Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 พฤษภาคม 2546
เมอร์ริล ลินซ์ จัดทัพธุรกิจเจ้าพ่อน้ำเมา“เจริญ”ดันเข้าตลาดหุ้นให้ทันปีนี้             
 


   
search resources

เมอร์ริลลินช์ภัทร
เจริญ สิริวัฒนภักดี




เมอร์ริลฯ เร่งจัดกลุ่มธุรกิจน้ำเมาของ "เจริญ สิริวัฒนภักดี"แจงอาจใช้เวลานาน เพราะกลุ่มธุรกิจหลายหลาย ทั้งมีความซับซ้อนด้านกฏหมายจากบริษัทลูกต่างประเทศบางแห่ง ขีดเส้นเร็วสุดภายในปีนี้ ด้านรัฐวิสาหกิจแปรรูปไม่ทันปีนี้ เจอปัจจัยภายในภายนอกรุมเร้า กระทบตลาดทุนขาดสินค้าดึงดูดความสนใจนักลงทุน แต่ผลสำรวจนักลงทุนต่างชาติช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ยังให้น้ำหนักลงทุนหุ้นไทย 3.4 เท่า มากกว่าดัชนี MSCI ที่ให้น้ำหนักหุ้นไทย 1.7 เท่า

นายสุวิทย์ มาไพศาลสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์เมอร์ริล ลินช์ ภัทร จำกัด เปิดเผยถึง แผนการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ของกลุ่มบริษัทนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ว่าอาจต้องใช้เวลาระยะสักระยะหนึ่งในการดำเนินการจัดกลุ่มธุรกิจ เนื่องจากกลุ่มธุรกิจของนายเจริญ มีขนาดใหญ่ ประกอบธุรกิจหลากหลาย รวมทั้งยังมีธุรกิจในต่างประเทศด้วย ซึ่งทำให้การจัดกลุ่มธุรกิจต้องพิจารณาถึงข้อกฏหมายต่างประเทศด้วย จึงทำให้เกิดความยุ่งยากและซับซ้อนในการจัดการ แต่คาดว่าการจัดกลุ่มธุรกิจทั้งหมดจะแล้วเสร็จประมาณปลายปีนี้

ดังนั้น การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กลุ่มธุรกิจของนายเจริญ จึงยังไม่เกิดขึ้นภายในเร็ววันนี้ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการจัดการ และเป้าหมายของเงินทุนที่ต้องการระดม เพื่อนำมาขยายกำลังการผลิตเหล้าและเบียร์ให้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการขยายธุรกิจอื่นๆด้วย ดังนั้น อย่างเร็วสุดในการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อาจจะเป็นปลายปีนี้

สำหรับกลุ่มธุรกิจของนายเจริญ ในปัจจุบันมีทั้งหมดห้ากลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มสุรา ประกอบด้วยกลุ่มบริษัทแสงโสม บริษัทบางยี่ขัน บจม.สุรามหาราษฎร์ กลุ่มสุราทิพย์ กลุ่มที่สอง กลุ่มเบียร์ ประกอบด้วยบริษัทเบียร์ไทย 1991 บริษัทคาร์ลเบอร์กส กลุ่มที่สาม กลุ่มพาณิชย์ เช่น บริษัท เบอรี่ยุคเกอร์ จำกัด(มหาชน) ซึ่งได้เข้าซื้อหุ้นจากกลุ่มเฟิร์สแปซิฟิก ฮ่องกง ในนามบริษัทนครชื่น จำกัด บริษัทเครื่องแก้วไทย จำกัด โรงงานอุตสาหกรรมกระดาษบางปะอิน โรงงานน้ำตาลแม่วัง โรงงานน้ำตาลจังหวัดอุตรดิตถ์ สุพรรณบุรีและชลบุรี

กลุ่มที่สี่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วยโรงแรมอิมพีเรียล โฮเต็ลกรุ๊ป ซึ่งมีโรงแรมในเครือคือ พลาซ่า แอทธีนี ควีนปาร์ค แม่ปิง ซิตี้อินท์ ที่เชียงใหม่ เชียงใหม่สปอร์ต คลับส์ ที่แม่ฮ่องสอน โรงแรมพลาซ่า แอทธินี นิวยอร์ค โรงแรม อิมพีเรียลอังกอ ที่เสียมเรียบ กัมพูชา ภูแก้ว(เพชรบูรณ์) เกาะสมุย 2 แห่ง อ.ชะอำ 1 แห่ง อ.หัวหิน 1 แห่ง โรงแรมในเครือยูเรเซีย เช่น ซิตี้อินน์ ส่วนที่เป็นอาคารพาณิชย์และสำนักงาน ประกอบด้วย พันธุ์ทิพย์ ตะวันนา บางกะปิ ตึกจัตุจักร ที่เชียงใหม่ และตึกเอ็มไพรส์ ทาวเวอร์

กลุ่มที่ห้า กลุ่มการลงทุน ประกอบด้วยประกันภัย อาคเนย์ประกันภัย อาคเนย์ประกันชีวิต มิลเลียไลฟ์อินชัวรันส์ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) บ.อินทรประกันภัย และ บ.อินเตอร์ไลฟ์ จอห์นแฮนด์ค็อก จำกัด

นายสุวิทย์ กล่าวแผนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่ต้องจดทะเบียนในปีนี้ เช่น การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย บมจ.การบินไทย และธนาคารกรุงไทย คงต้องเลื่อนการขายหุ้นออกไป จากความไม่พร้อมในการขององค์กร และจากปัจจัยสงคราม และล่าสุดการแพร่ระบาดโรคหวัด

"วัตถุประสงค์ของการแปรรูปรับวิสาหกิจ มีเป้าหมายเพื่อเป็นสินค้า ที่น่าสนใจให้กับนักลงทุน เพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น"

ดังนั้น เมื่อมีเหตุในการต้องเลื่อนการกระจายหุ้นออกไปก็คงจะมีผลกระทบต่อตลาดทุน เพราะะเมื่อตลาดไม่มีสินค้าใหม่ ความสนใจของนักลงทุนก็ลดน้อยลง ซึ่งเป็นผลให้ตลาดหุ้นไทยมีความเปราะบาง หากมีปัจจัยแรงๆเข้ามากระทบ

"การเลือนแปรรูปรัฐวิสาหกิจออกไป อาจส่งผลให้นักลงทุนชะลอการลงทุนได้ เนื่องจากก่อนหน้านั้นได้มีการออกไปนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์)ในต่างประเทศว่าจะมีหุ้นใหม่ และเป็นหุ้นที่ดีให้นักลงทุนเลือก"

อย่างไรก็ดี จากการออกไปสำรวจนักลงทุนต่างประเทศในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ยังพบว่านักลงทุนต่างประเทศให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากกว่า 2 เท่าหรือนักลงทุนต่างประเทศให้น้ำหนักการงทุนในตลาดหุ้นไทยในระดับ 3.4 เท่า ซึ่งมากกว่าน้ำหนักที่บริษัทมอร์แกน สแตนเลย์ แคปิตอล อินเวสเม็นท์ ( MSCI) ให้น้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ 1.7 เท่า

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us