Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ธันวาคม 2534








 
นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2534
"เตรียมลงทุน หุ้นกู้ตัวใหม่ในปีหน้า"             
โดย ทักษ์ศิล ฉัตรแก้ว
 


   
search resources

Stock Exchange
Loan




การเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจการเงินในปัจจุบันมักจะก่อเกิดนวัตกรรมแปลก ๆ ใหม่ ๆ ขึ้นในระบบการเงินอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

เป็นธรรมดาอยู่เองที่กระแสของแนวโน้มใหม่ซึ่งยึดถือเอาความเป็นหนึ่งเดียวแบบไร้พรมแดนของโลกธุรกิจการเงินที่เรียกกันว่า "โลกานุวัตรทางการเงิน" (Globalization of Financial Market) เป็นสรณะย่อมจะเป็นตัวช่วยกระพือโหมความเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันอย่างรวดเร็วและรุนแรงให้มากยิ่งขึ้น

ด้วยหวังว่าความไร้พรมแดนดังกล่าวจะช่วยให้การไหลเวียนของเงินทุนจากส่วนที่มีเงินทุนเหลือใช้ไปสู่ส่วนที่ยังต้องการใช้เงินทุนนั้น ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ (อย่างรวดเร็วและมีต้นทุนต่ำ) โดยให้เหลือสิ่งกีดขวางน้อยที่สุด

เพราะความเชื่อในเรื่องการไร้พรมแดนที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อของผู้คนในปัจจุบันนั้นเอง ที่นวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเหล่านั้นได้ส่งผลกระทบและทรงอิทธิพลต่อวงการเงินของไทยไปด้วย

ทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับวงการเงินการลงทุนชั้นหัวกะทิ มีความตื่นตัวและมีการปฏิบัติอย่างทันสมัย (Sophisticated) มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายของผู้คุมกฎ เช่น นายธนาคารกลางกระทรวงการคลัง ตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือฝ่ายผู้ปฏิบัติ เช่น นายธนาคารพาณิชย์ วาณิชธนากร เจ้าของกิจการผู้ออกหลักทรัพย์ นักลงทุน และฝ่ายสนับสนุน เช่น นักวิชาการ และนักศึกษาทางการเงินรุ่นใหม่ ๆ นักวิเคราะห์ฯ และสื่อมวลชน

ด้วยการดำเนินกิจกรรมของพวกเขาเหล่านี้ การร่วมกันลงมือสร้าง (จะโดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม) โดยหวังว่าจะสามารถสร้าง "โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินสมัยใหม่" (Financial Infrastructure) ให้แข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ตลาดทุน และองค์กรควบคุมที่เข้มแข็ง นักลงทุนแบบสถาบัน (Institutional Investor) สื่อมวลชนที่ทรงประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และตรวจสอบสถานการณ์ ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องสำหรับนักลงทุนทั่วไป ฯลฯ จึงเกิดขึ้น

ความพยายามในการร่าง พรบ. ที่เกี่ยวกับหลักทรัพย์และตราสารการเงิน การอนุญาตให้ตั้งผู้ดูแลผลประโยชน์ (Trustee) การจดัตั้งสถาบันรับจัดชั้นหนี้ (Credit Rating Agency) และการอนุญาตให้บริษัทหลักทรัพย์จัดตั้งและบริหารกองทุน ด้วยการยกเลิกเพดานดอกเบี้ย และการยกเลิกอุปสรรคของการไหลของเงินตราต่างประเทศ ตัวอย่างผลงานเหล่านี้ล้วนเป็นความพยายามในการที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้กับโลกการเงินยุคใหม่ของไทยแทบทั้งสิ้น

ดังนั้น จะไม่เป็นการแปลกเลยที่เราอาจจะได้เห็นวิธีการระดมทุนแบบแปลกใหม่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

เราอาจจะได้เห็นบริษัททั่วไปที่ไม่ได้เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทำการระดมทุนจากประชาชนทั่วไปได้โดยตรง โดยไม่ต้องกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นอีกต่อไป ซึ่งอาจจะทำได้โดยการออกหุ้นชนิดต่าง ๆ เช่น หุ้มบุริมสิทธิ์ และหุ้นสามัญ หรือหุนกู้ / หุ้นกู้แปลงสภาพ ขายให้แก่ประชาชนทั่วไปได้เลย

โดยที่หุ้นเหล่านั้นอาจจะถูกนำไปซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้อีกทอดหนึ่งในตลาด O-T-C

นอกจากนี้ การกู้เงินโดยตรงจากประชาชนอาจจะถูกการกระทำผ่านเครื่องมือทางการเงินแบบใหม่ ๆ ที่เรายังไม่เคยเห็นมาก่อนในเมืองไทย เช่น Real Estate Appreciated Bond / Senior Subordinated Paper

โดยที่บริษัทที่ออกตราสารบางอย่างอาจนำสินทรัพย์ที่ตัวเองครอบครองอยู่มาวางค้ำประกันการจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นคืนกับผู้ลงทุน ทรัพย์สินที่สามารถนำมาวางค้ำประกันตราสารได้นั้นอาจเป็น "ลูกหนี้"

ซึ่งอาจแยกย่อยไปอีกว่าเป็นลูกหนี้การค้า ลูกหนี้ที่เกิดจากการปล่อยจำนองของสถาบันการเงิน ลูกหนี้ที่เกิดจากการปล่อยกู้แบบเช่าซื้อ หรือลูกหนี้ที่เกิดจากลูกค้าบัตรเครดิต

นอกจากลูกหนี้แล้ว ยังมีอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีความมั่นคงกว่าลูกหนี้เพราะเป็นสินทรัพย์ถาวร (Hard Asset)

กระบวนการในการกู้เงินโดยนำสินทรัพย์แปลงเป็นตราสารออกขายด้วยการนำเอาสินทรัพย์นั้น ๆ วางค้ำประกันไว้ดังกล่าวมาแล้วนั้นเรียกว่า "Asset Securitization"

Asset Securitization เป็นกระบวนการสร้างสภาพคล่องให้กับสินทรัพย์ด้วยการแปลงเป็นตราสารที่เปลี่ยนมือได้แล้วนำออกขาย ซึ่งตราสารที่นิยมนำออกขายมักจะมีลักษณะเป็นตราสารแห่งหนี้ (Debt Instrument) เสียเป็นส่วนใหญ่

ว่าไปแล้วก็เปรียบเสมือนการกู้เงินด้วยการออกตราสารแห่งหนี้ ซึ่งอาจจะออกในรูปของหุ้นกู้ขายให้แก่ผู้ให้กู้ คือ นักลงทุนที่ซื้อหุ้นกู้นั้น โดยใช้สินทรัพย์หรือรายรับที่เกิดจากสินทรัพย์นั้นๆ มาวางค้ำประกันหุ้นกู้ดังกล่าว เพื่อให้นักลงทุนมีความมั่นใจในกรณีที่เกิดการผิดสัญญา (Default) ขึ้น

ถ้ามองในแง่ของผู้ออกหุ้นกู้ (Inssuer) เช่น บริษัททั่วไป การกระทำแบบนี้เป็นการเพิ่มทางเลือกในการระดมทุนให้แก่เขาอีกทางหนึ่ง ซึ่งจะสามารถทำให้เขากู้เงินได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่านสถาบันการเงิน (เช่น ธนาคารพาณิชย์) จึงมักจะทำให้มีต้นทุนของเงินที่ต่ำกว่าการกู้แบบเก่า

และถ้ามองในแง่ของผู้ลงทุน ซึ่งเสมือนเป็นผู้ให้กู้ หุ้นกู้เหล่านี้ก็เป็นหลักทรัพย์อย่างหนึ่งที่นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้นอกจากหุ้นสามัญหรือหุ้นกู้ชนิดอื่น ๆ นอกจากนั้น นักลงทุนยังสามารถนำไปขายต่อในตลาดรองเพื่อหา Capital Gain ได้อีกด้วย

ในอนาคต ถ้ามีการอนุญาตให้บริษัทหลักทรัพย์ทั่วไปจัดตั้งและบริหารกองทุนได้แล้ว อาจมีการจัดตั้งกองทุนที่เลือกลงทุนเฉพาะกับหลักทรัพย์ประเภทที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน (Asset-Backed Security) เท่านั้น ซึ่งก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนทั่วไปที่จะได้เข้าไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนนั้น ๆ แทนการเข้าไปซื้อหุ้นนั้นโดยตรง

โดยปกติ ผลตอบแทนของหลักทรัพย์ประเภทนี้จะสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล และดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร แต่จะต่ำกว่าผลตอบแทนของหุ้นสามัญ ในต่างประเทศหลักทรัพย์นี้ได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Mortgage-Backed Security (MBS)

เป็นที่น่าเสียดายสำหรับนักลงทุนในประเทศไทยที่ไม่มีโอกาสได้ลิ้มลองกับหุ้นชนิดนี้ เพราะเรามีอุปสรรคมากมายที่เป็นขวากหนามปิดกั้นไม่ให้เกิด Securitization ขึ้นได้

แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยอิทธิพลของ "โลกานุวัตรของนวัตกรรมทางการเงินสมัยใหม่" เชื่อแน่ว่า ไม่ช้าก็เร็ว กระบวนการนี้จะต้องเกิดขึ้นในตลาดทุนไทยอย่างแน่นอน

เมื่อถึงเวลานั้น นักลงทุนไทยจะได้มีหุ้นชนิดใหม่ให้ได้ลุ้นกันเล่นแทนการที่ต้องมานั่งเงี่ยหูฟังข่าวลือเรื่องเพิ่มทุน สปลิทหุ้นอันเสมือนหนึ่งเป็นวังวนแห่งเทพนิยายน้ำเน่า บนเวทีของความโลภของคนบางกลุ่มที่มีจิตสำนึกที่เหนี่ยรั้งการพัฒนาตลาดทุนไทย

รายงานโดย ทักษ์ศิล ฉัตรแก้ว

ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลตลาดทุน บริษัทบริการข้อมูลผู้จัดการ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us