|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ซีพีเอฟ ชี้ปีหน้าคนไทย รับศึกหนักค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น ราคาไข่ไก่ เนื้อไก่ เนื้อหมูปรับอีกเพียบ หลังต้นทุนอาหารสัตว์พุ่งสูงจากปัจจัยการนำพืชเกษตรไปผลิตพลังงานทดแทนและ ภาวะโลกร้อน จี้รัฐบาลใหม่ เร่งเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรผ่านการประกันราคาสินค้า ดันเศรษฐกิจโตรับส่องหาช่องทางขยายการลงทุนต่างประเทศเพิ่ม พร้อมผุดโรงงานผลิตอาหารสัตว์และฟาร์มในอินเดีย ยูเครนเพิ่ม วาดฝัน 5 ปี ปรับสัดส่วนรายได้ต่างประเทศได้อีก 50% แน่
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปีหน้า บริษัทฯจะเร่งขยายการลงทุนไปยังตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น โดยจะใช้เงินลงทุนคิดเป็นสัดส่วน 50% จากงบลงทุน 3,000-5,000 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิต อาหารสัตว์และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ในหลายประเทศเพิ่มเติม เช่น ที่อินเดียและรัสเซียที่จะเพิ่มโรงงานผลิต อาหารสัตว์และไก่ และขณะนี้อยู่ระหว่างการดูลู่ทางลงทุนในประเทศยูเครนเพิ่มเติม
ทั้งนี้ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า เมื่อดูจากแผนการลงทุนคาดว่า จะช่วยผลักดันรายได้จากธุรกิจต่างประเทศเพิ่มเป็น 50% ได้ โดย 25% มาจากธุรกิจที่ไปลงทุนในต่างประเทศจากเดิมที่มี 20% และอีก 25% มาจากธุรกิจส่งออกอาหารแปรรูป จากเดิม 20% และอีก 50% มาจากยอดขายภายในประเทศ ขณะที่ปีหน้า คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 10% จากปีนี้ที่มีรายได้ 130,000-140,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันปีหน้าแนวโน้มราคาเนื้อสัตว์ในตลาดรวมบริษัทฯคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มมากขึ้น เช่น เนื้อหมู ไข่ไก่ ไก่เป็น ทั้งนี้สาเหตุที่ราคาเพิ่มขึ้นเนื่องจากต้นทุนการผลิตประเภทอาหารสัตว์ปรับตัวเพิ่มสูง การนำพืชเกษตรบางชนิดนำไปผลิตเป็นพลังงานทดแทน เช่น ข้าวโพดและกากถั่ว ที่ราคาสูงขึ้น 20-30% ประกอบกับภาวะโลกร้อนที่ส่งผลต่อผลผลิตสินค้าเกษตรในตลาดที่ลดลง
อย่างไรก็ตามปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น มองว่าจะส่งผลกระทบให้ค่าครองชีพของคนไทยจะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ จึงต้องเร่งลดผลกระทบในเรื่องของค่าครองชีพ
โดยการเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกรผ่านการรับประกันสินค้าเกษตร เพื่อให้กำลังเพียงพอต่อการจับจ่ายใช้สอย ขณะที่กลุ่มคนในเมืองจะต้องเพิ่มรายได้ขั้นต่ำให้กับคนทำงาน ซึ่งหากทั้ง 2 ส่วนสามารถทำได้ไปพร้อมๆกัน จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเชื่อว่าหากเกิดการเลือกตั้งจะสามารถทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นไม่มากก็น้อย
นายอดิเรก กล่าวด้วยว่า สำหรับวัตถุดิบอาหารสัตว์เพิ่มสูงขึ้น อาจเป็นแรงกดดันที่ทำให้ราคาเนื้อสัตว์ในปีหน้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากในปัจจุบันนี้เนื้อไก่เป็นราคากิโลกรัมละ 36-37 บาท แต่ต้นทุนมากกว่า 30 บาท เนื้อหมูเป็น ราคากิโกกรัม 43-44 บาท และไข่ไก่ ที่ตกฟองละ 2.00-2.10 บาท แต่ต้นทุนทั้ง 2 ตัวอยู่ใกล้กับราคาจำหน่ายหน้าฟาร์ม ทำให้ผู้ผลิตจำเป็นต้องปรับราคาเพิ่มขึ้น
|
|
 |
|
|