เหลือเวลาอีกไม่นาน ปี 2550 ก็จะผ่านพ้นไปเพื่อก้าวเข้าสู่ปีใหม่ 2551

ในช่วงปกติ เวลานับจากเดือนนี้เป็นต้นไปจนถึงสิ้นปี สำหรับคนที่ทำงานประจำมักเป็นช่วงของการวางแผนพักผ่อน หลายคนวางโปรแกรมการเดินทางไว้ล่วงหน้าเตรียมยื่นใบลาพักร้อน เพื่อพาครอบครัวไปเปลี่ยนบรรยากาศ

เปรียบเสมือนเป็นการชาร์จแบตฯ เพื่อเตรียมพลังงานให้พร้อมรับกับการเริ่มต้นงานในปีใหม่

สำหรับคนที่ค้าขาย ช่วงนี้ของเวลาปกติมักจะเป็นช่วงที่มีบรรยากาศการค้าขายคึกคัก เพราะไม่มีอากาศร้อน หรือเมฆฝน พายุฝนเข้ามาเป็นอุปสรรค ทำให้การค้าขายต้องสะดุด

แต่สำหรับปีนี้กลับเป็นปีที่แตกต่างไปจากสมัยก่อน

เวลา 2 เดือนนับจากนี้ไปถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของประเทศไทย เพราะเป็นช่วงของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง

แม้จะมีการมองว่าการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นมาหลายครั้งในอดีต มักจะทำให้เงินสะพัด

แต่ก็เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ

นักธุรกิจหลายคนตัดสินใจหยุดกิจกรรมเพื่อรอดูว่าใครจะขึ้นมาเป็นผู้บริหารประเทศคนใหม่ มากกว่า

การวางแผนธุรกิจ การลงทุนที่เคยคิดเอาไว้คงต้องชะลอออกไป เพื่อรอดูนโยบายของรัฐบาลใหม่ว่าจะสามารถพลิกฟื้นภาวะอึมครึม ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมและการค้าขายที่ซึมเซา ซึ่งคนไทยต้องเผชิญมาเกือบ 2 ปีแล้วได้หรือไม่

ดังนั้น 2 เดือนนับจากนี้ไปจึงเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต้องจับตาดูสถานการณ์รอบด้านอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะสถานการณ์ภายในประเทศ

นิตยสาร "ผู้จัดการ" ในฐานะสื่อสื่อหนึ่ง ในมุมมองของเราก็คงไม่แตกต่างกัน เพราะเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นมาในช่วงนี้ย่อมมีความหมายต่อการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในหลายๆ ด้าน

นอกจากจะเป็นกำลังใจให้กับท่านผู้อ่านแล้ว เราคงจะต้องทำงานให้หนักขึ้น

เพราะข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงนับจากนี้ล้วนมีความหมายที่ซับซ้อน

เราต้องตีความข้อมูลข่าวสารเหล่านั้นอย่างดี ให้ละเอียด รอบคอบ และลึกซึ้งยิ่งกว่าช่วงเวลาปกติ

เนื้อหาที่เราจะนำมาเสนอนับจากนี้ต้องผ่านกระบวนการคัดกรองที่ดี เพื่อให้เป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านมากที่สุด

ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์
pundop@gotomanager.com