|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ธุรกิจโรงแรมซบต่อเนื่อง ทีเอชเอ เผยผู้ประกอบการไม่สามารถปรับขึ้นอัตราค่าห้องพักได้ตามต้นทุนที่แท้จริง กระท่อนกระแท่นขึ้นได้แค่ 5% สวนทางคู่แข่ง สิงคโปร์ ฮ่องกง และเวียดนามเหตุพิษเศรษฐกิจรุมเร้า คนไทยเปลี่ยนเป็นเที่ยวแบบไม่ค้างคืน แถม จำนวนห้องพักยังโอเวอร์ซัพพลาย วอนรัฐเร่งแก้ไข พร้อมคุมเข้มใบอนุญาต
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ อุปนายก สมาคมโรงแรมไทย หรือ ทีเอชเอ เปิดเผยว่า ในปีนี้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมไม่สามารถปรับขึ้นราคาห้องพักได้ตามความเป็น โดยปรับได้เพียง 5-7% เท่านั้น จากทุกๆปีที่ผ่าน ทุกโรงแรมจะเฉลี่ยปรับขึ้นค่าห้องพักที่ 10-12% ที่เป็นเช่นนี้ มาจาก 2 สาเหตุหลัก คือ ปัญหาโอเวอร์ซัพพลาย เนื่องจากมีกลุ่มนักธุรกิจ สนใจเข้ามาลงทุนเปิดโรงแรมจำนวนมาก โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร โดยปีนี้เพียงปีเดียว มีโรงแรมเปิดใหม่ในกรุงเทพมากกว่า 3,000 ห้อง ทั้งนี้ยังไม่นับรวมเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์
ส่วนสาเหตุที่ 2 คือปัญหาเศรษฐกิจ และ การเมืองของประเทศไทย ส่งผลให้ภาคธุรกิจหดตัว การเดินทางเพื่อมาเจรจาติดต่องาน หรือ มองหาลู่ทางการลงทุนลดน้อยลง ตรงนี้ จะส่งผลกระทบต่อโรงแรมที่อยู่ในกรุงเทพอย่างชัดเจน เพราะ หากเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว หากไม่มั่นใจในความปลอดภัย ก็สามารถเลือกเดินทางไปเดสติเนชั่นที่เป็นจังหวัดท่องเที่ยวเลยก็ได้ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เกาะสมุย เป็นต้น
ขณะเดียวกัน โรงแรมที่อยู่ในต่างจังหวัดก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ จากตลาดของคนไทย โดยเฉพาะโรงแรมระดับ 3-4 ดาว เนื่องจากคนไทยมีการเดินทางแบบค้างคืนลดลง เปลี่ยนพฤติกรรมมาเป็นเดินทางเป็นเช้าไปเย็นกลับ ในจังหวัดใกล้ๆ ส่วนตลาดประชุมสัมมนาก็ถูกตัดงบลงไปบ้างทั้งภาครัฐและเอกชน
ดังนั้นจึงต้องการให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย เช่น การควบคุมการออกใบอนุญาตเปิดโรงแรม ให้อยู่ในจำนวนที่พอดี หรือ เรื่องของการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวของคนไทย โดยเฉพาะในช่วง ไตรมาสสุดท้าย นอกจากนั้น ยังควรให้ความสำคัญเรื่องของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อสร้างบรรยากาศด้านการท่องเที่ยวให้เกิดมีขึ้น
“ตอนนี้ยอมรับว่า การเดินทางท่องเที่ยวจะเงียบกว่าทุกปี โดยเฉพาะในตลาดคนไทย ที่ยังไม่กลับมาเดินทางท่องเที่ยวแบบค้างคืนเหมือนเดิม ซึ่งเพราะปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ที่ทำให้ทุกคนต้องใช้จ่ายแบบประหยัด ทำให้ โรงแรมไม่สามารถปรับขึ้นราคาห้องพักได้ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งต่างจาก สิงคโปร์ ฮ่องกง และเวียดนาม ที่เค้าปรับขึ้นราคาห้องพักได้ตามมาตรฐาน คือเฉลี่ย 10-15% และ ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปจำนวนมากอีกด้วย ซึ่งราคาโรงแรมในประเทศไทย เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน แม้แต่เวียดนาม ถือว่าเรามีราคาถูกกว่าเขามากอยู่แล้ว” นายประกิจ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขอัตราเข้าพักโรงแรมในกรุงเทพฯเฉพาะเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา เข้าพักเฉลี่ยที่ 68% ต่ำกว่าเดือนกันยายน 2550 ประมาณ 3% ซึ่งถือเป็นอัตราเข้าพักที่ต่ำอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี ทั้งที่เริ่มเข้าสู่ฤดูไฮน์ซีซั่นแล้ว ส่วนภาคเหนือ เฉพาะจังหวัดเชียงราย และ เชียงใหม่ เริ่มมีอัตราเข้าพักที่ดีขึ้น โดยที่เชียงราย อัตราเข้าพักเฉลี่ยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 70% เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากสภาพอากาศที่เริ่มมีอุณหภูมิลดต่ำลง ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ เริ่มเดินทางเข้าพื้นที่เร็วกว่าทุกปี
จากอัตราเข้าพัก ที่ลดลงเกือบทุกๆเดือน ของหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ภาคอีสาน และ ภาคเหนือ ทำให้มีแนวโน้มว่า ภาพรวมของอัตราเข้าพักเฉลี่ยโรงแรมทั้งประเทศในปีนี้ อาจลดลง 9-10% จากปกติ จะต้องเติบโตไม่น้อยกว่า 10%
|
|
|
|
|