Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2533








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2533
ปฏิวัติเทคโนโยลีสื่อสาร FAX เฉือน TELEX ขาดลอย             
โดย ดนุช ตันเทอดทิตย์
 


   
search resources

Telecommunications




เมื่อแฟกซ์ได้เข้าสู่ตลาดในประเทศไทยเริ่มต้นจากการมีตลาดวงแคบ ๆ เมื่อ 6 ปีก่อน ปัจจุบันเป็นธุรกิจพันล้านที่นับวันจะโตวันโตคืนแฟกซ์ยี่ห้อดัง ๆ ของโลกสามสิบยี่ห้อลงแข่งขันแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดกันอย่างสนุกสนานและแล้วผลกระทบกลับกลายมาเป็นของเครื่องเทเล็กซ์ ที่อัตราการเติบโตของยอดผู้ใช้เริ่มที่จะลดลง หรือว่าคลื่นเทคโนโลยีของเครื่องแฟกซ์จะกลบกลืนเครื่องเทเล็กซ์เสียแล้ว

ธุรกิจกับ "ระบบข้อมูลข่าวสาร" เป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาโดยตลอด ในยุคสมัยของการพัฒนาทางด้านธุรกิจที่กระจายไปในส่วนต่าง ๆ ของประเทศ ต้องการการสื่อสารข้อมูลอย่างทั่วถึงสังคม ก็เข้าสู่สังคมแห่งข่าวสาร ๖INFORMATION SOCIETY) ที่นับวันทวีความสำคัญเพื่อที่จะให้การตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจนั้นมีการตัดสินใจที่ถูกต้อง และเหมาะสมอีกทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างข้อได้เปรียบเสียเปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจที่นับวันจะทวีความเข้มข้นมากขึ้นทุกวัน จนในปัจจุบันดูเหมือนจะเป็นสงครามทางด้านข่าวสารข้อมูล (INFORMATION WAR) ไปเสียแล้ว

ทุกวันนี้ข้อมูลข่าวสารที่องค์การธุรกิจต้องการไม่ใช่เป็นเพียงความถูกต้องเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงความรวดเร็วในการได้ข้อมูลเหล่านั้นมา เพื่อให้การตัดสินใจที่ถูกต้องเกิดขึ้นโดยเร็วเพื่อแย่งชิงโอกาสทางธุรกิจสร้างข้อได้เปรียบคู่แข่งขันมากที่สุดเท่าที่จะมากได้

ระบบการสื่อสารทางโทรคมนาคมที่ให้ความรวดเร็วในการส่งข้อมูลต่าง ๆ สำหรับบ้านเรานั้นเรารู้จักระบบ "เทเล็กซ์" เป็นอย่างดีมากกว่า 30 ปี แล้ว การสื่อสารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการให้บริการแก่ผู้เช่าเครื่องเทเล็กซ์จนในปัจจุบันมีผู้เช่าเครื่องเทเล็กซ์ร่วม 7 พันเครื่องได้อำนวยความสะดวกแก่องค์การและหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งราชการและเอกชนทั่วประเทศในการติดต่อสื่อสารกันทั้งในประเทศและระหว่างประเทศกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

ในปี 2513 ประเทศในอเมริกาเริ่มมีการพัฒนาระบบส่งข้อมูลข่าวสารที่รู้จักกันในชื่อ "แฟกซ์" (FACSIMILE:FAX) หรือที่เรียกกันเป็นทางการว่า "โทรสาร" ในปัจจุบัน มีการผลิตแฟกซ์เพื่อการธุรกิจออกสู่ตลาดครั้งแรก โดยบริษัท XEROX และเริ่มการผลิตและพัฒนาระบบกันมาตลอดทั้งในยุโรปและเอเชีย-ญี่ปุ่น

จนกระทั่งในปี 2521 ประเทศไทยก็ได้เริ่มรู้จักกับเทคโนโลยีนี้เป็นครั้งแรกในช่วงของการที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 8 โดยการแนะนำจากบริษัท KDD (KOKUSAI DENSHIN DENWA CO.LTD.) ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินทางด้านธุรกิจเกี่ยวกับการโทรเลข และโทรศัพท์ระหว่างประเทศของญี่ปุ่นจนกระทั่งได้เปิดบริการโทรสารผ่านทางชุมสายโทรศัพท์ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศในเดือนพฤษภาคม

ซึ่งนับเป็นจุดที่แฟกซ์ได้เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

ตั้งแต่นั้นมาทางเลือกในการส่งข้อมูลข่าวสารของธุรกิจต่าง ๆ ก็มีเพิ่มมาอีกทางเลือกหนึ่ง ในขณะที่เทเล็กซ์ยังคงมีความนิยมอยู่มากในช่วงนั้น

เทคโนโลยีของแฟกซ์นับได้ว่าเป็นสินค้าที่ได้สร้างความแตกต่างจากเทเล็กซ์ได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความสามารถในการส่งข้อมูลรูปภาพได้ ซึ่งเป็นจุดแตกต่างที่โดดเด่นของแฟกซ์ที่มีเหนือเทเล็กซ์ในขณะที่เทเล็กซ์เองสามารถส่งข้อมูลได้เพียงในลักษณะของตัวหนังสือเท่านั้น อีกทั้งที่แพร่หลายทั่วโลกก็คือการส่งข่าวสารในภาษาอังกฤษ ภาษาไทย จะมีอยู่ส่วนใหญ่ก็ในประเทศเท่านั้น ดังนั้นการเข้ามาในตลาดเมืองไทยของแฟกซ์จึงเรียกได้ว่าเป็นการเข้ามาด้วยความเชื่อมั่นว่าผู้ใช้จะให้การยอมรับในตัวสินค้านี้ได้อย่างไม่ยากนัก

ถ้าจะพิจารณาตลาดของแฟกซ์ในต่างประเทศอย่างเช่นอเมริกาเราจะเห็นแนวโน้มของการยอมรับแฟกซ์จากผู้ใช้ได้ชัดเจนคือ เพียงปีเดียวที่แฟกซ์เริ่มออกวางตลาดสู่ธุรกิจต่าง ๆ ในปี 2513 นั้น แฟกซ์ก็เป็นที่นิยมพอ ๆ กับเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีเลยทีเดียว

แต่เมื่อถึงเวลาเปิดตัวของก้าวแรกในตลาดเมืองไทยอัตราการมาใช้บริการกลับไม่สวยหรูเหมือนในตลาดต่างประเทศ เพราะด้วยข้อจำกัดที่เกิดจากระเบียบของการสื่อสารฯ ฉบับที่ 55 (ปี 2526) ที่แฟกซ์จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลและควบคุมโดยการสื่อสารฯ เหมือนกับเครื่องโคทรเลขและโทรพิมพ์ เอกชนไม่มีสิทธิ์ถือครองกรรมสิทธิ์ในเครื่องแฟกซ์แม้ว่าจะซื้อมาจากต่างประเทศก็ตาม

ดังนั้นในตลาดเมืองไทยปี 2527 จะมีเครื่องแฟกซ์ของเอกชนจัดหามาเองแต่เป็นกรรมสิทธิ์ของการสื่อสารฯอยู่ประมาณ 300 เครื่องเท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วก็มักจะใช้บริการจากแฟกซ์สาธารณะของการสื่อสารฯ ซึ่งในปี 2526 มีสถิติการใช้บริการส่งข้อมูลเป็นจำนวน 7,479 หน้าเทียบกับปี 2527 มี 15, 149 หน้าจะพบว่าการใช้บริการแฟกซ์สาธารณะก็มีปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าทีเดียว

นั่นคือฉากเริ่มต้นของเครื่องแฟกซ์ในประเทศไทยที่ไม่ค่อยจะสวยนักแต่ถ้าพิจารณาถึงความต้องการที่มีต่อเทคโนโลยีของแฟกซ์แล้ว น่าจะเป็นนิมิตหมายอันดีที่มีผู้ต้องการใช้มากขึ้นในอัตราร่วม 100% ในเพียงปีเดียว

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าการสื่อสารฯ จะทราบถึงข้อจำกัดที่เกิดจากระเบียบฉบับที่ 55 ว่ามีส่วนทำให้ตลาดของเครื่องแฟกซ์และกลุ่มของผู้ที่ใช้เครื่องแฟกซ์มีจำนวน จำกัด ดังนั้นในปี 2528 ระเบียบนี้จึงได้ถูกยกเลิกไป เอกชนจึงสามารถมีกรรมสิทธิ์ในเครื่องแฟกซ์ที่ซื้อหามาเองได้เป็นเหตุหนึ่งที่เครื่องแฟกซ์ในตลาดเพิ่มมากขึ้นจาก 300 เครื่องในปี 2527 เป็น 1,000 เครื่องในปี 2528

แต่เครื่องแฟกซ์ที่จะนำมาต่อเชื่อมเข้ากับคู่สายขององค์การโทรศัพท์นั้น จะต้องผ่านการทดสอบจากองค์การโทรศัพท์เสียก่อน และจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขอเชื่อมต่อเครื่องแฟกซ์กับเครื่องโทรศัพท์ทั้ง ๆ ที่มีโทรศัพท์อยู่แล้ว โดยถ้าพ่วงเข้ากับเครื่องโทรศัพท์ธรรมดาจะเสียค่าใช้จ่าย 800 บาท และเสียค่าใช้จ่าย 2,000 บาทในกรณีพ่วงเข้ากับเครื่องแบบกดปุ่ม

มันเป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการใช้โดยไม่จำเป็น

แล้วระเบียบในการคิดค่าพ่วงต่อเข้ากับเครื่องโทรศัพท์ก็ยกเลิกไปในเดือนพฤศจิกายน ปี 2531 เพิ่งเปิดเครื่องกีดขวางให้ตลาดความต้องการใช้แฟกซ์เพิ่มมากขึ้น

"ยอดขายแฟกซ์เมื่อปี 2528 มีประมาณ 1,000 เครื่อง ต่อมาก็เป็น 2,000 เครื่องในปี 2529 และเพิ่มมากขึ้น 150% ในปี 2530 คือขายได้ทั้งหมด 5,000 เครื่องปีที่แล้ว 2531 มีประมาณ 10,000 เครื่อง ปีนี้เชื่อว่าน่าจะถึง 20,000 เครื่อง หรือมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท" แหล่งข่าวในวงการจัดจำหน่ายเครื่องแฟกซ์ กล่าวกับ "ผู้จัดการ" ถึงการเติบโตของตลาดเครื่องแฟกซ์โดยรวมหลังจากการสื่อสารยกเลิกระเบียบค่าพ่วงกับโทรศัพท์

เมื่อถึงปี 2532 เครื่องแฟกซ์ที่เคยมีเพียง 4-5 ยี่ห้อเมื่อ 6 ปีก่อนก็เพิ่มมาเป็น 35 ยี่ห้อ ในตลาดขณะนี้เครื่องแฟกซ์ของยี่ห้อพานาโซนิคที่เรียกว่า "พานาแฟกซ์" นั้นกำลังเป็นหัวแถวในการครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดคือประมาณ 25% รองลงมาเป็นยี่ห้อริโก้ 17%, โอกิ และเอ็นอีซี ได้ไปยี่ห้อละ 7% ส่วนที่เหลืออีก 44% ก็แบ่งกันไปในกลุ่ม 31 ยี่ห้อที่เหลือ

ดังนั้นเมื่อพิจารณาโดยรวมในขณะที่แฟกซ์กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน ก็ย่อมที่จะส่งผลกระทบถึงเทคโนโลยีในการส่งข้อมูลที่มีความสามารถในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในการส่งข้อมูลข่าวสารได้รวดเร็ว และเป็นที่นิยมอยู่ก่อนแล้วอย่างเทเล็กซ์ จากรายงานประจำปี 2531 ของการสื่อสารแห่งประเทศไทย ปรากฎว่าจำนวนผู้ที่ใช้บริการเทเล็กซ์มีจำนวนลดลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นเทเล็กซ์ในประเทศหรือเทเล็กซ์ระหว่างประเทศก็ตาม ซึ่งแนวโน้มของการลดลง ได้เริ่มมีในช่วงปี 2527 ซึ่งเป็นช่วงที่แฟกซ์เริ่มเข้าตลาดอย่างจริงจังเป็นต้นมา เห็นได้จากจำนวนนาทีของผู้ใช้บริการเทเล็กซ์เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงและล่าสุดในปี 2531 จำนวน นาทีของการใช้เทเล็กซ์ลดลงจากปี 2530 ประมาณ 11.43% ในการใช้เทเล็กซ์ภายในประเทศและลดลง 5.36% ในการใช้เทเล็กซ์ระหว่างประเทศ

ถ้าหากจะพิจารณาจำนวนผู้เช่าเครื่องเทเล็กซ์จากการสื่อสารในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยกับแฟกซ์มากขึ้นนั้นเราจะพบว่า อัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เช่าเครื่องเทเล็กซ์ก็มีแนวโน้มลดลงทุกปี คือมีอัตราการเพิ่มขึ้น 16.89% ในปี 2527 13.32% ในปี 2528 7.99 ในปี 2529 6.55% ในปี 2530 5% ในปี 2531 "ช่วงนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาใช้บริการก็จะเป็นแฟกซ์มากกว่าเทเล็กซ์ผมว่าถึงแม้จะยังมีคนขอเช่าเครื่องเทเล็กซ์อยู่แต่ก็น้อยกว่าแต่ก่อนมาก ๆ แต่ก่อนอาจจะขอเช่าสัก 200 รายแต่เดี๋ยวนี้คงจะมีสัก 50 ราย" แหล่งข่าวผู้เป็นเจ้าของกิจการให้บริการรับส่งเอกสารการเทเล็กซ์ และแฟกซ์ และตั้งร้านมานานร่วม 10 ปีแล้ว กล่าวแสดงความเห็นกับ "ผู้จัดการ" ถึงสภาพตลาดการใช้เทเล็กซ์ในขณะนี้

เทคโนโลยีก็เหมือนกับสินค้าที่จำเป็นที่จะต้องมีการแข่งขันกันอยู่เสมอ ไม่แข่งขันกับเทคโนโลยีที่มีอยู่ในขณะนี้ก็อาจจะต้องมีการแข่งขันกับเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ ๆ นั้นคือสิ่งที่เทเล็กซ์กำลังประสบและจะต้องแก้โจทย์การแข่งขันนี้ให้ได้ด้วยดีหากยังต้องการที่จะทำรายได้ให้มากขึ้นเหมือนเดิม

"ช่วงที่ผ่านมา บริการทางด้านเทเล็กซ์มีการพัฒนาให้มีบริการเสริมขึ้นมาอยู่เสมอเพื่อปรับตัวการแข่งขันกับแฟกซ์ โดยอาศัยจุดแข็งของเทคโนฌลยีประเภทนี้ที่ได้เรปียบกว่าในเรื่องของความสามารถในการทำงานรับ และส่งข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง เรียกได้ว่าสามารถทำงานประเภทเฮฟวี่ ดิวที้ (HEAVY DUTY) ได้ดี ตัวอย่างเช่นการรายงานข่าวการขึ้นลงของสกุลเงินต่าง ๆ , ข่าวคราวทั่วโลก หรือการขึ้นลงของสินค้าเกษตรต่าง ๆ ที่จะมีมาอยู่ตลอดเวลา เครื่องจะต้องรับข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเหมาะกับกิจกรรมในบริษัทการค้า (TRADING FIRM) ใหญ่ ๆ ซึ่งแฟกซ์ทำอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าทำเครื่องจะร้อนแน่และจะเสียได้ง่าย" แหล่งข่าวในวงการจัดจำหน่ายเครื่องแฟกซ์คนเดิมกล่าวถึงข้อได้เปรียบของเทเล็กซ์ที่มีต่อแฟกซ์ในด้านความคงทน

นอกจากนี้แล้วบริการเสริมต่าง ๆ ที่เทเล็กซ์พัฒนาขึ้นมาเพื่อบริการแก่ผู้เช่าเครื่องเทเล้กซ์ เช่นบริการ SUPER TELEX ที่พัฒนาการรับส่งข้อมูลของเทเล็กซ์ให้เข้ากับระบบ่ของเครื่องคอมพิวเตอร์ของบริษัทผู้เช่าระบบเทเล็กซ์หรือในกรณีที่ผู้เช่าไม่มีเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ การสื่อสารฯ ก็จะมีให้เช่าทั้งระบบทั้งชุด

SUPER TELEX เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลและเก็บรวบรวมข้อมูลในลักษณะของการตามเครือข่ายที่มีอยู่ของระบบเทเล็กซ์ เพียงแต่ว่าแทนที่ข้อมูลจะออกมาเป็นข้อมูลบนกระดาษ กลับเป็นข้อมูลที่จะถูกส่งมายังเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์แปลงสัญญาณ (TELEX NETWORK INTERFACEUNIT) และจะถูกจัดลำดับและเก็บบันทึกไว้ในเครื่องโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะเรียกข้อมูลออกมาดูในจอมอนิเตอร์หรือพิมพ์บนกระดาษเมื่อใดก็ได้ โดยที่ผู้เช่าจะสามารถใช้เครื่องทำงานด้านอื่นไปพร้อมกันได้อีกด้วย

"มันเป็นการพัฒนาของระบบเทเล็กซ์ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีถึงขั้น SUPER PLUS TELEX เสียด้วยซ้ำไป" แหล่งข่าวในวงการเทเล็กซ์กล่าวถึงการพัฒนาการบริการของเทเล็กซ์ให้ "ผู้จัดการ" ฟัง

การสื่อสารฯเองก็คงจะทราบดีว่าควรจะพัมนาเทเล็กซ์ไปเพื่อลูกค้าที่เป็นบริษัทที่ต้องการข้อมูลทางด้านธุรกิจที่ต้องการความรวดเร็วมาก ๆ ดังนั้นการบริการที่เรียกว่า TELEX DATABASE จึงได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อคอยสนับสนุนข้อมูลทางด้านธุรกิจที่จำเป็นแก่ผู้เช่า เช่นบริการสอบถามเลขหมายเทเล็กซ์ของหน่วยงานและธุรกิจภายในประเทศ เพื่อที่จะช่วยให้สามารถติดต่อสื่อสารได้เร็วขึ้น สอบถามเกี่ยวกับการพยากรณ์อากาศ, อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อันเป็นบริการที่พัฒนาขึ้นมาในเดือนมิถุนายน 2531 และยังมีบริการที่เรียกว่า TELEX BULLETIN BOARD เป็นบริการทางด้านข้อมูลโดยตรงไม่ว่าจะเป็นการซื้อขาย แลกเปลี่ยน สินค้าต่าง ๆ ที่ผู้เช่าต้องการลงโฆษณาประชาสัมพันธ์กับกลุ่มผู้ใช้เครื่องเทเล็กซ์ที่ทำธุรกิจด้วยกัน และยังรวมถึงการที่จะสามารถเรียกสอบถามข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ด้วยเพื่อประโยชน์แก่นักลงทุน และผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่ต้องการรู้สภาพตลาดหุ้นที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ซึ่งเป็นบริการที่จะเปิดให้บริการในต้นปี 2532 นี้

และเพื่อขจัดปัญหาที่เครื่องแฟกซ์มักจะพบบ่อย ๆ คือการติดต่อปลายทางไม่ได้เพราะสายโทรศัพท์ในประเทศไทยยังมีปัญหาทางด้านการส่งสัญญาณอยู่มาก และในบางครั้งสายโทรศัพท์ไม่ว่างพอที่จะสามารถติดต่อได้ อีกทั้งในบางพื้นที่หรือบางประเทศ เครื่องเทเล็กซ์ หรือแม้กระทั่งเครื่องแฟกซ์เองก็ยังไม่สามารถที่จะเข้าไปทำการติดตั้งได้ซึ่งอาจจะเป็นเพราะการไปไม่ถึงของสายโทรศัพท์ ดังนั้นเทเล็กซ์เองยังมีบริการต่าง ๆ เพื่อที่จะคอยจัดการกับปัญหาที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วนี้

ในกรณีที่สายโทรศัพท์ยังไปไม่ถึงในบางพื้นที่ เทเล็กซ์ก็มีบริการใช้สัญญาณวิทยุแบบไร้สาย โดยการใช้เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ต่อเข้ากับข่ายวิทยุโทรคมนาคมระบบ CELLULA หรือ UHF ซึ่งมีเครือข่ายกว้างไกล สามารถติดต่อกับผู้ใช้เครื่องเทเล็กซ์ได้ทั่วโลก

นอกจากนี้บริการที่เรียกว่า TELEBOX ในกรณีที่คู่สายมักจะไม่ค่อยว่างหรือที่ปลายทางไม่มีเครื่องเทเล็กซ์ เพราะบริการนี้จะคล้ายกับตู้ไปรษณีย์ที่ผู้ส่งจะสามารถส่งข้อมูลเข้าไปเก็บไว้ที่ตู้เก็บที่ตกลงขอเช่าไว้โดยที่ผู้รับจะสามารถเรียกที่รู้กันอยู่ 2 ฝ่ายเพื่อให้ข้อมูลนั้นเป็นความลับ ถ้าในกรณีที่ผู้รับไม่มีเครื่องเทเล็กซ์ก็สามารถที่จะส่งไปที่ไปรษณีย์โทรเลขที่ปลายทาง เพื่อนำจ่ายทางไปรษณีย์ถึงผู้รับปลายทางเป็นการส่งจดหมายทางเทเล็กซ์ได้ด้วย

บริการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นบริการที่ถูกพัฒนามาในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้เองโดยเหตุจากการที่ระบบคอมพิวเตอร์กำลังแพร่หลายอยู่ และระบบเทเล็กซ์ถูกปลุกให้ตื่นโดยพัฒนาการเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าของเครื่องแฟกซ์

สำหรับเครื่องแฟกซ์เองก็ได้พัฒนาไปมาตลอดช่วง 6 ปีที่ผ่านมา จากสาเหตุการแข่งขันในวงการแฟกซ์ด้วยกันเอง ตั้งแต่การพัฒนาความเร็วในการส่ง 4-6 นาทีต่อหน้ากระดาษขนาด A-4 ในเครื่องกลุ่มที่ 1 หรือที่เรียกกว่าจี 1 (G1) เป็นความเร็ว 2-3 นาทีต่อหน้ากระดาษ A4 ในกลุ่ม 2 (G2) และในปัจจุบันกำลังอยู่ในเครื่องของกลุ่ม 3 (G3) ที่มีความรวดเร็วในการส่ง ไม่ถึงนาทีต่อหน้ากระดาษ A4 แนวโน้มกำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนาสู่กลุ่มที่ 4 ที่จะมีความเร็วและความชัดเจนของข้อมูลที่จะส่งเมื่อถึงปลายทางมากยิ่งขึ้นไปอีก

นอกจากทางด้านความเร็วแล้วด้านคุณสมบัติของสินค้าที่จะความสามารถเอื้ออำนวยประโยชน์แก่ผู้ใช้ให้มากที่สุดก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่แฟกซ์พัฒนาขึ้นมา เช่นการบันทึกความจำเลขหมายเครื่องแฟกซ์ปลายทางที่ติดต่อเป็นประจำ สามารถส่งข้อมูลไปยังที่ต่าง ๆ ได้เป็นร้อยแห่งเพียงการส่งเพียงครั้งเดียว โดยไม่ต้องมากดเรียกถึง 100 ครั้ง สามารถตั้งเวลาในการส่งเอกสารได้โดยอัตโนมัติ ปรับความเข้มอ่อนของเอกสารให้คมชัด ย่อ-ขยายเอกสารได้ เก็บข้อมูลเป็นความลับได้จนกว่าผู้รับที่รู้รหัสมาเรียกข้อมูลไป ทั้งหมดนี่เป็นเพียงตัวอย่างที่จะมีการพัฒนาฟังก์ชั่นต่าง ๆ ให้วิจิตรพิสดารออกไปอย่างไรก็แล้วแต่ความต้องการของตลาดที่ผู้ผลิตจะผลิตออกมาสนองตอบต่อไป

การแข่งขันทางด้านผลิตภัณฑ์ของสินค้าเทคโนโลยีทั้งสองประเภทนี้ เทเล็กซ์ก็พยายามใช้ข้อได้เปรียบทางด้านเครือข่ายของการสื่อสารคมนาคมที่เชื่อมต่อกันอยู่ไม่ว่าจะเป็นทางสายโทรศัพท์ และสัญญาณวิทยุ พร้อมทั้งความสามารถในการรับส่งข้อมูลอยู่ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง และเพิ่มเติมความสามารด้วยการใช้ระบบเทเล็กซ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย

ส่วนทางด้านเครื่องแฟกซ์นั้นก็ใช้จุดแข็งทางด้านความสะดวก รวดเร็ว ในการไม่ต้องเสียเวลาในการจัดการพิมพ์ข้อมูล ทั้งข้อมูลที่เป็นรูปภาพ และภาษาอันเป็น PRODUCT BENEFIT อันโดดเด่นของแฟกซ์ที่เทเล็กซ์ไม่สามารถตอบสนองความต้องการในส่วนนี้ได้

การแข่งขันคุณภาพสินค้าเพื่อตลาดผู้ใช้เป็นกฎตลาดเพื่อสร้างความประหยัดจาการใช้ให้แก่ผู้ใช้ ซึ่งทั้งแฟกซ์และเทเล็กซ์ก็หลีกหนีไม่พ้นจากกฎนี้เช่นกัน

ความประหยัดในการใช้บริการแต่ละครั้งเมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างแฟกซ์และเทเล็กซ์นั้น อยู่ที่การพิจารณาทางด้านความเร็วในการส่ง โดยเฉลี่ยทั่วไปแล้วเทเล็กซ์จะใช้เวลา 1 นาทีส่งขอ้มูลได้ 256 ตัวอักษณ (ครึ่งหน้ากระดาษ A-4) ยกเว้นเทเล็กซ์ที่ต่อเข้ากับเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์จะสามารถส่งได้ด้วยความเร็ว 1,200 ตัวอักษรต่อ 1 นาที ในขณะที่แฟกซ์นั้นสามารถส่งข้อมูลโดยเฉลี่ยทั่วไป 1 หน้ากระดาษขนาด เอ-4 ใช้เวลาประมาณ 1 นาที 20 วินาที ซึ่งเป็นเวลาที่รวมช่วงรอสัญญาณด้วย

ในกรณีการส่งในจังหวัดเดียวกันนั้นเทเล็กซ์คิดในอัตรา 1 นาที 1 บาท ในขณะที่ แฟกซ์คิดในอัตราค่าโทรศัพท์ทั่วไปคือ นานเท่าไหร่ก็ได้ ราคา 3 บาท เพราะฉะนั้นในกรณีที่ส่งข่าวสารในจังหวัดเดียวกัน ถ้าสั้น ๆ มีตัวอักษรโดยประมาณ 500 ตัวอักษรส่งเทเล็กซ์จะประหยัดกว่า แต่ถ้าข้อมูลมาก ๆ ส่งแฟกซ์จะประหยัดกว่ามาก

ในกรณีของการส่งข้อมูลไปในต่างประเทศนั้น เทเล็กซ์คิดค่าบริการ เป็นนาทีแล้วแต่ว่าจะส่งไปประเทศไหน แต่แฟกซ์จะคิดในหน่วยทุก 6 วินาที แล้วแต่ว่าจะส่งไปประเทศไทย ยกตัวอย่างเช่นในเวลาปกติ เราต้องการส่งขอ้มูลไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเทเล็กซ์คิดในอัตรานาทีละ 50 บาท ส่วนแฟกซ์นั้นคิดในอัตราค่าโทรศัพท์คือ 6 วินาที 6 บาท มีส่วนทำให้เราประหยัดค่าบริการได้ในบางส่วน เช่นในการส่งข้อมูลทั่วไปในขนาดกระดาษ เอ-4 เทเล็กซ์จะใช้เวลาประมาณ 2 นาทีกว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายในอัตรา 3 นาทีก็เท่ากับ 150 บาท ขณะที่ในส่วนของแฟกซ์อาจใช้เวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 1 นาที 30 วินาที ก็จะเสียค่าใช้จ่ายเพียง 90 บาท

จะเห็นว่าถ้าส่งข้อมูลสั้น ๆ ส่งเทเล็กซ์จะประหยัดกว่า แต่ถ้าข้อมูลยาว ๆ แล้วส่งแฟกซ์จะประหยัดกว่าถึง 40%

สำหรับการแข่งขันทางด้านราคาของทั้ง 2 ฝ่ายนั้น เทเล็กซ์เองก็รู้ถึงการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ชนิดนี้ที่จะเข้ามาแชร์ส่วนแบ่งทางการตลาด ดั้งนั้นเราจะเห็นถึงความพยายามในการลดราคาในการให้บริการลงเช่นลดค่าเช่าเครื่องเทเล็กซ์ลง 40-50% ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2529, จากเดิม 2,000-3,000 บาท เหลือราคา 1,000-1,500 บาทต่อเครื่อง ลดค่าใช้บริการเทเล็กซ์ระหว่างประเทศ ลง 30% ตั้งแต่ปี 2530 และเมื่อพฤศจิกายน ปี 2532 เลิกการคิดค่าติดตั้งเคเบิลจากที่เคยคิดเครื่องละ 3,00-10,000 บาท รวมทั้งเลิกคิดค่าติดตั้งเครื่องที่เคยตั้งราคาไว้เครื่องละ 200 บาท

พูดง่าย ๆ ก็คือว่าแต่ก่อนถ้าจะเช่าเครื่องเทเล็กซ์มาใช้สักเครื่องหนึ่งต้องลงทุนในช่วงเริ่มแรก 10,200-18,200 บาท แต่เดี๋ยวนี้ลงทุนเพียง 6,000-6,500 บาทเท่านั้น

ในขณะที่เครื่องแฟกซ์เองก็มีการแข่งขันกันในวงการอยู่แล้ว ราคาจะอยู่ระหว่าง 3 หมื่นกว่าบาท จนถึงแสนกว่าบาท ขึ้นกับฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เครื่องแต่ละระดับมี หรือแม้แต่การเช่าแฟกซ์ก็มีกันแพร่หลายในยุคของการแข่งขัน ซึ่งราคาก็จะอยู่ประมาณ 1,300 บาทต่อเครื่องต่อเดือนขึ้นไป

แต่เมื่อพิจารณาถึงทางด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และการส่งเสริมการขายของทั้งสองสินค้าเทคโนโลยีการสื่อสารขายของทั้งสองสินค้าเทคโนโลยีการสื่อสารนี้แล้ว ข้อได้เปรียบของแฟกซ์ก็เห็นเด่นชัดมากยิ่งขึ้นไปอีก เนื่องจากในวงการเครื่องแฟกซ์มีการแข่งขันที่สูงอยู่แล้ว มีผู้เสนอขาย 35 บริษัท ดังนั้นจึงย่อมมีกิจกรรมการส่งเสริมการขายที่มากกว่าเทเล็กซ์ ซึ่งมีอยู่เพียงรายเดียวคือการสื่อสารฯ ช่องทางการจัดจำหน่ายและบริการก็กระจายไปอย่างทั่วถึงมากกว่าเทเล็กซ์ ด้วยเหตุนี้ผู้ใช้บริการสามารถได้รับบริการติดตั้งเร็วกว่าเทเล็กซ์ที่ค่อนข้างจะรวมศูนย์อยู่ที่กรุงเทพฯ หรือไม่ก็จะกระจายไปในจังหวัดใหญ่ ๆ เท่านั้น และเนื่องจากการเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีความคล่องตัวน้อยกว่าธุรกิจเอกชน การแข่งขันในกลุ่มของผู้ขายแฟกซ์ได้เป็นส่วนสำคัญในการให้ความรู้ความคุ้นเคยในเทคโนโลยีใหม่ ๆ แก่ผู้บริโภคไม่ว่ารุ่นใหม่ที่จะออกมีฟังก์ชั่นที่สลับซับซ้อนอย่างไร ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้ผู้บริโภคมีความคุ้นเคยในเทคโนโลยีนี้แล้ว ทั้งศูนย์จัดจำหน่ายที่มีขอบเขตครอบคลุมทั้งประเทศก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ทางด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์อยู่แล้ว

ปัญหาของเทเล็กซ์ก็คือจะมีกลยุทธ์อย่างไรในการรักษาส่วนแบ่งตลาดที่มีอยู่

ในขณะที่ตลาดกลุ่มเป้าหมายของเครื่องแฟกซ์จะเริ่มลงมาสู่กลุ่มตลาดล่างมากยิ่งขึ้น หลังจากแย่งส่วนแบ่งตลาดระดับบนจากเทเล็กซ์มาอย่างมากมาย เพราะว่ากลุ่มระดับบนเช่นบริษัทใหญ่ ๆ ต่างก็มีเครื่องแฟกซ์ใช้กันแล้ว ตลาดล่างจึงเป็นตลาดที่มีกลุ่มเป้าหมายอยู่มากที่สุด

"กลุ่มเป้าหมายทั้ง 3 ส่วนคือตลาดระดับสูงนั้นคือเครื่องแฟกซ์ราคาตั้งแต่ประมาณ 7 หมื่นขึ้นไป ตลาดระดับกลางคือตลาดของเครื่องแฟกซ์ราคาตั้งแต่ 4 หมื่น 5 พันบาทขึ้นไปถึง 6 หมื่น 9 พันและตลาดระดับล่างนั้นจะอยู่ในระดับ 4 หมื่นบาทลงมา โดยที่ตลาดระดับล่างนี้มีกลุ่มเป้าหมายมากที่สุดคือประมาณ 60% ระดับกลาง 30% ที่เหลืออีก 10% เป็นตลาดระดับบน ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีแฟกซ์ใช้กันแล้ว" แนวโน้มของกาสรแข่งขันจึงจะมาในส่วนตลาดระดับกลางและล่างเป็นส่วนใหญ่ แหล่งข่าวเล่าให้ "ผู้จัดการ" ฟังถึงแนวโน้มในกลยุทธ์ทางการตลาดที่บริษัทขายแฟกซ์จะลงไป

แต่เมื่อเราพิจารณาถึงบริการเสริมของเทเล็กซ์แล้ว ไม่ว่าจะเป็น SUPER TELEX หรือ TELEX DATA BASE ก็มักจะเป็นการให้บริการทางด้านข้อมูลที่หนัก ไปทางด้านการลงทุน, การค้าระหว่างประเทศการเงินจึง น่าจะเชื่อได้ว่า ส่วนใหญ่ลูกค้าจะอยู่ในตลาดบนเทเล็กซ์ เองจึงพยายามที่จะรักษาลูกค้าในส่วนของบริษัทที่ต้องการข้อมูลพวกนี้ซึ่งมักจะเป็นบริษัทระดับกลางขึ้นไปมากกว่าที่จะเป็นตลาดระดับล่าง

พูดง่าย ๆ เป็นการใช้จุดแข็งของเครือข่ายที่กว้างขวางและสามารถทนทานต่อการใช้สื่อสารข้อมูลการค้าการเงินที่ผันแปรอยู่ตลอดได้ดีกว่าแฟกซ์

แนวโน้มจึงน่าจะออกมา แฟกซ์จะลงไปรองรับตลาดในส่วนล่วงมากขึ้นในขณะที่เทเล็กซ์เองยังคงอยู่ในตลาดบนต่อไป

แฟกซ์จะเข้ามาทดแทนเทเล็กซ์ทั้งหมดนั้นคงจะเป็นเรื่องยากไม่ว่าจะเป็นลักษณะของเครื่องที่ถูกสร้างขึ้นมา, เครือข่ายที่เชื่อมต่อกับสายโทรศัพท์ของแฟกซ์ที่บางครั้งมักจะมีปัญหาทางด้านการติดต่อสื่อสารมากกว่าสายเทเล็กซ์เหมือนกับคนในวงการแฟกซ์เองก็เชื่อว่า ถึงที่สุดแล้วเทเล็กซ์อาจจะมีบทบาทในตลาดลดน้อยลงบ้างแต่จะยังคงเหลืออยู่อย่างน้อยก็ประมาณ 25% ของที่มีอยู่ในขณะนี้ แต่ก็เป็นที่เชื่อได้ว่าตลาดของเครื่องแฟกซ์จะโตไปกว่านี้อีกมากในตลาดเมืองไทย เพราะความโดดเด่นในผลิตภัณฑ์ที่สามารถส่งรูปภาพและภาษาต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ดูจากสถิติของต่างประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่น มีการใช้แฟกซ์ในตลาดทั้งหมดเป็นจำนวนประมาณ 3 ล้านเครื่องมากกว่าเทเล็กซ์ถึง 3 เท่าตัว เทียบกับการใช้แฟกซ์ในไทยมีสัดส่วนมากกว่าเทเล็กซ์เพียง 1 เท่าตัวเท่านั้นโอกาสที่แฟกซ์จะขยายตลาด และส่วนแบ่งออกไปจึงมีมาก

การสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดสื่อสารของเทเล็กซ์ให้กับแฟกซ์เป็นตัวอย่างการสะท้อนภาพการแข่งขันในเชิงบริหารงานตลาด อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยทางเทคโนโลยีสินค้าที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการใช้ของผู้บริโภคในตลาดกฎการแข่งขันอันเป็นสัจจะนี้ เป็นตัวอย่างกรณีศึกษาอีกบทหนึ่ง ในหลาย ๆ บทที่เกิดขึ้นมาแล้วในระบบตลาดของไทยและทั่วโลก

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us