ผู้บริหาร บล.ภัทร ได้ฤกษ์ซื้อหุ้นคืนหลังราคาหุ้นร่วง เดือนกว่าควักเงินเก็บหุ้น 35 ล้านบาท จากช่วงพ.ค.- ต.ค. ที่ราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปสูงสุดระดับ 53 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่าขาย 130 ล้านบาท ด้าน"บรรยง พงษ์พานิช " ซื้อมากสุด 17 ล้านบาท
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัทภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ PHATRA วานนี้ ปิดที่ 30.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ ลดลง 4.69% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 116.93 ล้านบาท จากการรวบรวมข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2) บริษัทภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ PHATRA พบว่า ในช่วงเดือนตุลาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน 2550 ได้เข้ามาซื้อหุ้นบล.ภัทร เข้าพอร์ตรวม จำนวน 9.8 แสนหุ้น มูลค่ารวม 34.40 ล้านบาท หลังจากที่มีการขายหุ้นไปจำนวนมากในช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนสิงหาคม จำนวนหุ้นรวมประมาณ 3.29 ล้านหุ้น มูลค่ารวมประมาณ 130 ล้านบาท จากที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่า 30 บาทต่อหุ้น ซึ่งในเดือนกรกฎาคม ราคาหุ้นปรับตัวสูงสุดที่ 53 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการ ได้เข้ามาซื้อหุ้นวันที่ 16 พฤศจิกายน 2550 จำนวน 481,300 หุ้น ราคาหุ้นละ 34.20 บาท มูลค่า 16.46 ล้านบาท และวันที่ 19พฤศจิกายน ได้เข้ามาซื้ออีกจำนวน 18,700 หุ้น ราคาหุ้นละ 34.90 บาท มูลค่า 6.52 แสนบาท มูลค่ารวม 17.11 ล้านบาท นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการ ซื้อหุ้น วันที่ 19 พฤศจิกายนจำนวน 20,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 33 บาท มูลค่า 6.6 แสนบาท
ด้านนายพงษ์เทพ ผลอนันต์ กรรมการอิสระ ได้เข้ามาซื้อหุ้นวันที่ 16 ตุลาคม 2550 จำนวน 20,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 39 บาท มูลค่า 7.8 แสนบาท วันที่ 5 พฤศจิกายน ได้เข้ามาซื้อจำนวน 20,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 37 บาท มูลค่า 7.4 แสนบาท วันที่ 12 พฤศจิกายน เข้ามาซื้ออีก 20,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 36.13 บาท มูลค่า 7.22 แสนบาท รวมมูลค่า 23.42 ล้านบาท
ขณะที่นายศุภกฤต เมฆภานุวัฒน์ เข้ามาซื้อหุ้นในวันที่ 12 พฤศจิกายน จำนวน 100,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 36 บาท มูลค่า 3.6 ล้านบาท วันที่ 16 พฤศจิกายน ซื้อจำนวน 100,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 34.50 บาท มูลค่า 3.45 ล้านบาท รวมมูลค่า 7.05 ล้านบาท นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ซื้อหุ้นวันที่ 30 ตุลาคม 2550 จำนวน 100,000 หุ้นราคาหุ้นละ 37.43 บาท มูลค่า 3.74 ล้านบาท และวันที่ 12 พฤศจิกายน ซื้ออีกจำนวน 100,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 36 บาท มูลค่า 3.6 ล้านบาท มูลค่ารวม 7.34 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในเดือนพฤษภาคม ได้ขายหุ้นออกมารวม 2.12 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 74.18 ล้านบาท คือ นายนายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ มูลค่า 5.34 ล้านบาท นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ มูลค่า 10.61 ล้านบาท นางพัชนี ลิ่มอภิชาต มูลค่า 7.9 ล้านบาท นายนายศุภวุฒิ สายเชื้อ มูลค่า 20.98 ล้านบาท นางภัทรพร มิลินท มูลค่า 5.32 ล้านบาท นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ มูลค่า 12.58 ล้านบาท นาย ศุภกฤต เมฆภานุวัฒน์ มูลค่า 10.52 ล้านบาท
สำหรับในเดือนกรกฎาคมถึง 8 สิงหาคม ได้มีการขายออกมาอีก1.17 ล้านมูลค่ารวม56.51 ล้านบาท โดยในช่วง ก.ค.-ส.ค. นายพงษ์เทพ ผลอนันต์ มูลค่า 4.7 ล้านบาท, นายนรเชษฐ์ แสงรุจิ มูลค่า 10.55 ล้านบาทนายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ จำนวน มูลค่า 5.25 ล้านบาท, นายศุภวุฒิ สายเชื้อ มูลค่า 3.68 ล้านบาท, นายบรรยง พงษ์พานิช มูลค่า 52.5 ล้านบาท, นางภัทรพร มิลินทสูต มูลค่า 4.2 ล้านบาท, นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ มูลค่า 9.48 ล้านบาทหุ้น รวมขายหุ้นทั้งหมด 3.29 ล้านหุ้น มูลค่ารวมประมาณ 130 ล้าน
|