Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 พฤศจิกายน 2550
SECCนำเข้ารถเย้ยศก.ซบแพงสุดในไทยคันละ165ล.             
 


   
search resources

Automotive
เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส, บมจ.




ยักษ์ใหญ่เกรย์มาร์เก็ตกลุ่มเอส.อี.ซี. หรือ SECC ไม่หวั่นสภาวะเศรษฐกิจซบ ทุ่มกว่า 500 ล้านบาท เดินหน้ากระตุ้นต่อมเศรษฐีไทย ขนรถซูเปอร์คาร์ระดับแนวหน้าของโลกหลากรุ่น ราคาไม่ต่ำกว่า 24 ล้านบาท มาขายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2007 โดยพระเอกของงาน "บูกัตติ เวย์รอน" แพงสุดถึง 165 ล้านบาทต่อคัน มั่นใจฟันยอดขายในงานกว่า 600 ล้านบาท

นายไพบูลย์ สุขสุธรรมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ SECC ผู้นำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปจากต่างประเทศ หรือเกรย์มาร์เก็ต เปิดเผยว่า ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2007 ซึ่งจะมีระหว่างวันที่ 29 พ.ย. - 10 ธ.ค.นี้ ที่เมืองทองธานี บริษัทฯ ได้ใช้งบประมาณกว่า 15 ล้านบาท ตกแต่งบูธของกลุ่มเอส.อี.ซี. เพื่อจัดแสดงรถยนต์นำเข้ารุ่นใหม่และที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน

"รวมมูลค่าของบูธและรถยนต์ที่นำมาจัดแสดงครั้งนี้ คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาท และปีนี้ยังมีความพิเศษกว่าทุกครั้ง โดยได้มีมุมรถนำเข้าที่เป็นรถซูเปอร์คาร์ระดับแนวหน้าของโลกมาจัดแสดงโดยเฉพาะ และไฮไลท์เป็นรถจากอิตาลี่ บูกัตติ เวย์รอน ราคา 165 ล้านบาท เพื่อเปิดให้ผู้ที่ชื่นชอบความเร็ว ได้จับจองเป็นเจ้าของภายในงาน ซึ่งถือว่าเป็นรถใหม่ที่แพงที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพราะรถยี่ห้อมายบัคที่เคยมีนำมาขายในไทย มีราคาเพียงกว่า 100 ล้านบาทนิดๆ เท่านั้น "

นอกจากบูกัตติยังนำรถซูเปอร์คาร์อื่นๆ ได้แก่ แอสตัน มาร์ติน ดีบี9 โวเลนต์ ราคา 26 ล้านบาท เบนท์เลย์ ฟลายอิ่ง สเปอร์ ราคา 24 ล้านบาท และเฟอร์รารี่430 ราคา 24 ล้านบาท และนอกจากนี้ยังมีเอ็กเซกคลูซีฟคาร์ แอลเอส460 และแอลเอส600ไฮบริด รวมถึงเก๋งซีดานหรู ไครสเลอร์ 300ซี จำนวน 4 รุ่น และรถสปอร์ตจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ อาทิ ซีแอลเค, เอสแอลเค และสมาร์ท บราบัส ฟอร์4 มาเปิดให้จับจองเป็นเจ้าของ

นายไพบูลย์กล่าวว่า พิเศษมากกว่านั้นภายในงานกลุ่มเอส.อี.ซี. ยังได้เปิด S.E.C.OK ซึ่งเป็นรถยนต์นำเข้าใช้แล้ว มาเปิดตัวเป็นครั้งแรกด้วย โดยมีทั้งรถเดโม หรือใช้งานของผู้บริหาร, รถทดสอบ และรถยูสด์คาร์จำนวนกว่า 30 ทั้งหมดล้วนผ่านการตรวจสอบคุณภาพอย่างดีมาให้ลูกค้าเลือกซื้อ

"โดยลูกค้าที่ซื้อและจองรถใหม่ภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2007 กลุ่มเอส.อี.ซี.ขอมอบแคมเปญพิเศษกับอัตราดอกเบี้ย 2.60% ผ่อนนาน 48 เดือน หรือดอกเบี้ย 2.75% ผ่อนนาน 60 เดือน พร้อมประกันชั้นหนึ่ง 1 นาน 1 ปี คาดยอดขายภายในงานไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท"

สำหรับผลประกอบของบริษัทฯ ในช่วง 3 ไตรมาสแรกปีนี้ นายไพบูลย์กล่าวว่ามีรายได้กว่า 1,900 ล้านบาท กำไรสุทธิประมาณ 40 ล้านบาท แม้สภาวะเศรษฐกิจและตลาดรถโดยรวมจะชะลอตัวลง ทำให้ยอดขายรถใหม่ไม่เติบโตมาก หรือใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ทำให้จากเดิมเมื่อต้นปีนี้บริษัทฯ จะมีผลประกอบการเติบโตประมาณ 10% ถึงสิ้นปีอาจจะไม่ถึงก็ได้

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรายได้จากการบริการหลังการขายเพิ่มขึ้น โดยตลอดช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา มียอดการเข้าใช้บริการหลังการขายเพิ่มขึ้นประมาณ 24% และคาดว่าถึงสิ้นปีจะมีรายได้ในส่วนของบริการหลังการขายประมาณ 150-160 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่ทำได้กว่า 110 ล้านบาท

นายไพบูลย์กล่าวว่า ในส่วนแผนการรุกธุรกิจของบริษัทฯ ต่อไปนี้จะเริ่มเน้นการขายรถยนต์ใช้แล้วมากขึ้น แม้ที่ผ่านมาจะมีการเปิดตัวไปบ้างแล้ว เพราะการทำธุรกิจรถมือสองจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญ ในการตรวจสอบสภาพรถเป็นอย่างมาก เพื่อให้ลูกค้าที่ซื้อรถต่อได้รับสินค้าที่ดีที่สุด

ขณะที่ธุรกิจติดตั้งก๊าซธรรมชาติ หรือเอ็นจีวี ในปี2551 ก็เริ่มอย่างจริงจังเช่นกัน จากที่ได้แต่งตั้งตัวแทนแล้ว 2 แห่ง ที่จ.อุดรธานีและชานเมืองรอบกรุงเทพฯ แต่บริษัทฯ ไม่ให้รุกตลาดมากนัก เพราะต้องการเน้นคุณภาพเป็นหลัก แต่จากสถานการณ์ราคาน้ำมันปัจจุบันที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จึงน่าจะทำให้ลูกค้าหันมาให้ความสนใจมากขึ้น บริษัทฯ จึงมีแผนจะแต่งตั้งศูนย์ติดตั้งเอ็นจีวีเพิ่มอีก 4-5 แห่งในปีหน้า

ส่วนสถานการณ์ตลาดรถยนต์โดยรวม และตลาดรถยนต์นำเข้าปีหน้า คาดว่าน่าจะมีการปรับตัวดีขึ้นจากปีนี้ โดยเฉพาะหลังจากมีการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2551 บริษัทฯ เตรียมแผนจัดงานแสดงรถยนต์ของกลุ่มเอส.อี.ซี. ซึ่งครั้งนี้จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้พิเศษไปกว่าทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนาด คอนเซ็ปต์ และสถานที่จัดงาน ทั้งนี้จะมีการแถลงข่าวกันอีกครั้งในช่วงต้นปีหน้า   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us