ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศแขวน "H" วินโคสท์ฯ หุ้นในเครือตระกูล "วงศ์สวัสดิ์" หลังโผล่รายการบิ๊กล็อตกว่า 172 ล้านหุ้น หรือกว่า 35% มูลค่ารวม 176 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นพุ่ง 34% นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตอาจมีการใช้อินไซด์เดอร์เทรดดิ้ง หลังพบราคาหุ้นพุ่งก่อนเกิดรายการบิกล็อต จี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ-ก.ล.ต.เร่งตรวจสอบป้องกันกลุ่มทุนหาประโยชน์ก่อนเลือกตั้ง พร้อมระบุกลุ่มวงศ์สวัสดิ์ โยกหุ้นก่อนลงเล่นการเมือง

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศหยุดการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ WIN เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่เวลา 16.20 น. ของวันที่ 13 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นไป จนกว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวจะเผยแพร่แก่นักลงทุนโดยทั่วกัน

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากปรากฏรายการซื้อขายหลักทรัพย์รายใหญ่จำนวน 35.18% ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระ ในราคา 1.02 บาท ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญ และอาจส่งผลกระทบต่อภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท และตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังไม่ได้รับทราบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว

จากการตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่า มีการทำรายการในกระดานรายใหญ่ทั้งหมด 6 รายการจำนวน 172,500,000 ล้านหุ้น คิดเป็น 35.18% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ในราคาหุ้นละ 1.02 บาท มูลค่ารวม 175,950,000 ล้านบาท

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรกของบริษัท วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (มหาชน) ณ วันที่ 3 เมษายน 2550 ประกอบด้วย อันดับ 1. นางสาวชยาภา วงศ์สวัสดิ์ ถือหุ้นจำนวน 99,272,031 หุ้น หรือ 20.25%, อันดับ 2. นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ จำนวน 94,660,199 หุ้น หรือ 19.31%, อันดับ 3. นางสาวชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ จำนวน 82,329,069 หุ้น หรือ 16.79% , อันดับ 4. นายสุรสิทธิ์ ติยะวัชรพงศ์ จำนวน 40,212,506 หุ้น หรือ 8.20% อันดับ 5. นายวิสาล นีรนาทโกมล จำนวน 32,873,962 หุ้น หรือ 6.70% , อันดับ 6. นางสาวอัญชุลี ทรัพย์นุ่ม จำนวน 12,404,910 หุ้น หรือ 2.53% , อันดับ 7. นางทิพรัตน์ สุธรรมสมัย จำนวน 9,156,720 หุ้น หรือ 1.87%, อันดับ 8. นางสาวนฤมล นววัฒนทรัพย์ จำนวน 7,409,360 หุ้น หรือ 1.51% , อันดับ 9. นายบพิตร ศรีดอนชัย จำนวน 6,503,709 หุ้น หรือ 1.33% และอันดับ10. หม่อมหลวงสุนทรชัย ชยางกูร จำนวน 5,619,100 หุ้น หรือ 1.15

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ได้ตั้งข้อสังเกตจากการทำบิ๊กล็อตครั้งนี้ ว่า การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น WIN ในช่วงก่อนการทำรายการบิ๊กล็อตได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดด ซึ่งอาจจะมีการใช้ข้อมูลภายใน (อินไซด์เดอร์เทรดดิ้ง) ในการซื้อขายหลักทรัพย์ เนื่องจากเมื่อเทียบราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นช่วงก่อนการทำรายการบิ๊กล็อต ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ควรจะเข้าไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เนื่องจากอาจจะมีนักลงทุนที่ได้รับประโยชน์จากการใช้ข้อมูลภายในครั้งนี้

"อาจจะมีคนที่รู้เรื่องก่อนการทำรายการดังกล่าว เพราะหากดูรายงานที่ปรากฎในสื่อออนไลน์จะพบว่ารายการบิ๊กล็อตเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ และก.ล.ต.ควรจะเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้ามาหาประโยชน์ และคาดว่าการซื้อขายหุ้นครั้งนี้น่าจะมาจากตระกูลวงศ์สวัสดิ์ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1-3 รวมกันกว่า 56.35% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด ซึ่งอาจจะมีจุดประสงค์หลักในปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของทางการ หลังจากที่กระโดดเข้าไปเล่นการเมือง" แหล่งข่าวกล่าว

สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้น WIN พบว่าในช่วงเวลา 15.55 น.ราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1 บาท ก่อนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ปรากฎรายการบิ๊กล็อต โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 1.26 ก่อนลงมาปิดที่ 1.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.32 บาท หรือ 34.41% หลังตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งพักการซื้อขายชั่วคราว มูลค่าการซื้อขาย 55.51 ล้านบาท