Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน15 พฤศจิกายน 2550
ธปท.โยนคลังปิดดีลสินเอเซีย             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธงชัย อานันโทไทย




ธปท.โยนคลังพิจารณาสัดส่วนต่างชาติถือหุ้นแบงก์สินเอเซียเกิน 25% เข้าข่ายแก้ไขฐานะและการดำเนินงานหรือไม่ อย่างน้อยในฐานะผู้ถือหุ้นคลังกับแบงก์กรุงเทพต้องหารือ ขณะที่ผู้บริหารสินเอเซียให้ผู้ถือหุ้นเคลียร์กันเอง

กรณีที่คณะกรรมการกฤษฏีกาตีความให้การถือหุ้นในธนาคารพาณิชย์ของต่างชาติเกิน 25% ได้เฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นต้องแก้ไขฐานะหรือการดำเนินการของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งบางฝ่ายเกรงว่าจะส่งผลต่อการเจรจาซื้อหุ้นของนักลงทุนต่างชาติกับธนาคารกรุงเทพที่ถือหุ้นอยู่ในธนาคารสินเอเซีย (ACL) กว่า 19% และอาจมีผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด นั้น วานนี้ (14 พ..ย.) นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การขออนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นเกินกว่าสัดส่วนที่กำหนดได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาอนุมัติจากกระทรวงการคลัง ส่วน ธปท.เป็นเพียงผู้ให้คำแนะนำการพิจารณาเบื้องต้น ในขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือการแสดงฐานะและการดำเนินงานจากธนาคารสินเอเซีย ดังนั้นยังตอบไม่ได้ว่าธนาคารสินเอเซียเข้าข่ายที่ต้องแก้ไขฐานะและการดำเนินงานหรือไม่

“หากแบงก์กรุงเทพจะขายหุ้นที่ถืออยู่กว่า 19%ให้แก่ต่างชาติก็สามารถทำได้ แต่ตามกฎเกณฑ์แล้วหากบุคคลใดบุคคลหนึ่งถือหุ้นของแบงก์พาณิชย์เกิน 5% รวมทั้งกรณีที่นักลงทุนต่างชาติรายหนึ่งถือหุ้นเกิน 5% หรือต่างชาติทุกรายรวมกันเกิน 25% จำเป็นต้องขออนุมัติจากคลังก่อน ซึ่งหนังสือดังกล่าวจะต้องมีการหารือร่วมกันระหว่างผู้ถือหุ้น กระทรวงการคลังและแบงก์กรุงเทพ รวมทั้งสินเอเซียมาก่อนแล้ว อีกทั้งหนังสือนี้ต้องแสดงให้เห็นว่ามีความจำเป็นต้องแก้ไขฐานะและการดำเนินงานเท่านั้น”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในปัจจุบันธนาคารกรุงเทพได้ถือหุ้นในธนาคารสินเอเซียในสัดส่วน 19.26% ซึ่งตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน(มาสเตอร์แพลน) ฉบับที่ 1 กำหนดให้สถาบันการเงินมีเพียงสถานะเดียว ซึ่งธปท.ได้ผ่อนผันให้ธนาคารกรุงเทพต้องขายหุ้นดังกล่าวออกไปภายในสิ้นปีนี้ และขณะนี้ทางธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า (ไอซีบีซี) กำลังอยู่ระหว่างเจรจาซื้อหุ้นดังกล่าวจากธนาคารกรุงเทพอยู่ ซึ่งนักลงทุนก็ต้องรักษาสิทธิในการออกเสียงและมีอำนาจการบริหาร จึงจำเป็นที่ต้องรับซื้อหุ้นทั้งหมดจากธนาคารกรุงเทพ แต่ติดที่ปัจจุบันธนาคารสินเอเชียมีต่างชาติถือหุ้นอยู่แล้ว 22% ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติเกิน 25%

บิ๊กACLให้ผู้ถือหุ้นชี้ขาด

นายธงชัย อานันโทไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารสินเอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือACL กล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้ถือหุ้น ไม่สามารถให้คำตอบเกี่ยวการตีความของกฤษฎีกาได้ แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันธนาคารมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (บีไอเอส) ประมาณ 12,000 ล้านบาท หรือ 35 % จากเกณฑ์ของธปท.กำหนดบีไอเอสไว้ที่ 8.5 % ขณะเดียวกันปัจจุบันธนาคารมีนักลงทุนต่างชาติถือหุ้นในสัดส่วน 22 % ของทุนจดทะเบียน

สำหรับผลประกอบการของธนาคารในปีนี้น่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยในส่วนของกำไรน่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 755 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายสินเชื่อทั้งปีอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 40% เนื่องจากตัวเลขการขยายตัวของสินเชื่อในช่วง 10 เดือนใกล้เคียงกับเป้าหมายแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้ยอดสินเชื่อคงค้างสิ้นปีนี้อยู่ที่ 36,000 ล้านบาท และจะทำให้สินทรัพย์รวมของธนาคารเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 60,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อของธนาคารจะมาจากสาขาต่างจังหวัดประมาณ 20% และในปีหน้าคาดว่าจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 30%

นอกจากนี้ในปีหน้าธนาคารตั้งเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อไว้ที่ 10,000 ล้านบาท และมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 10 สาขา ทำให้ธนาคารจะมีสาขารวมทั้งหมด 25 สาขา โดยจะเป็นการเปิดสาขาในรูปแบบบิสสิเนสเซ็นเตอร์ในต่างจังหวัด 5 สาขา และในกรุงเทพและปริมณฑลอีก 5 สาขา นอกจากนี้ธนาคารจะขยายแหล่งที่มาของรายได้ในส่วนของค่าธรรมเนียมจากการให้บริการธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตรา จากเดิมรายได้จะมาจากส่วนที่เป็นดอกเบี้ยเท่านั้น

"กลยุทธ์เรายังจะเป็นรูปแบบของสาขาที่เป็นบิสสิเนสเซ็นเตอร์ คือการตั้งเป้าให้สาขามียอดสินเชื่อ 1,000 ล้านบาทต่อสาขาให้ได้ภายใน 1 ปี ซึ่งล่าสุดสาขาโคราชสามารถทำได้ภายใน 10 เดือน และสาขาที่เปิดไปก่อนหน้านี้เกินกว่าครึ่งสามารถบรรลุเป้าหมายแล้ว โดยในช่วงที่เหลือคงจะเห็นสาขาที่เกินกว่า 1,000 ล้านบาทอีกประมาณ 3-4 แห่ง ส่วนเอ็นพีแอลปัจจุบันอยู่ที่ 3%"   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us