Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 พฤศจิกายน 2550
เอ็นพาร์คขายหุ้น5บริษัทใช้หนี้แบงก์             
 


   
www resources

โฮมเพจ แนเชอรัล พาร์ค

   
search resources

แนเชอรัล พาร์ค, บมจ.
เสริมสิน สมะลาภา




บอร์ด"เอ็นพาร์ค" เร่งรักษาเครดิต อนุมัติขายหุ้นในธุรกิจที่มีศักยภาพ 5 บริษัท ดึงเงินชำระหนี้แบงก์นครหลวงไทย-กรุงไทย จำนวน 1,776.22 ล้านบาท ส่วนที่เหลือลงทุนในโครงการโรงแรมต่อ พร้อมเตรียมขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ ขณะที่ก.ล.ต. ติดใจงบการเงินไตรมาส2/50ของ "แปซิฟิค แอสเซ็ทส์" เกี่ยวกับการลงทุนในโครงการเชดี ภูเก็ต สั่งชี้แจงเพิ่มภายในวันที่ 12 พ.ย.นี้

นายเสริมสิน สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นพาร์ค เปิดเผยถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ได้มีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติในเรื่องการเสนอขายหุ้น ใน 5 บริษัท ได้แก่ 1. หุ้นสามัญของบริษัท แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ จำกัด (มหาชน) (PA) จำนวน 208,739,547 หุ้น มูลค่า 993.60 ล้านบาท คิดเป็น 62.50 % ของทุนชำระแล้ว

2.หุ้นสามัญของ Aimtop Investments Limited (Aimtop) จำนวน 6,100,010 หุ้น คิดเป็น 100% ของทุนชำระแล้ว, 3.หุ้นสามัญของบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BMCL) จำนวน 820,260,000 หุ้น มูลค่าไม่ต่ำกว่า 645.95 ล้านบาท คิดเป็น 6.86 % ของทุนชำระแล้ว, 4. หุ้นสามัญของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) จำนวน 62,721,231 หุ้น มูลค่าไม่ต่ำกว่า 235.20 ล้านบาท คิดเป็น 4.26 % ของทุนชำระแล้ว และ5. หุ้นสามัญของบริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (SYNTEC) จำนวน 190 ล้านหุ้น มูลค่าไม่ต่ำกว่า 193.80 ล้านบาท คิดเป็น 11.88 % ของทุนชำระแล้ว

ทั้งนี้ การขายหุ้นสามัญ PA ซึ่งเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทกำหนดราคาจากราคาปิดเฉลี่ย 90 วันทำการย้อนหลังนับจากที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการในครั้งนี้ และเป็นราคาที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกัน

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการขายหุ้น PA จำนวน 208,739,547 หุ้น หรือคิดเป็น 62.50 % ของทุนชำระแล้ว ให้แก่กลุ่มนักลงทุนที่ประกอบด้วยกองทุน Asia Debt Management HongKong Limited (ADM Capital) และบริษัทจีเอ็ม ดับเบิ้ลยู จำกัด ("GMW") ซึ่งมีนายสุเทพ วงศ์วรเศรษฐ ประธานกรรมการ PA เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือขายให้แก่บุคคลที่ ADM Capital และ GMW กำหนด ในราคาหุ้นละ 4.76 บาท ซึ่งเป็นราคาปิดเฉลี่ย 90 วันย้อนหลังนับจากที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการในครั้งนี้ รวมเป็นเงินจำนวน 993.60 ล้านบาท

ส่วนการขายหุ้นสามัญ Aimtop บริษัทกำหนดราคาขั้นต่ำจากราคาที่ได้มา (คิดเป็นสกุลเงินยูโร) และเป็นราคาที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกัน สำหรับการขายหุ้นบริษัทแสนสิริฯและบริษัท ซินเท็คฯ ซึ่งเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทกำหนดราคาขั้นต่ำจากราคาปิดเฉลี่ย 90 วันทำการย้อนหลังนับจากที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการในครั้งนี้

สำหรับหุ้นสามัญ BMCL บริษัทกำหนดราคาขั้นต่ำจากราคา 75 % ของราคาปิดเฉลี่ยย้อนหลัง 90 วันนับจากที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทจะต้องหานักลงทุนที่สามารถยอมรับเงื่อนไขการติดภาระจำนำ (Sponsor Support) อยู่กับธนาคารผู้ให้กู้เงินของ BMCL เพื่อเป็นประกันหนี้ของ BMCL ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายหนึ่งของ BMCL นอกจากนี้ หุ้นสามัญ BMCL ของบริษัทจำนวน หนึ่ง เป็นหุ้นที่ถูกห้ามขายตามหลักเกณฑ์ Silent Period ดังนั้น หุ้นสามัญ BMCL จำนวน 820,260,000 หุ้น จึงไม่สามารถนำขายออกทั่วไปในตลาดหลักทรัพย์ฯ

นายเสริมสิน กล่าวว่า ภายหลังจากการขายสินทรัพย์บริษัทจะนำเงินที่ ได้จากการขายหุ้นดังกล่าวไปใช้ชำระหนี้ส่วนที่เหลือต่อธนาคารนครหลวงไทยและ ธนาคารกรุงไทย และเพื่อใช้เป็นเงินทุนในการพัฒนาโครงการโรงแรมของบริษัทต่อไป

ปัจจุบัน บริษัทมีภาระหนี้สินคงเหลือกับธนาคารนครหลวงไทยจำนวน 790.67 ล้านบาท และธนาคารกรุงไทย จำนวน 985.55 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 1,776.22 ล้านบาท ขณะที่มีสินทรัพย์รวมประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าบริษัทมีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สินจำนวนมาก

ก.ล.ต.สั่งPA ชี้แจงเพิ่ม

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้สั่งให้ บมจ.แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงินลงทุนในโครงการเชดี ภูเก็ต ภายในวันที่ 12 พ.ย. 50 โดยที่มาของการสั่งการดังกล่าว เนื่องจาก ก.ล.ต. พบว่า ข้อมูลที่ PA เปิดเผยในงบการเงินงวดไตรมาส 2 ปี 2550 และสื่อของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงที่ผ่านมายังขาดข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญบางส่วนที่อาจจะมีผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุน กล่าวคือ การลงทุนในโครงการ เชดี ภูเก็ต ของ PA ตามที่ปรากฏในงบการเงินงวดดังกล่าวมีจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 282 ล้านบาท

ทั้งนี้ สินทรัพย์ทั้ง 3 ส่วนคือ 1. เงินลงทุนในโครงการดังกล่าวซึ่งผ่านการถือหุ้นเป็นทอด ๆ ในบริษัท Forerun Group Limited บริษัท อันดามัน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และบริษัท สุรินทร์ เบย์ จำกัด ตามลำดับ จึงมีประเด็นว่า ฐานะการเงินของบริษัทเหล่านี้ทุกทอดอาจจะมีผลต่อมูลค่าของโครงการ

2. สิทธิเรียกร้องในการรับชำระหนี้จาก ADCL ซึ่ง PA ซื้อมาจากเจ้าหนี้เดิมของ ADCL และ 3. เงินมัดจำเพื่อประโยชน์ในการใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มเติมในโครงการเชดี ภูเก็ต นั้น มูลค่าเงินลงทุนทั้ง 3 ส่วนข้างต้นที่ปรากฏในงบการเงินแสดงด้วยราคาทุนโดยไม่มีการตั้งด้อยค่า

ดังนั้น เพื่อให้ผู้ลงทุนทั่วไปได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับมูลค่าที่ถูกต้องของเงินลงทุนทั้งหมดดังกล่าว ก.ล.ต. จึงได้สั่งการให้ PA ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการประเมินมูลค่าโครงการเชดี ภูเก็ต ฐานะการเงินและผลการดำเนินงานล่าสุดของ Forerun ADCL และ SBCL รวมทั้งเหตุที่ทำให้ PA เชื่อว่า เงินลงทุนในโครงการดังกล่าวมีมูลค่าเต็มตามจำนวนราคาทุนที่แสดงในบัญชี   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us