Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน20 พฤศจิกายน 2550
นิสสันลั่นลุยอีโคคาร์-อี20             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท สยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด

   
search resources

สยามนิสสัน ออโต้โมบิล, บจก.
Automotive




นิสสัน ประกาศเดินหน้าลุย อี20 เร่งปรับเครื่องยนต์ทั้ง ทีด้าและ เทียน่า หวังอัตราภาษีพิเศษส่งผลราคาลดลงชนคู่แข่งที่เปิดตัวเรียกยอดขายไปล่วงหน้า ส่วน “อีโคคาร์”ทำแน่คาดเดือนธันวาคมนี้สรุปได้ ขณะที่ ฟรอนเทียร์ นาวารา ส่งออกฉลุยตั้งเป้าอีก 3 ปี ยอดทะลุ 4.5 หมื่นคัน ด้านตลาดในประเทศเปิดตัวอีกสองรุ่น XE กับรุ่นพิเศษ “Black Star Limited” งานนี้มีเพียง 250 คันเท่านั้น

นายเทียรี่ เวียดิว กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด เปิดเผยว่า หลังรัฐบาลประกาศลดภาษีสรรพษามิต 5% ให้กับรถยนต์ที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่มีส่วนผสมเอทานอล 20%หรือ อี20 โดยจะมีผลตั้งแต่ 1 มกราคม ปีหน้า ในส่วนของบริษัทฯขณะนี้กำลังปรับปรุงเครื่องยนต์เก๋งทั้ง ทีด้า และเทียน่า ให้รองรับน้ำมันดังกล่าวเพื่อรับสิทธิพิเศษด้านภาษี ซึ่งในงาน”มอเตอร์เอ็กซ์โปร์”ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

“จริงๆการทำอี20ไม่ยากและเมื่อรัฐบาลมีนโยบายชัดเจน เราจึงตัดสินใจเดินหน้าเพื่อประโยชน์สุดท้ายจะตกไปกับผู้บริโภค ซึ่งการลดภาษีสรรพสามิตลง 5% จะส่งผลให้ราคานิสสัน ทีด้า และเทียน่า ลดลงอย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นเท่าไหร่นั้นคงต้องสรุปกันอีกครั้งเพราะโครงสร้างการคิดภาษีค่อนข้างซับซ้อน”

ขณะที่โครงการรถนั่งประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ “อีโคคาร์” ตอนนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างขั้นตอนพิจารณาเงื่อนไขที่จะยื่นให้กับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่กำหนดสุดท้ายภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ จึงไม่สามารถให้รายละเอียดได้ แต่คาดว่าภายในเดือนธันวาคมจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน

“เราตัดสินใจเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์แน่นอน ส่วนเงื่อนไขต่างๆนั้น คงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ส่วนเรื่องการผลิตให้ได้จำนวน 1 แสนคันในปีที่ 5 เราคิดว่าไม่มีปัญหา แต่ถ้าถามว่าตอนนี้กำลังการผลิต และโครงสร้างพื้นฐานเดิมที่มีอยู่เพียงพอหรือไม่ คงต้องบอกว่ายังไม่เพียงพอ แต่ถ้าเริ่มลงทุนสร้างโรงงานใหม่ คาดว่าภายในสองปีจะมีรถขายทันที ทั้งนี้โรงงงานประกอบรถยนต์นิสสัน ที่บางนา กม.21 ปัจจุบันมีกำลังผลิตรถทุกรุ่น 1.4 แสนคัน แล้วจะเพิ่มถึง 1.8 แสนคันในปี พ.ศ. 2553 เพื่อรองรับการตลาดในประเทศและส่งออกนิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา เท่านั้น”

นายเวียดิว กล่าวว่า ในส่วนตลาดส่งออก ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางการผลิตและประกอบรถยนต์นิสสันที่ใหญ่สุดในภูมิภาคอาเซียนให้แก่นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ขณะที่แผนส่งออก ฟรอนเทียร์ นาวารา ภายในปีงบประมาณ 2550 มีสูงกว่า 20,000 คัน และเมื่อถึงปี 2553 จะเพิ่มเป็น 45,000 คัน/ปี

“เราส่งออกฟรอนเทียร์ นาวารา ไปมากกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยตลาดหลักอยู่ที่ประเทศ บราซิล ตะวันออกกลาง และกลุ่มอาเซียน อย่าง ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย

สำหรับตลาดในประเทศตั้งแต่การเปิดตัวในเดือนมกราคม ได้การตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ถึงปัจจุบันมียอดขายในประเทศกว่า 30,000 คัน ล่าสุดเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคบริษัทจึงเปิดตัวสองรุ่นใหม่คือรุ่นประหยัด XE กับรุ่นพิเศษ “Black Star Limited”

สำหรับรุ่นประหยัด XE ตัวถัง คิงส์แค็บ มาพร้อมเครื่องยนต์ 2,500 ซีซี รุ่นใหม่ แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC เทอร์โบแปรผันควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์คูลเลอร์ คอมมอนเรล ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 294 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด พร้อมล้อเหล็กขนาด 15 นิ้ว และยางขนาด 195/65R15 ในราคา 539,000 ขณะที่รุ่นพิเศษ “Black Star Limited” ตัวถังดับเบิ้ลแค็บ พร้อมหลังคากระบะท้าย สัญญานเตือนกะระยะถอยหลังที่กันชนท้าย มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ และ สี่ล้อ ราคา 741,000 - 884,000 บาท ซึ่งผลิตเพียง 250 คัน เท่านั้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us