"ยงยุทธ์ ชัยพรหมประสิทธิ์" คาดปี2551 คอนโดฯเกรดBและCแข่งขันดุเดือด หันมาจับตลาดกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป เชื่อแนวโน้มผู้ประกอบการลดขนาดห้องตามต้นทุนวัสดุก่อสร้าง ราคาที่ดินขยับ เผยผลสำรวจ10เดือนคอนโดฯใหม่เปิดตัว 89โครงการ ซัปพลายทะลัก 34,970 ยูนิต คาด2เดือนสุดท้ายแห่เปิดอีก 17โครงการ หรือกว่า 16,840 ยูนิต ชี้กลุ่มลูกค้าระดับ B และ C ฐานใหญ่ในตลาด ด้านผู้บริหารศุภาลัยฯ ระบุความต้องการซื้อคอนโดฯโตต่อเนื่อง แค่เปิดขายซิตี้โฮม สี่แยกท่าพระ แค่ 2 วัน ปิดการขายได้ โดยโครงการมีมูลค่า 1,200 ล้านบาท

นายยงยุทธ์ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อควาเรียล เอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า จากการสำรวจตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ในช่วง 10 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.) พบว่า มีโครงการคอนโดฯเปิดตัวทั้งสิ้นจำนวน 89 โครงการ คิดเป็นจำนวนยูนิตรวม 34,970 ยูนิต โดยในจำนวนดังกล่าวมียอดขายแล้ว 18,820 ยนิต หรือคิดเป็น 54% ของจำนวนห้องชุดที่เปิดขาย และคาดว่าในช่วง2เดือนสุดท้าย (พ.ย.-ธ.ค.) จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีกประมาณ 17 โครงการ คิดเป็นจำนวนหน่วยที่ออกสู่ตลาดประมาณ 16,840 ยูนิต ซึ่งจะทำให้ทั้งปี มีจำนวนโครงการที่เปิดขายรวมทั้งสิ้น 106 โครงการ หรือมีจำนวนห้องชุดเปิดขายรวม 51,810 ยูนิต

ทั้งนี้ จากตัวเลขการเปิดตัวโครงการดังกล่าว จะทำให้มีอัตราการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นจากปี49 ที่มีจำนวนการเปิดตัวห้องชุดทั้งสิ้น 30,904 ยูนิตประมาณ 67% โดยโครงการใหม่ที่มีการเปิดตัวทั้งหมด 106 โครงการนั้น มีทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ในแนวรถไฟฟ้าทั้งสิ้น 65 โครงการ จากเดิมที่ในปี 2549 ที่ผ่านมา จำนวนโครงการที่เปิดตัวในแนวรถไฟฟ้ามีทั้งสิ้น 26 โครงการ หรือมีอัตราการเปิดตัวโครงการใหม่ในแนวรถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 115 %

โดยในจำนวนโครงการที่เปิดขายในปี2550นี้ ส่วนใหญ่เป็นโครงการเกรด BและเกรดC สำหรับโครงการเกรดBจะมีระดับราคาขาย 55,000-75,000 บาทต่อตารางเมตร(ตร.ม.) จำนวน 39 โครงการคิดเป็นจำนวนหน่วยประมาณ 15,374 ยูนิต และโครงการเกรด C ซึ่งมีราคาขาย30,000 -55,000 บาทต่อตร.ม. จำนวน40 โครงการ คิดเป็นจำนวนหน่วย 16,917 ยูนิต โดยทำเลที่มีการเปิดตัวคอนโดฯมากที่สุดคือ แนวรถไฟฟ้ารัชดา-พระราม 9 คิดเป็น63% เลียบถนนสุขุมวิท คิดเป็น 62% และทำเลย่านเลียบถนนพหลโยธิน คิดเป็น58%

สำหรับแนวโน้มการเปิดตัวโครงการคอนโดฯใหม่ในปี2551 นั้น คาดว่าตลาดคอนโดฯเกรด B และ C มีสัดส่วนการเปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุด โดยกลุ่มลูกค้าหลักจะยังเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เริ่มทำงาน และกลุ่มคนทำงานในย่านศูนย์กลางแหล่งธุรกิจ ซึ่งกลุ่มดังกล่าวจะมีอายุเฉลี่ยอยู่ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งจากการที่ผู้ประกอบการให้ความสำคัญในตลาดเกรด BและC จะส่งผลให้ตลาดในกลุ่มนี้มีการแข่งขันที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองพฤติกรรม(ไลฟ์สไตล์)ของคนเมือง เนื่องจากในปี2551 ข้อจำกัดของผู้ประกอบการจะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการหาทำเลพัฒนาโครงการ และราคาที่ดินในทำเลที่มีศักยภาพจะปรับตัวสูงขึ้นกว่าปัจจุบัน นอกจากนี้ แนวโน้มการพัฒนาโครงการคอนโดฯของผู้ประกอบการ จะมีรูปแบบโครงการที่มีขนาดห้องชุดเล็กลง เพื่อให้สอดรับกับต้นทุนวัสุดก่อสร้างและราคาที่ดิน และความต้องการของลูกค้า รวมถึงเพื่อให้เหมาะสมกับกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าด้วย

“ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จาก3 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจรับริหารการขายโครงการ และเป็นที่ปรึกษาโครงการ โดยในปีนี้ บริษัทมีโครงการที่บริหารการขายอยู่ประมาณ 10,000 ล้านบาท และสามารถขายไปไดแล้ว 7,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 3,000 ล้านบาท คาดจะขายได้หมดในไตรมาสแรกของปี2551 ขณะเดียวกันในปีหน้า จะมีโครงการที่บริหารเข้าไปบริหารการขายเพิ่มเข้ามาอีก 5,000 ล้านบาท ”

สำหรับ ผลการดำเนินงานในปี 2550 จะมีรายได้จากการดำเนินการรวม 375 ล้านบาท เติบโตเพิ่มจากปี49 ประมาณ 400% แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจอสังหาฯ 340 ล้านบาท เติบโตเพิ่มจากปี 2549 ที่มีรายได้ 34 ล้านบาทประมาณ 900%รายได้จากธุรกิจบริหารการขาย 25 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น30%จากปีที่ผ่านมา และรายได้จากการเป็นที่ปรึกษาโครงการ 28 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 30% เช่นกัน ส่วนในปี2551 บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการคอนโดฯเพิ่มขึ้น 1 โครงการในกรุงเทพฯ มูลค่าการพัฒนาไม่เกิน 500 ล้านบาท และกำลังพิจารณาหาที่ดินระหว่างเกาะสมุยหรือภูเก็ต ในการพัฒนาโครงการโรงแรมและคอนโดฯ มูลค่า 500 ล้านบาทอีก 1 โครงการ

2วันซิตี้โฮมสี่แยกท่าพระยอดขาย1,200ล้าน

นายอธิป พีชานนท์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความสำเร็จจากการเปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุดภายใต้ชื่อ "ซิตี้โฮม สี่แยกท่าพระ" คอนโดฯริมถนนใหญ่ใจกลางสี่แยกท่าพระ ว่า โครงการดังกล่าวเปิดต้วในราคาเริ่มต้นเพียง 1 ล้านบาทต้นๆ และลูกค้าให้ตอบรับด้วยดี โดยหลังการเปิดตัวโครงการเมื่อวันที่ 10-11 พ.ย.ที่ผ่านมา สามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ รวมมูลค่าโครงการเกือบ 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นอีกครั้งหลังจากสามารถปิดการขายคอนโดฯ แบรนด์ “ซิตี้โฮม” ทั้งในทำเลรัชดาภิเษก และสุขุมวิท