|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ก.ล.ต.ลุ้นร่างแก้ไขพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ เข้าที่ประชุมสนช.สัปดาห์หน้า หวังให้ทันประกาศใช้ในรัฐบาลนี้ เผยเพื่อเพิ่มประสิทธิในการดูแลนักลงทุนมากขึ้น โดยในร่างใหม่เสนอให้รวบกลุ่มหุ้นที่มีอำนาจในการจัดการบริษัทหากตรวจสอบได้เป็นกลุ่มเดียวกันป้องกันการเลี่ยงทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ คุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสกรณีพบข้อมูลต้องสงสัย ล่อใจผู้ชี้เบาะแสปั่นหุ้นจ่ายสินบนไม่เกิน 30% ของค่าปรับ ขณะที่โครงสร้างก.ล.ต.แยกบอร์ดใหญ่ดูเฉพาะนโยบายภาพรวม บอร์ดเล็กดูแลการแก้กฎเกณฑ์ต่างๆ
นายประสงค์ วินัยแพทย์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวถึงร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ว่า ขั้นตอนของการแก้ไขร่างพ.ร.บ.ภายหลังจากที่ผ่านการประชุมคณะรัฐมนตรีมาแล้วในขณะนี้อยู่ระหว่างการรอเสนอเข้าที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งหวังว่าในช่วงสัปดาห์หน้าเรื่องดังกล่าวจะสามารถเสนอเข้าสนช.ได้ โดยขั้นตอนต่อไปจะต้องรอให้มีการแต่งตั้งกรรมธิการเพื่อพิจารณารับหลักการ ซึ่งอาจจะมีแก้ไขในบางเรื่องก่อนจะเสนอกลับเข้ามาที่ประชุมสนช.เพื่อพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ต่อไป โดยหวังว่าจะสามารถประกาศใช้ทันภายในรัฐบาลชุดนี้
ทั้งนี้ การแก้ไขในหลายๆเรื่องเพื่อเป็นการเพิ่มความคุ้มครองผู้ลงทุนและยังเป็นการสร้างความโปร่งใสเกี่ยวกับการทำงานของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนมากขึ้น รวมถึงเป็นการจัดโครงสร้างทางองค์ของก.ล.ต.เพื่อให้มีความโปร่งใสในการดำเนินงานเพื่อให้ปราศจากการแทรกแซงจากฝ่ายทางการเมือง ในขณะเดียวกันก็จะสามารถผลักดันกฎเกณฑ์ระเบียบต่างๆได้ง่ายขึ้น
สำหรับสาระสำคัญในร่างแก้ไขพ.ร.บ.ดังกล่าว เช่น กรณีการครบงำกิจการ จะพิจารณาพฤติการณ์ของบุคคลที่ร่วมกันควบคุมกิจการให้มีความชัดเจนมากขึ้น โดยหากพิสูจน์ได้ว่าบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกันเชื่อมโยงกันจะถือว่าเป็นกลุ่มบุคคลซึ่งจะนับรวมในเรื่องการถือครองหุ้นเป็น 1 กลุ่มซึ่งหากการถือหุ้นเพิ่มขึ้นจนข้ามจุดที่ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดกลุ่มดังกล่าวก็จะต้องดำเนินการโดยทันที
นอกจากนี้ยังมีเรื่องการให้ความคุ้มครองผู้ให้ข้อมูลแก่ทางการ โดยคุ้มครองไม่ให้นายจ้างแกล้งพนักงาน ลูกจ้าง ที่ปรึกษา ผู้สอบบัญชี ที่แจ้งเบาะแสหรือข้อมูลในการกระทำผิดของบริษัทให้กับก.ล.ต. ในส่วนของการแจ้งพฤติการณ์น่าสงสัยของผู้สอบบัญชีที่มีข้อถกเถียงกันในช่วงที่ผ่านมา ได้มีข้อสรุปให้ผู้สอบบัญชที่ที่พบความผิดปกติจากข้อมูลแจ้งเรื่องดังกล่าวต่อคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบจะเป็นผู้พิจารณาว่จะดำเนินการแจ้งเรื่องดังกล่าวต่อก.ล.ต.หรือไม่อย่างไรต่อไป
ในส่วนของการให้สิทธิต่อผู้ลงทุน นักลงทุนสามารถเสนอวาระในการประชุมผู้ถือหุ้นผ่านคณะกรรมการบริษัทหากสามารถรวมตัวผู้ถือหุ้นได้ 5% ขึ้นไป นอกจากนี้ยังเปิดช่องให้ผู้ถือหุ้นสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายจากรรมการและผู้บริหารที่เปิดเผยข้อมูลเป็นเท็จจนส่งผลต่อการตัดสินใจในบางเรื่อง รวมทั้งให้สามารถฟ้องกรรมการและผู้บริหารเพื่อเรียกประโยชน์ที่ได้ไปโดยไม่ถูกต้องคืนให้แก่บริษัท
เปลี่ยนโครงสร้างก.ล.ต.ใหม่
นายประสงค์ กล่าวอีกว่า โครงสร้างก.ล.ต.ใหม่ตามแก้ไขร่างพ.ร.บ.ที่ได้มีการเสนอ การแบ่งอำนาจในการดูแลเรื่องการออกกฎเกณฑ์ในเรื่องต่างๆที่ไม่ใช่ระดับนโยบายจะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการกำกับตลาดทุนซึ่งเป็นโครงสร้างใหม่ รับนโยบายจากคณะกรรมการก.ล.ต. โดยบุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นประธานรวมถึงกรรมการ ในส่วนของประธานคณะกรรมการก.ล.ต.จะมาจากแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรีจากเดิมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเป็นประธานโดยตำแหน่ง
ขณะที่กรรมการของคณะกรรมการจะมาจากผู้ทรงคุณ 4-6 คน (กฎหมาย บัญชี การเงิน ด้านละ 1 คน) จะมาจากการพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกและคณะกรรมการตรวจสอบ โดยหากพ.ร.บ.ดังกล่าวประกาศใช้ประธานก.ล.ต.ในปัจจุบันจะพ้นวาระทันทีและจะต้องมีการสรรหาภายใน 30 วัน ในส่วนของคณะกรรมการกำกับตลาดทุน เลขาธิการก.ล.ต.จะเป็นประธานโดยตำแหน่ง และมีรองเลขาธิการ ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกไม่เกิน 4 คนเป็นกรรมการ
ทั้งนี้ การพิจารณาเลือกผู้ทรงคุณเข้ามาเป็นกรรมการ ในช่วงที่ผ่านมาสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ และสมาคมบริษัทจดทะเบียน ได้มีการเสนอให้ตัวแทนสมาคมเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการในชุดดังกล่าวเพื่อเป็นปากเสียงแทนสมาชิก ซึ่งเรื่องดังกล่าวหลังมีการหารือร่วมกัน ข้อสรุปคือ จะไม่มีการให้สมาคมเสนอตัวแทนเข้ามาแต่บุคคลที่จะเข้ามาจะเป็นคนที่มีประสบการณ์ในด้านตลาดทุนอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ในร่างพ.ร.บ.ฉบับใหม่ได้มีการกำหนดให้มีการจ่ายสินบนหรือเงินรางวัล กรณีการให้ข้อมูลการใช้ข้อมูลภาย (Insider Trading) และการปั่นหุ้น ในจำนวนไม่เกิน 30% ของค่าปรับเพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจในการแจ้งข้อมูลที่ไม่ปกติของผู้ที่มีข้อมูล
|
|
|
|
|