Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ธันวาคม 2534








 
นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2534
โตแบบไม่มีความฝัน             
 


   
search resources

ทรี ไลอ้อน
สุชาดี มณีวงศ์
TV




จากมันสมองและสองมือของลูกผู้หญิงคนหนึ่งที่มีวิชาติดตัวเพียงแค่ใบประกาศนียบัตรชั้นมัธยมต้น แต่สามารถสร้างธุรกิจให้ขยายใหญ่โตครบวงจรในปัจจุบันได้ จึงเป็นเรื่องที่น่าจะได้รับการกล่าวถึง

สุชาดี มณีวงศ์ เจ้าของเสียงเย็น ๆ เรียบง่ายของรายการกระจกหกด้าน ที่ฉายทางทีวีช่อง 7 ทุกวันช่วงค่ำ กำลังขยายอาณาจักรของตนเองให้ครบวงจรตามพลังในการทำงานที่เธอมีอยู่

เธอเริ่มจากการเปิดบริษัททรี ไลอ้อน ซึ่งเป็นโปรดักชั่นเฮาส์ผลิตรายการสู่โทรทัศน์และทำรายการสปอตวิทยุ ก็คือบริษัทที่ทำการผลิตรายการกระจำหกด้านและรับจ้างผลิตสารคดีทั่วไปในปัจจุบันนี้

การประสบความสำเร็จในด้านการผลิตรายการสารคดีอย่างมากมายนั้น สุชาดีบอกว่า เธอมีส่วนช่วยที่เป็นมืออาชีพร่วมล้มลุกคลุกคลานมากับเธออย่างจริงจัง คือ ดรล์ รัตนทัศนีย์ ซึ่งก่อนจะมาอยู่ทรี ไลอ้อนนี้ ดรล์เป็นผู้ที่อยู่ในวงการบริษัทโฆษณาเป็นมือครีเอทีฟจากลินตาสมาก่อน

สุชาดี ยอมรับว่า ความสำเร็จที่ได้รับไม่ใช่มาจากมันสมองของเธอเองทั้งหมด แต่มาจากความร่วมมือของเพื่อนที่ช่วยกันสร้างขึ้นมาให้บริษัทเล็ก ๆ ขยายใหญ่โต ขณะเดียวกันแรงจากความตั้งใจทำงานของพนักงานที่เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงก็เป็นแรงหนุนให้ทรีไลอ้อนก้าวมาได้ไกลจากศูนย์จนมีรายได้ 50 ล้านบาทในทุกวันนี้

แม้ว่าวงการโปรดักชั่นเฮาส์จะมีปัญหาเรื่องการซื้อตัวพนักงาน ปริมาณการโยกย้ายงานของบุคลากรในองค์กรเหล่านี้มีสูงเหมือนเช่นวงการโฆษณาก็ตาม แต่ทรี ไลออนอาจเรียกได้ว่าไม่คอยประสบปัญหาการซื้อตัว ทั้งนี้เพราะนโยบายในการบริหารงานของสุชาดี คือ การสร้างบุคลากรของทรี ไลอ้อนขึ้นมาเองจากการฟูมฟักให้ตั้งไข่เมื่อเริ่มต้นและผลักดันให้โตทันความต้องการ

"การสร้างบุคลากรของตนเองขึ้นมาโดยรับเด็กจบใหมไม่เป็นงานเข้ามาฝึกฝนจนชำนาญงาน และตั้งให้เขาใหญ่โตตามความสามารถ แต่ละคนสามารถป้องกันปัญหาสมองไหลได้ดี เพราะบุคคลเหล่านี้เป็นผู้ที่มีการศึกษาสูง ความบริสุทธิ์ทางความคิด อุดมการณ์ และคุณธรรมในหัวใจมีอยู่สูง จึงกลายเป็นเรื่องที่เราไม่ได้ผูกมัดเขาด้วยเงิน แต่การผูกตัวด้วยหัวใจมีค่าเหนือสิ่งอื่นใด" สุชาดี มณีวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัททรีลเลี่ยนส์บริษัทในเครือทรี ไลอ้อน กล่าวกับ "ผู้จัดการ"

การเติบโตของบุคลากรภายในองค์กรย่อมหมายถึงการเติบโตของบริษัทฯ ด้วย สุชาดีเชื่อเช่นนั้น !!!

ว่ากันตามจริงแล้ว การเติบโตของทรี ไลอ้อนเป็นเรื่องธรรมดาของบริษัทเกิดใหม่ที่ทั่วไปก็เป็นเช่นนี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจและสมควรหยิบยกมากล่าวถึง คือ ทรี ไลอ้อน โตขึ้นมาอย่างไม่มีระบบบริหารงานแบบสากล คือ MANAGEMENT BY OBJECTIVE (MBO)

หมายความว่า สุชาดีไม่มีเป้าหมายในการทำงาน หรือวางแผนในอนาคตไว้ล่วงหน้า และเดินตามแผนงานที่วางไว้ แต่สุชาดีทำงานอย่างถือคติ "ทำวันนี้ให้ดีที่สุด" ซึ่งเหมือนกับให้บริษัทอยู่ไปได้ในวัน ๆ หนึ่งเท่านั้น หรืออาจเรียกได้ว่าทำงานไปแบบไม่มีความใฝ่ฝัน

"การที่ยึดคติทำวันนี้ให้ดีที่สุด ไม่ได้หมายความว่า ไม่ให้บริษัทโต บริษัทจะขยายตัวไปตามกลไกของมันเองด้วยพื้นฐานของความมั่นคง หากเราทำวันนี้ซึ่งเป็นรากฐานที่แข็งแรงแล้ว วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็ตาม ทรี ไลอ้อนจะไม่มีวันล้ม ซึ่งอาจหมายถึงว่า การเติบโตจะเป็นไปอย่างช้า ๆ ที่ไม่เร่งร้อนก็ได้" สุชาดี กล่าวถึงเหตุผลที่ค่อนข้าง CONSERVATIVE

ทรี ไลอ้อน เติบโตมาจากการทำรายการสารคดีกระจกหกด้าน จนสามารถสร้างชื่อเสียงในวงการและได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี ทุกวันนี้ทรี ไลอ้อน จึงมีรายการผลิตสารคดีเพิ่มอย่างมากมาย

อาทิ รายการในวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือวันหยุดพิเศษ ทรี ไลอ้อน ได้เข้าไปทำรายการสารคดีบันทึกวันหยุด สารคดีเหล่านี้โดยส่วนใหญ่จะยึดแนวเรื่องจริงที่เกิดในสังคมกรุงเทพฯ ทุกวันนี้ อันเนื่องมาจากปัญหาสิ่งแวดล้อมหรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ ซึ่งเป็นพิษเป็นภัยต่อสังคมไทย

นอกจากนี้ ในปีหน้าซึ่งเป็นปีที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระชนมายุครบ 60 พรรษา ทางทรี ไลอ้อนได้รับเกียรติและความไว้วางใจจากสำนักพระราชวังให้ทำการผลิตรายการสารคดีชีวประวัติของพระองค์ท่านต่อจากที่บริษัทแปซิฟิค คอมมิวนิเคชั่นที่สมเกียรติ อ่อนวิมลทำอยู่ในปีนี้ ซึ่งเป็นการผลิตรายการที่ใช้งบประมาณหลายล้านบาท

รายการบันทึกวันหยุดแม้จะเป็นสารคดีแต่ก็จะต่างกับรายการสารคดีกระจกหกด้านโดยสิ้นเชิง คือ กระจกหกด้านจะเป็นเรื่องแห้ง ๆ ที่เกิดขึ้นมาแล้วในอดีตและนำมาเล่ากันฟัง โดยฝังแง่คิดและบทเรียนในอดีตเพื่อเป็นแง่คิดข้อเตือนใจในปัจจุบันได้

สุชาดี กล่าวว่า ทรี ไลอ้อนมีบุคลากรหลัก ๆ อยู่ 3 คน คือ ดรล์ รัตนทัศนีย์ ซึ่ง ณ วันนี้มีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการพรชัย ธีระลักษณ์ เป็นบรรณาธิการกระจกหกด้าน และปฤษณา รามสูรย์ เป็นผู้จัดการทั่วไปและทำหน้าที่บริหารด้านการเงินด้วย ซึ่งเป็นตำแหน่งใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ทรี ไลอ้อนอยู่มาได้แบบไม่มีระบบบริหารและวางแผนการเงิน

"เงินที่นำมาลงทุนผลิตรายการและซื้อเวลาอยู่ทุกวันนี้ ไม่ใช่มาจากการกู้เงินแต่มาจากน้ำพักน้ำแรงที่สะสมมาเองทั้งหมด หมายความว่า ถ้าจะลงทุนทำอะไรจะดูว่าต้องใช้เงินเท่าไร ก็จะเพียรพยายามทำงานและเก็บเงินจนพอใช้จ่าย แล้วจึงเริ่มลงมือทำ ทุกวันนี้ ทรี ไลอ้อน จึงเป็นบริษัทเดียวในเมืองไทยก็ว่าได้ที่ทำธุรกิจอย่างไม่มีหนี้สิน" สุชาดีเล่าถึงที่มาของความจำเป็นในการดึงเพื่อนซึ่งอดีตเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่าการเงินธนาคารเอเซียเข้ามาบริหารด้านการเงิน

นอกจากบุคลากรหลักทั้ง 3 คนที่กล่าวถึงแล้ว ทรี ไลอ้อนยังมีสายเลือดแท้ ๆ ของสุชาดีอีก 4 คนเข้ามาช่วยงานสืบทอดเจตนารมณ์ก่อนที่เธอจะเกษียณตัวเอง ซึ่งแต่ละคนจะเรียนในด้านที่จบออกมาช่วยงานบริษัทไดั้นที อาทิ แมสคอม ซาวน์ เอนจีเนีย เป็นต้น

เมื่อ ทรี ไลอ้อน เติบโตและมีหลักที่มั่นคงแล้วตามแนวความคิดทำวันนี้ให้ดีที่สุดได้แล้ว การขยายอาณาจักรต่อไปจึงเป็นเรื่องที่สุชาดีต้องทำเพื่อให้ครบวงจร ประกอบกับการเติบโตของบุคลากรภายในองค์กรเป็นไปอย่างรวดเร็วกลายเป็นเรื่องที่เธอต้องหาทางออกให้กับเขาเหล่านั้น

"ทรีลเลี่ยนส์" บริษัทเอเยนซี่เพื่อการซื้อสื่อโฆษณาจึงเกิดขึ้น เมื่อมีบริษัทผลิตรายการแล้ว บริษัทที่ซื้อสื่อขายสื่อ และรับทำโฆษณาน่าจะเป็นบริษัทที่รองรับความต้องการนี้ได้ดี !!!

สุชาดีบริหารทรีลเลี่ยนส์ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ โดยละทิ้งตำแหน่งในทรี ไลอ้อน ให้บรรดาเพื่อน ๆ เป็นผู้ดูแลแล้วตนเองออกมาบริหารงานบริษัทใหม่ โดยมุ่งหวังว่านอกจากการซื้อสื่อและขายสื่อแล้ว เธอจะใช้โปรดักชั่นเฮาส์ของเธอให้เป็นประโยชน์ในการผลิตโฆษณาด้วย ซึ่งบริษัทโฆษณาในปัจจุบันน้อยรายที่จะมีโปรดักชั่นเฮาส์เป็นของตนเอง

แม้ว่าสุชาดีจะบริหารงานอย่างถือคติ "ทำวันนี้ให้ดีที่สุด" เหมือนคนที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต แต่เธอก็ยังสร้างความหวังในอนาคตด้วยเหมือนกันว่า บริษัทที่เธอสร้างมาด้วยมันสมอง และสองมือของเธอนั้นจะกลายเป็นอาณาจักรที่ครบวงจรในอนาคตได้ก่อนที่เธอจะปลดเกษียณตัวเองเมื่อวัย 50 ปีมาถึงในอีก 5 ปีข้างหน้านี้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us