Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน31 ตุลาคม 2550
ศึกชิงตลาดอาหารญี่ปุ่น6,000ล. “โออิชิ”ซื้อแฟรนไชส์เสริมทัพ             
 


   
www resources

โฮมเพจ ร้านอาหารโออิชิ
โฮมเพจ โออิชิ กรุ๊ป

   
search resources

โออิชิ กรุ๊ป, บมจ.
Food and Beverage




ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นแข่งเดือด ผลพวงเอฟทีเอ เปิดกว้างภาษีต่ำลง โออิชิ ปรับตัวรับศึกหนัก คู่แข่งดาหน้าตอดแชร์ตลาดรวม 6,000 ล้านบาท ทุ่ม 200 ล้านบาท ทำตลาดเชิงรุก เปิดอีก 20 สาขา พร้อมเจรจาซื้อแฟรนไชส์แบรนด์ญี่ปุ่นเข้ามาเปิดอีกเพื่อเสริมพอร์ต

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในปีหน้าจะมีการแข่งขันสูงมากขึ้น ผลพวงจากเอฟทีเอระหว่างไทยกับญี่ปุ่นที่ภาษีต่างๆจะลดลง ทำให้แบรนด์ญี่ปุ่นเข้ามาในไทยมากขึ้นทั้งการซื้อแฟรนไชส์ของคนไทยและที่ญี่ปุ่นเข้ามาเอง เพราะตลาดที่ญี่ปุ่นอิ่มตัวแล้ว แต่ตลาดไทยยังเติบโตได้อีกมาก รวมทั้งการแข่งขันของผู้ประกอบการเดิมในตลาดด้วย

ขณะที่มีหลายแบรนด์ที่เป็นรายใหญ่เป็นเชนมีความแข็งแกร่งเช่น โออิชิ ฟูจิ เซน และแบรนด์ใหม่ๆเช่น โอโตยะ ยาโยอิ เป็นต้น ก็ต้องปรับตัวรับการแข่งขัน โดยมูลค่าตลาดอาหารญี่ปุ่นมีมากกว่า 5,000- 6,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตกว่า 20% ทุกปี

สำหรับแผนการลงทุนและขยายตลาดของโออิชิจากนี้ไปจะทำตลาดในเชิงรุกมากขึ้น จากการทำธุรกิจด้านอาหารญี่ปุ่นมากว่า 8 ปีในไทย โดยปีหน้ามีแผนใช้งบลงทุนรวม 200 ล้านบาท มากกว่าทุกปีที่ใช้ประมาณ 100 กว่าล้านบาทเท่านั้น เพื่อเปิดสาขาใหม่รวมกว่า 20 สาขา จากเดิมเฉลี่ยเปิดใหม่ 10 สาขาต่อปีเท่านั้น

แผนการลงทุนขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาที่จะซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่นจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาเปิดบริการในไทย คาดว่าอย่างช้าต้นปีหน้าจะสรุปการเจรจาได้ ทั้งนี้การซื้อแฟรนไชส์เข้ามาเพื่อต้องการสร้างความแข็งแกร่งและครบวงจรให้กับธุรกิจอาหารของโออิชิ แต่จะไม่ซ้ำซ้อนกับที่ทำอยู่แต่จะเสริมซึ่งกันและกัน โดยเจรจาหลายแบรนด์แต่คาดว่าจะเลือกแบรนด์เดียวก่อน ติดระดับท็อปไฟว์ของญี่ปุ่น

ส่วนการขยายสาขาปีหน้าประกอบด้วย จุดขายแบบเดลโก้ 9 สาขา ปัจจุบันมี 3 สาขาและภายในสิ้นปีนี้จะมีครบ 5 สาขา, ร้านชาบูชิ เปิดอีก 4 สาขา, ร้านโออิชิราเมน เปิดอีก 4 สาขา, ร้านซูชิบาร์ เปิดอีก 2 สาขาและ ร้านโออิชิบุฟเฟ่ต์ เปิดอีก 1 สาขา จากปัจจุบันที่มีสาขารวมกันทั้งสิ้น 80 กว่าสาขา จาก 12 แบรนด์ ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 35% จากตลาดอาหารญี่ปุ่นรวม 5,000-6,000 กว่าล้านบาท

นอกจากนั้นล่าสุดยังได้เปิดตัวหนังโฆษณาสำหรับธุรกิจอาหารเป็นครั้งแรกของโออิชิในรอบ 8 ปี อีกด้วย โดยจะใช้งบตลาดรวม 20 ล้าบาทในช่วง 2 เดือนท้ายของปีนี้ซึ่งหนังโฆษณาชื่อว่า “ใครๆก็โออิชิ” ภายใต้คอนเซ็ปท์ “นึกถึงอาหารญี่ปุ่น นึกถึงโออิชิ” โดยมีสื่อสนับสนุนอื่น กิจกรรมการตลาดครบวงจร รวมทั้งจัดโปรโมชั่นพิเศษประจำเดือน เพื่อตอกย้ำแบรนด์ ส่วนปีหน้าตั้งงบตลาดไว้ 5% ของยอดขายกลุ่มอาหาร

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทฯจะมีแผนรุกธุรกิจอาหารในเชิงรุกแล้ว แต่ก็ยังคงสัดส่วนรายได้ของบริษัทในปีหน้าไว้ที่ ธุรกิจเครื่องดื่ม 60% ธุรกิจอาหาร 40% เพิ่มจากเดิมในปีนี้อยู่ที่ เครื่องดื่ม 70% อาหาร 30% จากรายได้รวม 4,000 ล้านบาท ของบริษัทฯในปีนี้ โดยธุรกิจเครื่องดื่มมีอัตราเติบโต 13% ธุรกิจอาหารเติบโต 10% ส่วนกรณีหากบริษัทฯสามารถซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่นได้สำเร็จก็จะพยายามรักษาระดับรายได้จากแฟรนไชส์ไว้ที่ 20%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us