ที.กรุงไทยฯตั้งเป้ารายได้ปีหน้าโต 15% สอดรับอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ที่คาดว่าจะโตประมาณ 10-15% เตรียมเจรจาพันธมิตรใหม่ร่วมทุนทำธุรกิจหลังไม่สามารถหาผลสรุปพันธมิตรจากญี่ปุ่นได้ ขณะที่อยู่ระหว่างการศึกษาซื้อเครื่องจักรใหม่เพิ่มกำลังการผลิต คาดต้องใช้เงินลงทุนอีก 100 ล้านบาท

นายจุมพล เตชะไกรศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TKT กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปีหน้าเติบโตประมาณ 15% จากปีนี้หลังมียอดการสั่งซื้อสินค้าเข้ามาทั้งจากลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่มูลค่ารวมกว่า 150 ล้านบาท ซึ่งสอดรับกับภาพรวมการผลิตรถยนต์ในปีหน้าที่คาดว่าจะเติบโตประมาณ 10-15% จากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 1.2-1.25 ล้านคัน ขณะที่รายได้ของบริษัทในปีนี้คากว่าจะเติบโตประมาณ 5% จากปีที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 803 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 9 เดือนที่ผ่านมา กำไรขั้นต้นของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 17% ขณะที่คาดว่าทั้งปีกำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ประมาณ 18% เนื่องจากในช่วงไตรมาส4/50 บริษัทจะสามารถควบคุมต้นในการผลิตสินค้าได้ดีขึ้นจากช่วงก่อนหน้านี้ และเชื่อว่าการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้นจะส่งผลดีต่อรายได้และกำไรของบริษัทในอนาคต

สำหรับ การเจรจาหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทำธุรกิจหลังจากพันธมิตรจากญี่ปุ่นซึ่งบริษัทได้เคยเจรจาเกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้าแต่ไม่สามารถตกลงในเรื่องราคาสินค้าได้จึงต้องยุติ เรื่องดังกล่าวบริษัทยังไม่ได้ปิดรับพันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมธุรกิจ โดยเชื่อว่าจะมีพันธมิตรอีกอย่างน้อย 2-3 รายที่พร้อมจะหารือกับบริษัทและคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องความร่วมมือเกี่ยวกับรูปแบบการสั่งสินค้าในเบื้องต้นก่อนจะมีการหารือถึงแผนการร่วมลงทุนในอนาคต

" เรื่องพันธมิตรแม้ว่าจะไม่สามารถสรุปเรื่องพันธมิตรจากญี่ปุ่นได้ แต่เราก็เปิดรับที่จะหารือกับพันธมิตรรายอื่น โดยในเบื้องต้นจะหารือในเรื่องการส่งคำสั่งซื้อขายสินค้าก่อนและในอนาคตอาจจะมีการหารือถึงการเข้ามาร่วมทำธุรกิจต่อไป " นายจุมพลกล่าว

สำหรับความพร้อมในเรื่องแผนการลงทุนในปีหน้า บริษัทคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 40-50 ล้านบาทในการปรับปรุงเพิ่มกำลังการผลิตและอยู่ระหว่างการศึกษาเกี่ยวกับโครงการที่จะนำเข้าเครื่องจักรใหม่เพื่อเสริมกำลังการผลิตเกี่ยวกับชิ้นส่วนรถยนตให้มากขึ้น โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องดังกล่าวภายในสิ้นปีนี้ โดยหากเป็นไปตามขั้นตอนคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มเป็น 100 ล้านบาท โดยเงินดังกล่าวจะมาจากเงินสดหมุนเวียนของบริษัทและส่วนหนึ่งจะเป็นการกู้จากสถาบันการเงิน

นายจุมพล กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าปีที่แล้วซึ่งจ่ายปันผลในระดับ 0.10 บาทต่อหุ้น ตามนโยบายของบริษัทฯ ที่จ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ในส่วนของเรื่องความเคลื่อนไหวของหุ้นของบริษัทที่ค่อนข้างนิ่งเชื่อว่าเป็นไปตามภาวะตลาดที่ค่อนข้างซึมในช่วงที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าหลังการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทที่ค่อนข้างดีเชื่อว่าจะเป็นแรงดึงดูดให้นักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัท

ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น TKT วานนี้ (21 พ.ย.) ราคาปิดที่ 1.42 บาท