|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ผลิตไฟฟ้าราชบุรีมั่นใจสรุปสัดส่วนการถือหุ้นโรงไฟฟ้าหงสาลิกไนต์ในลาวได้ปลายปีนี้ แถมลุ้นโครงการใหม่เพิ่มอีก 3-4 โรงในลาว มั่นใจชนะประมูลไอพีพี หลังทำหนังสือแจ้งก.พลังงานระบุบริษัทลูกไม่เข้าข่ายการเป็นรัฐวิสาหกิจ ยันมีลู่ทางรับมือหากถูกปัดตก
นายธวัช วิมลสาระวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการพัฒนาธุรกิจ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าหงสาลิกไนต์ที่สปป.ลาวว่า ในปลายปีนี้จะได้ข้อสรุปสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าหงสาลิกไนต์ โดยเบื้องต้นคาดว่าบริษัทจะถือหุ้นในส่วนโรงไฟฟ้า 40% บมจ.บ้านปู 40% และรัฐบาลลาว 20% ส่วนเหมืองถ่านหิน บริษัทฯจะถือหุ้น 37.5%เท่ากับบ้านปู และรัฐบาลลาวถือหุ้น 25%
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะเป็นการสร้างโรงไฟฟ้าปากเหมืองถ่านหินซึ่งมีกำลังการผลิต 1,800 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนประมาณ 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะขายไฟฟ้าให้ไทย 1,500 เมกะวัตต์ คาดว่าจะป้อนไฟเข้าระบบในปี 2557 ทั้งนี้เหมืองถ่านหินดังกล่าวจะมีปริมาณถ่านหินลิกไนต์สำรองใช้ในการผลิตไฟฟ้าได้นานถึง 30ปี และโรงไฟฟ้าจะอยู่ใกล้เหมืองถ่านหินทำให้ไม่มีค่าขนส่งเพิ่ม
" เราเสนอสัดส่วนการถือหุ้นในโรงไฟฟ้าหงสาลิกไนต์ในส่วนโรงไฟฟ้า 40%และส่วนเหมืองถ่านหิน 37.5% แต่สัดส่วนดังกล่าวอาจถูกปรับลดลง หากลาวให้จีนเข้ามาถือหุ้นในโครงการนี้ตามข้อตกลงเดิม "
บริษัทฯยังมีแผนจะเข้าร่วมถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำบากที่สปป.ลาว ขนาดกำลังการผลิต 140 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ นอกจากนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าร่วมทุนโรงไฟฟ้าในลาวอีก 3-4 โครงการ
นายธวัชชัย กล่าวต่อไปว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2550 คาดว่าจะมีรายได้และกำไรสุทธิดีกว่าไตรมาส 3/2543 ที่มีรายได้รวม 10,246.23ล้านบาท และกำไรสุทธิ 560.69 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 4 จะมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าพลังความร้อนราชบุรีชุดที่ 2 เป็นเวลาเกือบ 2 เดือน ขณะที่ช่วงไตรมาส 3 มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าพลังความร้อน 2 ยูนิต
ทั้งนี้ ไตรมาส 3/2550 บริษัทฯมีรายได้และกำไรลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 23.41% และ68.77% ตามลำดับ เนื่องจากบริษัทมีการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ของโรงไฟฟ้า ส่งผลให้รายได้จากค่าความพร้อมจ่าย(AP) ลดลงจำนวน 668.21 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการในปี2551 บริษัทฯจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เข้ามาจากโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ 2 ยูนิตๆละ 700 เมกะวัตต์ในช่วงมี.ค. และมิ.ย. 2551 คาดว่าจะรับรู้รายได้ประมาณ 8,000 ล้านบาท และยังมีโครงการผลิตแอลกอฮอล์เพื่อการส่งออก คาดว่าจะเปิดดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ก.พ.นี้ รวมทั้งบริษัทจะมีการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าประมาณ 1 ยูนิต ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้ว ทำให้ผลประกอบการจะดีกว่าปี 2550
นายธวัช กล่าวถึงประเด็นเกี่ยวกับความเป็นรัฐวิสาหกิจจะทำให้ราชบุรีฯไม่มีสิทธิประมูลไอพีพีว่า บริษัทได้ศึกษาและพิจารณาอย่างรอบคอบภายใต้กรอบเงื่อนไขและระเบียบของภาครัฐ ซึ่งได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบพ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะพ.ศ. 2548 ซึ่งบริษัทได้ทำหนังสือชี้แจงไปยังกระทรวงพลังงานว่าบริษัทลูก คือ บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี ที่ยื่นประมูลไอพีพี ไม่เข้าเงื่อนไขการเป็นรัฐวิสาหกิจตามพ.ร.บ.ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากบริษัทฯถูกตีตกเพราะติดเงื่อนไขนี้ บริษัทฯมีกระบวนการรับมือ โดยอาจจะพึ่งกระบวนการศาล
ทั้งนี้ บริษัทฯมีความมั่นใจว่าจะชนะประมูลไอพีพีที่ได้ยื่นประมูล 2 โรงๆละ 800 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดราชบุรีและอยุธยา นอกจากนี้ บริษัทยังได้ศึกษาร่วมกับกฟผ.ในโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เนื่องจากปัจจุบันไทยใช้ก๊าซฯเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าถึง 70-80% ซึ่งเป็นอัตราที่มีความเสี่ยงในระยะยาว
|
|
 |
|
|