเก่าเล็กน้อย ส่วนมาร์จิ้นคงไม่สูงมาก ขึ้นกับบริษัทไหนจะบริหารความเสี่ยงได้ดีกว่ากัน แต่ยอมรับว่า การแข่งขันคงรุนแรงมากขึ้น"

ไพโรจน์บอกว่า การให้วงเงิน 100% คงไม่ใช่รถทุกคันจะผ่านเงื่อนไขที่กำหนด ดังนั้นยี่ห้อรถจึงมีส่วนสำคัญกับวงเงิน ถ้าเป็นรถตลาดที่มีผู้ใช้จำนวนมาก หาอะไหล่ได้ง่าย อาทิ รถญี่ปุ่นบางยี่ห้อ ที่ ราคาไม่ตกมาก ก็จะได้วงเงินสูงกว่า ยี่ห้ออื่น

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าเก่าที่เคยใช้บริการกับ จีอีมาก่อน ก็อาจจะได้รับเงื่อนไขพิเศษกว่า ลูกค้าหน้าใหม่ที่ยังไม่รู้ปูมหลัง

ใครที่ยังไม่เคยใช้บริการจีอี มันนี่มาก่อน ในไม่ช้าก็อาจจะได้ทำความรู้จักกับเจ้าหนี้ จากโลกตะวันตก แต่ที่เคยมาบ้างแล้ว ก็คงมีเรื่องเล่าขานไม่รู้จักจบ ในฐานะ "ราชาเงินผ่อน" ที่ยิ่งผ่อนมากเท่าไร ก็จะผ่อนอยู่อย่างนั้น ไม่รู้จักจบจักสิ้นเสียที...