ไม่หวือหวานักสำหรับการครบรอบ 18 ปี ของการดำเนินธุรกิจเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ที่เพิ่งผ่านพ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา
งานนี้ไม่มีการจัดเลี้ยงยิ่งใหญ่ ไม่มีเวทีปราศรัย หรือจัดสัมมนาขนาด ยักษ์ชวนผู้คนไปร่วมแสดงความยินดี มีเพียงเทียบเชิญสื่อมวลชนร่วมดูการให้บริการแบบ "เทให้ทั้งใจ" ที่จังหวัดอยุธยา แบบเช้าไปเย็นกลับพร้อมกับผู้บริหารของบริษัท
วิกรม ศรีประทักษ์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหารที่ร่วมเดินทางไปด้วยถือโอกาสบอกว่านับจากนี้ เอไอเอสจะจัดกลุ่มการทำธุรกิจเสียใหม่ ให้เป็นรูปร่างและง่ายต่อความเข้าใจของคนทำงานเอง
ถ้าหากมองจากบนสุดของแผนผังโครงสร้างธุรกิจของเอไอเอส กลุ่มใหม่ที่จะมีการจัดขึ้นจะประกอบไปด้วย 3 ธุรกิจหลัก ทั้งธุรกิจที่ทำเงินอยู่แต่เดิม และธุรกิจที่จะเกิดขึ้นใหม่ หรืออยู่ในระหว่างการขออนุญาตจากภาครัฐเพื่อขอใบอนุญาตในการประกอบกิจการ
ธุรกิจทั้ง 3 ที่ว่าคือ ธุรกิจที่เรียกว่า Fixed, Mobile และ Solution โดย Fixed นั้นเป็นคำนิยามของกิจการที่เน้นการให้บริการ อินเทอร์เน็ตในแบบที่คนใช้งานอยู่กับที่ อาทิ บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต ธุรกิจให้เช่าช่องสัญญาณ หรือ leads line และธุรกิจใหม่อย่างธุรกิจ การให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สายอย่าง Wire Max ที่ยังต้องรอไลเซนส์คลื่นความถี่จากภาครัฐ
ส่วนธุรกิจ Mobile ที่เป็นธุรกิจทำเงินมหาศาลให้กับกลุ่มเอไอเอสมาแต่ไหนแต่ไร คือการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือจีเอสเอ็ม และ 3G ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และธุรกิจ Solution ที่ผนวก เอาไว้ระหว่างธุรกิจการให้บริการโซลูชั่นในการชำระเงินผ่านเครือข่าย ไร้สายหรือ mPay และธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ไร้สายทั้งหมด เช่น Phone One ธุรกิจโทรศัพท์ house brand ของเอไอเอส
ครบ 18 ปีของเอไอเอส ล่าสุดรายงานจำนวนลูกค้าเมื่อเดือน มิถุนายนที่ผ่านมา เอไอเอสมีลูกค้าแล้วเกือบ 23 ล้านราย แบ่งเป็นลูกค้าแบบจดทะเบียนทั้งสิ้น 2,653,000 ราย ลูกค้าในระบบเติมเงิน 20,038,000 ราย
ส่วนรายได้รวมของปี 2549 อยู่ที่ 91,428 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ 92,517 ล้านบาท ขณะที่ Net income อยู่ที่ 16,256 ล้านบาท
ว่ากันว่าปีหน้าประเทศไทยจะมีคนใช้โทรศัพท์อยู่ที่ 80% หรือ ประชากร 100 คนมีโทรศัพท์มือถือใช้ไปแล้ว 80 คน
19 ปี กับลูกค้า 20 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือของประชากรไทย เอไอเอสจะทำรายได้เพิ่มขึ้นเท่าไร และได้ลูกค้ามาอยู่ในมือของตนอีกเท่าไร ต้องคอยดูว่าแผนผังใหม่ของโครงสร้างธุรกิจปีที่ 18 จะให้ผลที่ดีแค่ไหน
|