|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ พฤศจิกายน 2550
|
|
อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่บัญชา ล่ำซำ เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้เกิดศศินทร์ ทำให้วิโรจน์ นวลแข ตั้งแต่สมัยยังเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ภัทรธนกิจ ที่มีเครือธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ตัดสินใจเลือกศศินทร์เป็นสถาบันการศึกษาเป้าหมายแห่งหนึ่งที่ภัทรธนกิจจะให้ทุนกับผู้บริหารไปเรียนต่อปริญญาโทด้านการบริหารจัดการ (MBA) จากที่นี่ ตั้งแต่รุ่นแรกที่เริ่มเปิดการสอนในปี 2526
"เป็นนโยบายและวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่มีมานานแล้วว่าเราจะสนับสนุนเรื่องการศึกษา นอกจากที่ศศินทร์แล้วเรายังให้ทุนผู้บริหารได้ไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทจากต่างประเทศอีกด้วย" สุวิทย์ มาไพศาลสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัทหลักทรัพย์ภัทรธนกิจคนปัจจุบันกล่าวกับ "ผู้จัดการ"
อย่างไรก็ตาม ศศินทร์กับภัทรฯ นั้นจัดว่ามีความผูกพันกันมานาน เพราะนับจากนักเรียนทุนรุ่นแรกในปี 2526 แล้ว ภัทรฯ ได้ให้ทุนกับผู้บริหารไปเรียนต่อศศินทร์ ต่อเนื่องมาทุกปี ปีละ 1 ทุน ต่อมาภายหลังที่ศศินทร์ขยายหลักสูตรมาสอน MM ภัทรฯ ให้ทุนเพิ่มเป็นปีละ 2 ทุน เพื่อเรียนทั้ง 2 หลักสูตร
การให้ทุนดังกล่าวได้สิ้นสุดลงเพราะประเทศไทย ต้องประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 และบงล.ภัทรธนกิจคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุนให้ธนาคารแห่งประเทศไทย เหลือเพียงธุรกิจหลักทรัพย์ที่มีเมอร์ลินลินช์เข้ามาถือหุ้น 50% และยกเลิกนโยบายการให้ทุนไปเรียนต่อ
แม้ว่าปัจจุบันภัทรฯ จะเหลือเพียงธุรกิจหลักทรัพย์ และหยุดให้ทุนการศึกษาไปเรียนต่อที่ศศินทร์ แต่ความผูกพันดังกล่าวก็ยังคงอยู่ โดย บล.ภัทรฯ ถือเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีศิษย์เก่าศศินทร์ร่วมทำงานอยู่ด้วยมากที่สุดจำนวนกว่า 20 คน เป็นนักเรียนทุนที่ยังทำงานต่อเนื่องมาตั้งแต่บริษัทยังมีนโยบายให้ทุนการศึกษา เหลืออยู่ 4 คน ที่เหลือเป็นพนักงานที่รับเข้ามาในภายหลัง
ในจำนวนศิษย์เก่าศศินทร์ที่เป็นนักเรียนทุนเก่า 4 คนที่เหลืออยู่ ปัจจุบัน 3 คนก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูง ทำหน้าที่ดูแลนโยบายและกำหนดทิศทางของบริษัท ได้แก่ บรรยงค์ พงษ์พานิช ประธานกรรมการ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าหลักสูตร MBA รุ่นแรก ปี 2526 พงษ์เทพ ผลอนันต์ กรรมการบริหาร และสุวิทย์ มาไพศาลสิน CEO ซึ่งเป็นศิษย์เก่าหลักสูตร MBA รุ่นที่ 3 ปี 2528
ดังนั้นหากจะยกให้ บล.ภัทรฯ เป็นตัวแทนของศิษย์เก่าศศินทร์ในส่วนของธุรกิจไฟแนนซ์ก็คงไม่เกินเลยไปนัก
ทุกวันนี้ศิษย์เก่าศศินทร์ที่อยู่ใน บล.ภัทรฯ กระจายไปทำงานอยู่ในหลายส่วน แต่ส่วนใหญ่จะดูแลลูกค้าบุคคล (Private Wealth) และมี 4 คนที่ดูแลด้านวาณิชธนกิจ (Investment Banking) ส่วนที่เหลือเป็นระดับพนักงานดูแลในส่วนหารายได้
สุวิทย์จบปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเริ่มทำงานกับ บงล.ภัทรธนกิจ ตั้งแต่เรียนจบจนถึงปัจจุบัน
นอกจากจะได้ทุนจากบริษัทไปเรียน MBA ที่ศศินทร์แล้ว สุวิทย์ยังมีโอกาสได้ไปเข้าคอร์สระยะสั้นที่เคลล็อกก์
เขากล่าวว่าการเรียน MBA ระหว่างในประเทศกับ ต่างประเทศแล้วไม่แตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ศศินทร์ที่ได้หลักสูตรและอาจารย์ผู้สอนมาจากทั้งเคลล็อกก์และวาร์ตัน
แต่สิ่งที่ได้รับจากการเรียนในประเทศไทย คือบรรยากาศการเรียนที่มีความใกล้ชิดกันมากกว่า ทำให้ผู้เรียนมีความสัมพันธ์ที่สามารถนำมาต่อยอดทางธุรกิจร่วมกันได้ในภายหลัง แม้ว่าจะจบการศึกษาออกมาแล้ว
|
|
|
|
|