Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน8 พฤษภาคม 2546
เก้าอี้ซีอีโอทศท.ร้อนผลงานไม่คืบ             
 

   
related stories

โทร 5 แสนทศท. ฉาวฉวยจังหวะเปลี่ยนบอร์ด
ฉีกหน้ากาก 3 ก๊ก ไขกลโกงล็อกสเปกงานประมูล

   
www resources

โฮมเพจ องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ทศท คอร์ปอเรชั่น
สิทธิชัย ส่งพิริยะกิจ




ชำแหละผลงาน 'สิทธิชัย ส่งพิริยะกิจ' บนเก้าอี้กรรมการผู้จัดการใหญ่ทศท.ผ่านไป 7 เดือนผลงานไม่เข้าตา ไม่กล้าตัดสินใจ ลู่ตามลูกน้อง โดยเฉพาะโครงการโทรศัพท์ 5 แสนเลขหมาย ผ่านบอร์ดแล้วแต่ไม่ยอมขายซองประกวดราคา เปิดช่องลูกน้องรวมหัวพ่อค้าซ่องสุมบิดเบือนเจตนารมณ์บอร์ด หวังเปลี่ยนวิธีประมูล หาโอกาสรวยรายวัน

นายสิทธิชัย ส่งพิริยะกิจ ผ่านกระบวนการสรรหา ขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2545 โดยที่มีเวลาทำงานถึงเดือนพ.ย.2546 ซึ่งครบอายุ 60 ปีบริบูรณ์ตามสัญญาจ้าง

แต่ปรากฏว่าผ่านไป 7 เดือนกับความว่างเปล่า ผลงานเป็นรูปธรรมชัดเจนยังไม่เห็นโดยเฉพาะธุรกิจหลักของทศท.

ทศท.มีรายได้หลักมาจากธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐาน ในช่วงที่ยังไม่มีคณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ทศท.มีสิทธิที่จะขยายเลขหมายโทรศัพท์ได้ตามความต้องการ ซึ่งปัจจัยบวกสำหรับทศท.คือการสร้างส่วนแบ่งตลาดให้มากขึ้นในระยะยาว และเพื่อสนองตอบความต้องการของตลาดในระยะสั้น

รวมทั้งยังใช้เป็นเครือข่ายยุทธศาสตร์หลักในการให้บริการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูง ที่เป็นอนาคตของธุรกิจโทรคมนาคมในยุคหน้า

โครงการ 5 แสนเลขหมาย ถือเป็นโครงการยุทธศาสตร์ ในการทำธุรกิจของทศท. เพราะงบประมาณในปี 2547 ของทศท.ประมาณการว่าจะมีรายได้จากการดำเนินการของกลุ่มธุรกิจต่างๆ รวม 39,315 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากโทรศัพท์พื้นฐาน 25,891 ล้านบาท มากเป็นอันดับหนึ่ง

รองลงมาเป็นรายได้จากโทรศัพท์สาธารณะ 6,796 ล้านบาท บริการสื่อสารข้อมูล 3,795 ล้านบาท โครงข่ายโทรคมนาคม 1,437 ล้านบาท โทรคมนาคมระหว่างประเทศ 1,319 ล้านบาท และโทรศัพท์ไร้สาย 77 ล้านบาท

ข้อมูลของทศท.สิ้นสุด ณ เดือนก.ย.2545 มีจำนวนลูกค้ารอบริการ (Waiting List) อยู่ถึง 710,220 ราย

แต่ในขณะเดียวกับที่มีความต้องการจำนวนมาก ทศท.กลับดำเนินโครงการขยายโทรศัพท์ 5 แสนเลขหมาย ด้วยความอืดอาดยืดยาด ทั้งๆที่บอร์ดศุภชัย พิศิษฐวานิช อนุมัติหลักการตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. 2545 และทำประชาพิจารณ์ข้อกำหนดหรือทีโออาร์เสร็จตั้งแต่เดือน ส.ค.2545

แต่โครงการ 5 แสนเลขหมายมาถูกขัดจังหวะเมื่อเปลี่ยนบอร์ดใหม่ มีคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) มาเป็นประธานบอร์ด

ในการประชุมบอร์ดนัดพิเศษเมื่อวันที่ 30 ม.ค.2546 ได้มีมติให้ความเห็นชอบหลักการนี้แล้ว เพียงแต่ให้หารือกับนายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม (ที่ปรึกษาประธานบอร์ด) ในรายละเอียดอีกครั้งก่อนนำเสนอในรูปโครงการกับคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)

เพียงแค่คำที่เขียนว่าให้หารือรายละเอียด ก็เป็นการเปิดช่องให้ทศท.ยำโครงการ 5 แสนเลขหมายใหม่ โดยที่นายสิทธิชัยสั่งการให้นายปรีชา รักษาชาติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ทศท.ทำรายละเอียดแนวทางต่างๆกลับมาเสนอบอร์ดใหม่

"บอร์ดคุณหญิงทิพาวดี อนุมัติตามหลักการเดิม เพียงแต่ให้นายสรรเสริญดูรายละเอียดในรูปแบบโครงการก่อนนำเสนอสศช. โดยไม่ได้สั่งให้แตะต้องวิธีการประมูลเลย แต่ช่องเพียงน้อยนิด ก็กลายเป็นโอกาสที่เปิดกว้างให้กลุ่มเสือหิวทันที"

เกรงใจลูกน้องทำงานใหญ่เสีย

สไตล์การทำงานของสิทธิชัย ออกมาในรูปประณีประนอม ไปทางดื้อ เชื่อมั่นตัวเองสูง และมั่นใจในความโปร่งใส ไม่ทำร้ายองค์กร และมองประโยชน์ทศท.สูงสุด แต่การที่ไม่มีสีชมพูในสายเลือด ไม่ได้จบวิศวกรรมศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำให้กลายเป็นไม่สามารถเทียบรุ่นพี่น้องในทศท.ได้ และทำให้กลายมาเป็นจุดอ่อนในการบริหารงานองค์กรที่มีพนักงานกว่า 2 หมื่นคน

"จุดอ่อนดังกล่าว ทำให้ผู้บริหารระดับรองใช้ความมีสีของตัวเอง รวมกลุ่มทำงานหลายๆโครงการ มีทั้งที่กำลังหักมติบอร์ดเดิม อย่างวิธีการประมูลโครงการ 5 แสนเลขหมาย มีทั้งกำลังจ่อคิวอย่างโครงการบิลลิ่ง และมีทั้งที่ถูกบอร์ดทศท.รู้ทันสั่งเบรก อย่างการล็อกสเปกให้ซิสโก้ในงานของกรมการปกครอง ทุกโครงการแสดงให้เห็นถึงความไม่เด็ดขาด และไม่กล้าตัดสินใจของนายสิทธิชัยทั้งสิ้น"

นายสิทธิชัยเคยบ่นกับคนใกล้ชิดว่า งานที่ทำทุกวันนี้ คือการตามล้างตามเช็ดงานที่อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่คนเก่า นายสุธรรม มลิลา ทำไว้ทั้งสิ้น แต่เขาอาจลืมไปว่าหากกล้าตัดสินใจในเรื่องที่ถูกต้อง อาจมีผลงานให้เห็นบ้าง

โครงการ 5 แสนเลขหมาย กว่าที่บอร์ดศุภชัยจะอนุมัติหลักการวิธีการประมูล ต้องขับเคี่ยวกับนายสุธรรมที่ยืมมือลูกน้องแก้ไขสเปก ชนิดตามล้างตามเช็ด ผ่านการกลั่นกรองอย่างดีจนได้รายละเอียด กล่าวคือจะแบ่งเนื้องานในการจัดหาออกเป็น 3 พื้นที่ และให้ผู้เข้าประกวดราคาในแต่ละพื้นที่จะต้องรับผิดชอบงานทุกงานในแต่ละโซนแบบเบ็ดเสร็จ ได้แก่งานอุปกรณ์ชุมสาย งานอุปกรณ์สื่อสัญญาณ และงานระบบข่ายสาย

รวมทั้งกำหนดคุณสมบัติผู้เข้าประกวดราคาประการสำคัญว่า ผู้เข้าประกวดราคาจะต้องมีผลงานด้านการก่อสร้างท่อร้อยสาย และข่ายสายโทรศัพท์ท้องถิ่นของส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ในวงเงินไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาทต่อ 1 สัญญา ภายในเวลา 5 ปี และจะต้องเป็นผู้ผลิต/ผู้แทนจำหน่ายอุปกรณ์ชุมสายและอุปกรณ์สื่อสัญญาณ

โดยงบประมาณในการจัดหาแบ่งเป็นงานก่อสร้าง/ปรับปรุงระบบข่ายสายท้องถิ่น 1,900 ล้านบาท อุปกรณ์ระบบชุมสาย 2,800 ล้านบาทและอุปกรณ์ระบบสื่อสัญญาณ 2,500 ล้านบาท

หากนายสิทธิชัย เป็นคนกล้าตัดสินใจไม่เห็นกับพวกพ้องผู้บริหารระดับรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ทั้งหลาย ก็สามารถเดินหน้าโครงการ ด้วยการขายซองประกวดราคา ตามสเปกเดิมที่บอร์ดอนุมัติไว้แล้วได้ทันที

แต่เขากลับเลือกที่จะเอาใจน้องๆ ด้วยการเปิดช่องให้โอกาสทำมาหากิน เพราะแม้แต่เขาเองก็ยังมีแนวคิดที่แยกการประมูลอุปกรณ์ชุมสายกับอุปกรณ์สื่อสัญญาณ มาประมูลรวมที่ส่วนกลาง ส่วนงานข่ายสายแยกเป็น 3 โซนแต่ให้มาประมูลที่ส่วนกลางเช่นกัน

เมื่อถูกถามถึงเหตุผลว่าทำไม ไม่เลือกแบบเดิมที่มีเจ้าภาพในแต่ละโซนสามารถไล่เบี้ยได้หากงานล่าช้าและทำให้ได้บริษัทขนาดใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือ เขากลับตอบเลี่ยงว่าไม่มีประวัติศาสตร์ทศท.ที่เคยประมูลงานแบบเบ็ดเสร็จทั้งชุมสาย ระบบสื่อสัญญาณและงานวางข่ายสาย

แต่เขาอาจลืมไปว่า ตามแผนฯ 6 ของทศท.ซีเมนส์ ,เอ็นอีซี และมัตซุย เคยชนะประมูลงานแบบเบ็ดเสร็จทั้งชุมสาย สื่อสัญญาณและข่ายสาย จำนวน 1 แสนเลขหมาย

นายสิทธิชัยอ้างว่า การที่ต้องทำหลายแนวทางให้พิจารณา ถือเป็นเรื่องธรรมดาของการเสนองานให้ผู้ใหญ่ ซึ่งขึ้นอยู่กับบอร์ดว่าจะตัดสินใจเลือกแนวทางไหน

ไม่เพียงโครงการ 5 แสนเลขหมายที่สิทธิชัยไม่กล้าตัดสินใจ ทำให้โครงการล่าช้า เปิดช่องให้ผู้บริหารระดับรองฉวยโอกาสหาประโยชน์

โครงการระบบบิลลิ่ง เป็นอีกโครงการหนึ่งที่กำลังถูกถามหาความโปร่งใส เมื่อพิสูจน์และมีหลักฐานชัดเจนแล้วว่าบริษัทที่ชนะการประมูลอย่างเทเลเมติคส์ มีความสัมพันธ์ถือหุ้นโยงโยงกับบริษัท U.C.E.C.ที่เป็นที่ปรึกษาโครงการ ทั้งเอื้อประโยชน์กีดกันคู่แข่ง เข้ากม.ฮั้วทุกประการ

แต่นายสิทธิชัยก็ยังไม่ทำอะไรที่เด็ดขาดให้เห็นผลชัดเจน เพียงเพราะเชื่อใจนายชัยเชวง กฤตยาคม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่รับผิดชอบการประมูลโครงการนี้ ทำเอาเกิดเสียงลือในวงการว่าข้อมูลที่เปิดเผยต่างๆตามหน้าหนังสือพิมพ์ ที่พิสูจน์ให้เห็นถึงการถือหุ้นในลักษณะ Conflict of Interest เขาเห็นเป็นเรื่องโจ๊กน่าตลก ไม่กลัวและพร้อมพรีเซ็นต์ช่วยบริษัทในบอร์ดทศท.

"โครงการนี้เขาเถียงข้างๆคูๆว่าไม่รู้ว่าถือหุ้นโยงใยกัน ซึ่งหากอยากตรวจสอบ ลองไปสอบดูด้วยว่าผลงานเทเลเมติคส์ที่เอาผลงานของ ACCENTURE มาใช้ถูกต้องแค่ไหน และบริษัทอเมริกันรายนี้ เขาอ่อนไหวมากในเรื่องความโปร่งใส หากรู้ว่าเทเลเมติคส์มีนอกมีในกันแล้ว เรื่องนี้น่าสนุกแน่"

แหล่งข่าวย้ำว่าโครงการบิลลิ่งเป็นอีกโครงการหนึ่งที่ต้องล่าช้า เพราะขบวนการที่ไม่โปร่งใสทั้งๆที่ระบบบิลลิ่งเป็นหัวใจในการทำธุรกิจทั้งปวงของทศท.โดยเฉพาะการคิดเงินค่าใช้ การจัดแพกเกจโปรโมชันต่างๆ
รวมทั้งการที่ปล่อยให้เอไอทีดันซิสโก้ยึดครองทศท.ทำขนาดล็อกสเปกให้กรมการปกครอง แล้วอ้างว่าเป็นความต้องการของกรมการปกครอง ถึงขนาดที่สิทธิชัยเกือบอนุมัติไปแล้ว ทีดียังมีคนหวังดีช่วยส่งสัญญาณเตือนจึงรอดคุกพ้นข้อหาผิดกม.ฮั้วแบบหวุดหวิด

นายสิทธิชัย ยังถือว่าล้มเหลวในการบริหารงานในลักษณะซูเปอร์ทีม จากที่เคยแสดงวิสัยทัศน์ในตอนสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่ เพราะปรากฏว่ารองกรรมการผู้จัดการใหญ่ทั้ง 17 คนกำลังหลงเริงร่ากับการแต่งตั้ง จนไม่ได้นึกถึงอนาคตองค์กร

ขาดความสามัคคีต่างคนต่างแสวงหาประโยชน์ ในโครงการที่มีส่วนร่วม

"การบริหารงานแบบประณีประนอมลู่ตามใจลูกน้อง ทำให้ตอนนี้ กระบวนการจัดการโครงการประสานประโยชน์ในทศท.เปลี่ยนไป ไม่ต้องสนใจอำนาจการเมือง แต่พ่อค้าหันไปเอาใจระดับรองระดับผู้ช่วยให้ชงโครงการให้เรียบร้อยสำเร็จรูป แล้วเสนอขึ้นไปตามขั้นตอน เมื่อถึงระดับบนก็สั่งการอนุมัติ โครงการ 5 แสนเลขหมายกำลังเข้าสู่วังวนนี้ ขึ้นอยู่กับสิทธิชัยว่าจะทำงานอย่างไร ให้ผ่านไปวันๆ รักษาสภาพ ความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฏ หรือจะใช้เป็นด่านทดสอบความโปร่งใส พิสูจน์ฝีมือและผลงานครั้งสำคัญ" แหล่งข่าว กล่าว

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us