"สุวรรณ วลัยเสถียร" ยันตอนนี้เป็นเพียงผู้ประสานงานจัดตั้งผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการทีพีไอ
แต่พร้อมที่จะเข้าไปเป็นหนึ่งในทีมบริหารหากเป็นประโยชน์กับชาติ ขณะเดียวกันก็ยอมรับอยู่ในทีว่าเป็นตัวแทนพรรคไทยรักไทยและนายกฯที่เข้าไปช่วยฟื้นฟูทีพีไอ
พร้อมรับประกันทีมงานบริหารแผนฯจะเป็นคนไทยล้วน 100 เปอร์เซ็นต์
นายสุวรรณ วลัยเสถียร ผู้ประสานงานจัดตั้งผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการทีพีไอ กล่าวในรายการสภาท่าพระอาทิตย์
คลื่นสามัญประจำบ้าน เอฟเอ็ม 97.5 เมกะเฮิรตซ์ วานนี้ (1 พ.ค.)ว่า ขณะนี้ตนได้รับมอบหมายให้เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานในการจัดตั้ง
"ผู้บริหารแผน" ให้กับ ทีพีไอ ซึ่งคงจะเสนอรายชื่อในวันที่ 12 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม ก็มีความเป็นไปได้เช่นกันที่จะเข้าไปเป็นหนึ่งในทีมที่จะเข้าไปบริหารแผนฟื้นฟู
เพราะอะไรก็ตามที่เป็นประโยชน์กับทางบริษัทหรือเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติก็ยินดีที่จะทำอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดว่า ผู้บริหารจะประกอบ ไปด้วยทีมงานอย่างน้อย 4-5 ราย
และขอยืนยันว่า บุคคลที่จะเข้าไปมีความขาวสะอาดและเป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีฝรั่งอย่างแน่นอน
. "งวดนี้ไม่มีฝรั่งเลย ฝรั่งไปหมดแล้ว ทีพีไอ เป็นบริษัทคนไทย คนไทยบริหารงาน
ฉะนั้นที่ฝรั่งบอกว่าจะมายึดอะไรต่ออะไร ไม่เกิดขึ้นแน่นอน เรื่องนั้นเป็นเรื่องผ่านไปแล้ว
สำหรับเรื่องผู้บริหาร 4-5 รายนั้นเป็นทีมเดียวกัน ไม่ได้ได้มาจากหลายบริษัท และคิดว่ารายเดียวก็เพียงพอแล้ว
"จากการที่ผมได้คุยกับทางฝ่ายเจ้าหนี้ ท่าที เขาก็โอเค เพราะถ้าไม่โอเคผมก็ไม่ทำ
ทางเลือกมีไม่มาก ส่วนทางด้านลูกหนี้เขาไม่ได้ติดต่อมา ผมก็คงต้องดูแลทางฝ่ายเจ้าหนี้ให้เรียบร้อยเสียก่อน"
นายสุวรรณกล่าวต่อไปว่า สำหรับนโยบาย ของรัฐบาลที่ค่อนข้างชัดเจนหลังจากถอดถอนเอฟเฟ็คทีฟ
แพลนเนอร์ส (EPL) ว่าผู้บริหารแผน ฟื้นฟูถ้าไม่ได้รับการยอมรับจากลูกหนี้ก็ต้องมีคนของลูกหนี้อยู่ด้วยนั้น
เป็นเพียงความคิดเห็น ไม่ได้มีการบังคับ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถ้าลูกหนี้เห็นด้วยก็จะเป็นประโยชน์
"ผมเองก็อยู่พรรคไทยรักไทย เพราะฉะนั้น เวลาเข้ามา ผมก็บอกว่าผมมาช่วยดูให้และอีกหน่อยผมจะกลับไปช่วยพรรคไทยรักไทย
เลือกตั้งผู้ว่ากทม. หรือเลือกตั้งส.ส.อะไร ฉะนั้น ความโยงใยของผมตรงนี้ค่อนข้างแน่นแฟ้น
ถาม ว่าจะตีความได้หรือไม่ว่าท่านนายกฯ ทักษิณ ส่งผมให้เข้ามาช่วย ผมว่าก็แล้วแต่จะดู
แต่ข้อเท็จจริงก็มีว่า ผมสร้างพรรคไทยรักไทยมาพร้อม กับท่านนายกฯ ตั้งแต่เรามีเพียง
20 คนและก็เติบโตมาด้วยกัน ผมก็ดีใจว่าทางพรรค พ.ต.ท. ทักษิณ ได้เป็นนายกฯ ตามที่เราตั้งมั่นเอาไว้
แล้วเรื่องทีพีไอ ผมว่าท่านนายกฯ คงจะทราบเรื่อง
"ส่วนเรื่องทีมผู้บริหารแผนคงอดใจรอซัก 2-3 วัน ผมยืนยันว่าเป็นทีมที่ดี เป็นทีมคนไทย
หลายคนก็บอกว่าเดี๋ยวเราเป็นต่างด้าวแฝงคราบ เข้ามา ไม่มีครับ คนไทยถือหุ้น 100เปอร์เซ็นต์เป็นกรรมการร้อยเปอร์เซ็นต์และก็เกิดเมืองไทย
ทั้งนั้น"
นายสุวรรณกล่าวต่อไปว่า ทีพีไอเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นเรื่องที่หลายคนสนใจ ทั้งในประเทศ
นอกประเทศ ดังนั้น ถ้าแก้ไขในทางที่ดีได้ จะมีประโยชน์ต่อทุกฝ่ายเป็นประโยชน์ต่อพนักงาน
เป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น เพราะถ้าทำให้ดี คนทุกคนก็จะได้ประโยชน์นั้น
ยกตัวอย่างเช่นเมื่อเดือนที่แล้ว ทีพีไอโพลีนซึ่งเป็นบริษัทลูกออกตลาดไปขายหุ้นตั้ง
17 บาท ถ้าตัวทีพีไอเองขายหุ้นได้ 17 บาท ทุกคนก็มีความสุข แม้กระทั่งฝ่ายลูกหนี้คือนายประชัย
เลี่ยวไพรัตน์ก็ได้ประโยชน์เช่นกัน เพราะฉะนั้นทุกคนต้องร่วมมือกันทำงาน ผมว่าแม้ทางฝ่ายลูกหนี้
คุณประชัย ได้เงินหลายหมื่นล้านเลย ถ้าทุกคนจับมือกันช่วยกันผมว่าไม่พ้นวิสัย
"ถามว่า ทีพีไออยู่ในวิสัยที่จะเจริญก้าวหน้า ต่อไปได้ไหม ผมว่าเรื่องนี้ต้องบริษัทเป็นที่ตั้ง
ถ้าบริษัทแข็งแรง บริษัทดี ผู้ถือหุ้นดี พนักงานได้ดี ลูกหนี้ก็ได้ เจ้าหนี้ก็ได้รับชำระหนี้
เพราะเจ้าหนี้กับลูกหนี้ตอนนี้สภาพเหมือนกันอยู่อย่างก็คือว่าต่างฝ่ายถือหุ้นใหญ่ในทีพีไอด้วยกัน
"เรื่องแนวทางการฟื้นฟูก็เป็นไปตามแผน ถ้าแผนไม่เหมาะเราก็คงจะต้องแก้ไข แผน
และในระหว่างนี้ทางฝ่ายคุณประชัย เป็นเพียงผู้บริหาร แผนชั่วคราว และอีกอย่างก็คือต้องบริหารแผนร่วมกับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ดังนั้น ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำการฝ่ายเดียวโดยพลการไม่ได้ ต้อง จูงมือไปด้วยกัน เพราะฉะนั้น
จะทำอะไร ออกคำสั่งคนเดียว คำสั่งย่อมไม่ตรงไปตามศาลได้วาง แนวเอาไว้ อันนี้ต้องให้บุคคลเข้าใจ
"ตลอดระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา ปัญหาอยู่ตรงที่ลูกหนี้กับเจ้าหนี้อาจจะติดต่อกันน้อย
และแผนที่เขียนไว้ก็เป็นแผนโบราณ ผู้บริหารก็ใช้เงินไปมาก ซึ่งเราคนไทยด้วยกันเราคิดว่ามันน่าจะใช้ถูกกว่านี้
ผมเองก็อยากจะให้ ถ้าใช้น้อยๆ บริษัทจะได้เหลือเงินเยอะๆ ถ้าเหลือเงินเยอะ มันก็ทำให้ผู้ถือหุ้นสบาย"
นายสุวรรณกล่าว