โกลเด้นท์แลนด์ควานหาฝั่ง หลังดึง“สหัส ตันติคุณ” นั่งบริหาร เล็งเสนอบอร์ดจับเฉพาะตลาดบน ระบุทำน้อย กำไรงาม พร้อมชี้ผลสำรวจบ้านไฮเอนด์ในตลาดมีน้อย หากเศรษฐกิจฟื้นยอดขายทะลัก แถมปรับการก่อสร้างเลิกจ้างบุยส์-ไทย หันใช้ผู้รับเหมารายกลาง-เล็กชี้ต้นทุนถูกกว่า แจงยอดขายไตรมาส 3 กว่า 400 ล้านบาท เตรียมอีเวนท์ตามโครงการนำสินค้าในมือ 4,000 ล้านบาทออกขาย

นายสหัส ตันติคุณ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการและกรรมการผู้อำนวยการโครงการบ้านจัดสรร บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือGOLD เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างการดำเนินงานใหม่ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องหลังจากที่ผู้บริหารชุดเก่าได้ลาออกไปทำให้งานหยุดชะงัก โดยเฉพาะงานด้านการตลาด ส่งผลให้ยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกทำได้เพียง 483 ล้านบาท จากเป้าหมายการขายโครงการแนวราบทั้งปี 1,354 ล้านบาท หรือโต 15.5%

“นับจากผู้บริหารชุดเก่าได้ลาออกไป ก็ไม่มีการทำการตลาดเลย จะเห็นได้จากป้ายบิลบอร์ดของบริษัท แทบจะไม่ให้เห็นเลย แต่โชคดีที่ยังมีบริษัท โกเด้นท์ พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส บริหารจัดการโครงการให้ทำให้สภาพโครงการยังดูดีอยูตลอด” นายสหัส กล่าวเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องดำเนินการต่อคือ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ (บิสสิเนสดีเวลลอปเม้นท์) ต้องหาผู้ที่มาดูแลรับผิดชอบในการจัดหาซื้อที่ดิน ซึ่งได้มีการปรับแผนการว่างจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างใหม่ จาก บริษัท บุยส์-ไทย ( Bouygues-Thai ) ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ มาเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดกลางและเล็กแทน เพื่อลดต้นทุนการก่อสร้างแต่ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐาน เนื่องจากอัตราค่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดกลางและเล็กจะถูกกว่ารับเหมารายใหญ่ อีกทั้ง การก่อสร้างบ้านจัดสรรเป็นการสร้างตามยอดสั่งซื้อหรือการจองบ้าน (ออเดอร์)

นายสหัสกล่าวว่า ในกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ จะเตรียมเสนอแผนการดำเนินงานในส่วนของโครงการบ้านจัดสรรต่อคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อวางแนวทางในการดำเนินธุรกิจของบริษัทรวมถึงแผนการดำเนินงานระยะยาว ส่วนแนวทางที่เตรียมเสนอคือ จับตลาดรดับบน(ไฮเอนด์) เนื่องจากเห็นว่า ปัจจุบันสินค้าระดับนี้ผลิตเข้าสู่ตลาดน้อยมาก ในขณะที่ยอดขายยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะไม่ได้ขายดีเช่นเดียวกับตลาดอื่น อีกทั้งยังมีกำไรสูงกว่า แต่มีข้อเสียที่ยอดขายไม่สูงทำให้อัตราการเติบโตดูเหมือนจะน้อย ส่วนการพัฒนาบ้านระดับกลาง-ล่างนั้น มีข้อยุ่งยากต้องผลิตสินค้าปริมาณมาก แต่จะทำให้ยอดขายและอัตราการเติบโตของบริษัทมีสูงส่วนกำไรน้อยกว่าระดับบน

“โดยส่วนตัวเห็นว่า ด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้งประกอบกับแนวโน้มตลาดบ้านหรูนั้น มีสินค้าออกสู่ตลาดน้อยลง เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ หันไปเจาะตลาดระดับกลาง-ล่าง จึงทำเกิดโอกาสในการขาย อีกทั้งการขายบ้านหรูนั้นทำให้ได้กำไรสูงกว่าบ้านระดับกลาง-ล่าง”

ปัจจุบันบริษัทมีโครงการแนราบ 4 โครงการ มีมูลค่าที่เหลือขาย 4,000 ล้านบาท และในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ 1,354 ล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนแรกมียอดขายกว่า 890 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 456 ล้านบาท เป็นยอดขายที่จะต้องเร่งให้ได้ในช่วงไตรมาส 4/2550 ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้ราย(แบ็กล็อก)ได้จำนวน 1,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มทะยอยรับรู้ในอีก 8 เดือนข้างหน้า

ส่วนแนวทางการทำตลาดนั้น เตรียมจัดกิจกรรมการขาย(อีเวนต์) ในแต่ละโครงการ เพื่อเสนอขายแก่ลูกค้า โดยล่าสุดเตรียมเปิดเฟสใหม่ในโครงการ โกเด้นท์ เฮอริเทจ บนเนื้อที่ 54 ไร่ จำนวน 89 ยูนิต ราคา 12-40 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,330 ล้านบาท โดยเริ่มเปิดพรีเซลส์มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปัจจุบันมียอดขายแล้ว 10 ยูนิต