|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ พฤศจิกายน 2550
|
|
แก้วไวน์คริสตัลค่อยๆ หายไปจากตู้ทีละใบ ไม่ได้มีใครขโมย หากซุ่มซ่ามทำแตกเอง ขอบแก้วบางไม่ทนทานต่อการกระทบกับของแแข็ง หรือกระทบกันเอง รอยบิ่นเพียงนิดเดียวก็ต้องโยนทิ้งแล้ว เก็บไว้รังแต่จะเป็นภัยต่อผู้ใช้ บาดริมฝีปากเอาได้ง่ายๆ แก้วคริสตัลสำหรับดื่ม aperitif - เหล้าเรียกน้ำย่อยดื่มก่อนอาหารก็ประสบชะตาเดียวกัน เคราะห์ดีว่ามิใช่คริสตัลเริ่ดหรูที่อาจทำให้น้ำตาตกได้
เครื่องแก้วคริสตัลในตลาดไทยมักมาจากประเทศในยุโรปตะวันออก เพราะราคาถูกกว่าสินค้าที่มาจากยุโรปตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคริสตัลโบฮีเมีย ทว่าสินค้าชนิดเดียว กันนี้ขายในฝรั่งเศส ราคาสูงกว่ามากมายนัก จนอยากซื้อกลับบ้านทีเดียว
คริสตัลมีส่วนผสมออกไซด์ของตะกั่ว 24 เปอร์เซ็นต์ ยุโรปควบคุมคุณภาพของคริสตัล ด้วยการกำหนดให้คริสตัลต้องมีมาตรฐาน 3 อย่าง กล่าวคือ จำนวนตะกั่วความหนาแน่น และดัชนีหักเห หากไม่มีระดับที่กำหนดจะเป็นแค่แก้วที่มีเสียงเสนาะที่เรียกว่า verre sonore หรือ cristallin เท่านั้น
เครื่องแก้วคริสตัลของฝรั่งเศสมีหลายยี่ห้อตั้งแต่ยี่ห้อหรูอย่าง Christofle, Baccarat, Daum Lalique และ Saint-Louis เป็นอาทิและยังมียี่ห้อปานกลาง ซึ่งมีราคาสูงเช่นกัน คือ JG Durand ในภายหลังหายไปกลายเป็นยี่ห้อ Miskasa แทน อีกทั้งเครื่องแก้วที่ผลิต โดยบริษัทที่ผลิตเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารต่างๆ แก้วคริสตัลยี่ห้อที่นิยม ใช้ในครัวเรือนทั่วไปเห็นจะเป็น Cristal d'Arques - คริสตัลดาร์คส์
อาร์คส์ (Arques) เป็นเมืองที่อยู่ในจังหวัดปาส์-เดอ-กาเลส์ (Pas-de-Calais Lille) ทางเหนือของฝรั่งเศส เศรษฐกิจของเมืองขึ้นอยู่กับ การผลิตเครื่องแก้วและคริสตัลของบริษัท Arc International แต่ละครัวเรือนจะมีอย่าง น้อยหนึ่งคนที่ทำงานกับ Arc International ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวดูรองด์ (Durand)
จอร์จส์ ดูรองด์ (Georges Durand) ทำงานกับ Verrerie Cristallerie d'Arques ตั้งแต่ปี 1893 และซื้อกิจการของโรงงานนี้ในปี 1927 ต่อมาฌาคส์ ดูรองด์ (Jacques Durand) ผู้ลูก ซื้อเตาเผาที่สามารถผลิตแก้ว ได้อย่างต่อเนื่อง สินค้ายี่ห้อแรกคือ Luminarc ในปี 1950 ติดตั้งเครื่องเป่าแก้ว และผลิต แก้วทรงสูงในปี 1960 ทำให้สามารถผลิต สินค้าในจำนวนมากและมีราคาต่ำ ในปี 1958 ผลิตจานชามและเครื่องครัวเป็น แก้วทึบ ยี่ห้อ Arcopol และเริ่มผลิตแก้ว คริสตัลก้านสูงยี่ห้อ Cristal d'Arques แต่ละคอลเลกชั่นของ Cristal d'Arques มีชื่อขลังอย่าง Versailles, Pompadour, Rambouillet และ Longchamp ซึ่งเป็นคอลเลกชั่นที่ขายดีที่สุด กล่าวคือ 550 ล้านชิ้นในทั่วโลก ในปี 2005 Cristal d'Arques ฉลองครบ 25 ปี ของคอลเลกชั่นนี้ด้วยการผลิตคอล เลกชั่น Longchamp Folies เป็นคริสตัลสี
ฌาคส์ ดูรองด์ บริหาร Verrerie Cristallerie d'Arques เป็นเวลายาวนานถึง 70 ปี จึงเป็นที่ยอมรับนับถือของ พนักงานและชาวเมือง นัยว่าเขาจ้างพนักงาน ใหม่วันละ 1 คน เมื่อลูกหลานของพนักงานถึง วัยทำงาน ฌาคส์ ดูรองด์ จะบอกให้นำมาฝึกงานและทำงานในโรงงานทันที ทำให้พนักงานไม่ได้มีการศึกษาสูงนัก นอกจากนั้น ฌาคส์ ดูรองด์ ไม่ต้องการให้เกิดการประท้วง จึงให้พนักงานสัญญาว่าจะไม่ก่อให้เกิดปัญหา แลกเปลี่ยนกับงานที่หยิบยื่นให้ ด้วยเหตุนี้จึงไม่เคยเกิดกรณีพิพาทแรงงานเลยมาหลายสิบปีแล้ว สหภาพแรงงานที่มีอยู่ประกอบด้วย คณะกรรมการของบริษัท จนถึงปี 2003 Verrerie Cristallerie d'Arques เริ่มผลิตคริสตัลยี่ห้อ JG Durand ในปี 1983
ฌาคส์ ดูรองด์ เสียชีวิตในปี 1997 ทิ้งธุรกิจให้อยู่ในความดูแลของลูก 5 คน Verrerie Cristallerie d'Arques เปลี่ยนชื่อมาเป็น Arc International ในปี 2000 ผู้บริหารใหม่ซื้อกิจการต่างๆ ในปี 1999 ซื้อคริสตัลยี่ห้อ Salviati ของเมืองมูราโน ผลิตของใช้ประดับบ้านและเครื่องประดับ หากวาง สินค้าในระดับสูง ราคาจึงพลอยสูงด้วย และ ในปี 2000 ซื้อบริษัทจัดจำหน่ายของสหรัฐ อเมริกา ซึ่งพ่วงยี่ห้อคริสตัล Mikasa มาด้วย Arc International จึงหันมาใช้ Mikasa ในการผลิตเครื่องแก้วคริสตัลแทนชื่อ JG Durand พร้อมกันนั้นผลิตเครื่องแก้วสำหรับคนรุ่นใหม่ เน้นการดีไซน์ ชื่อ Studio Nova และในปี 2006 ซื้อกิจการ Newell Cookware Europe ผลิตเครื่องครัว ซึ่งเป็นแก้วทนความร้อนยี่ห้อ Pyrex
ในปี 1997 Arc International เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามรองจาก Peugeot ที่เมืองโซโชส์ (Sochaux) และ Michelin ที่เมืองแคลร์มงต์-แฟรองด์ (Clermont-Ferrand) หากธุรกิจเครื่องแก้วและคริสตัลมีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากประเทศที่มีแรงงานราคาถูกอย่างจีนและตุรกี ประกอบกับผู้บริโภครุ่นใหม่เปลี่ยนพฤติกรรม หนุ่มสาวในปัจจุบันนิยมเก็บออมสำหรับการท่องเที่ยวมากกว่าการซื้อเครื่องใช้ บนโต๊ะอาหารราคาสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องแก้วคริสตัล ผู้บริหารปัจจุบันของ Arc International จึงหันไปซื้อเครือข่ายการจัดจำหน่ายในประเทศต่างๆ และตั้งโรงงานในจีน สำหรับตลาดเอเชีย
การขยายเครือข่ายที่ใช้เงินลงทุนสูง ประกอบกับยอดขายไม่ได้ตามเป้าหมาย ตลาดอเมริกาถดถอยนับตั้งแต่เหตุการณ์ถล่มอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 และการอ่อนตัวของค่าเงินดอลลาร์ อีกทั้งหุ้นส่วน 3 ใน 5 ถอนตัวทำให้สมาชิกที่เหลือต้องซื้อหุ้น เหล่านั้นขึ้นมา ทำให้ Arc International ในวันนี้ประสบปัญหาสภาพคล่อง ไม่มีใครทราบ ว่าเกิดความเสียหายขนาดไหน เพราะ Arc International ไม่ค่อยเปิดเผยตัวเลขนัก ทราบ แต่ว่าบริษัทเคยประสบปัญหาการเงินมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2003 ซึ่งผู้บริหารขอปรับแผนเอง โดยมุ่งจะลดพนักงานจำนวน 4,000 คน ภายในปี 2008 ทุกวันนี้เตาเผาหลายเตาหยุด ทำงานแล้ว ตามรายงานของ Secafi Alpha ในปี 2006 Arc International ขาดทุนเป็นหนึ่งเท่าตัวของปี 2005 และมีหนี้สิน 388 ล้านยูโร โครงการเปิดโรงงานในรัสเซียจึงต้อง หยุดชะงัก
สภาวะการเงินของ Arc International ทำให้สหภาพแรงงานวิตก ด้วยว่าผู้บริหารย้ำ ถึงการลดพนักงานอีก 1,300 คน พนักงานที่จะถูกปรับออกจะประสบปัญหาการหางานใหม่ ด้วยว่าขาดการศึกษาเท่าที่ควร เพราะแต่ไหนแต่ไรมาต่างเข้าทำงานกับ Arc International ตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะเชื่อในความมั่นคง Arc International ประกาศขาย สองยี่ห้อในอาณาจักรของตน คือ Mikasa และ Salviati
ผู้บริหารเมือง Arques มองหาลู่ทางที่จะช่วยชาวเมือง Arques ยังมีที่ว่างเปล่าอีกมาก จำต้องดึงดูดอุตสาหกรรมอื่นๆ ให้มาตั้งโรงงาน เป็นการสร้างงานให้ชาวเมือง Arques
|
|
|
|
|