Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน30 ตุลาคม 2550
น้ำมันดันดัชนีหุ้นไทยปิดเหนือ900จุด             
 


   
search resources

Stock Exchange




ตลาดหุ้นไทยยังร้อนแรงพุ่งต่อ 20 จุด ปิดเหนือ 900 จุดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 11 ปี หลังได้แรกหนุนจาก PTT ขึ้นเกือบ 8% ปิดที่ 440 บาท ขณะที่ BANPU พุ่ง 8.5% ปิดที่ 460 บาท "ภัทรียา" ยันยังไม่กลุ่มทุนการเมืองเข้ามาปั่นหุ้นเพื่อไปใช้ก่อนการเลือกตั้ง ระบุดัชนีทะยานไม่หยุดเป็นไปตามตลาดหุ้นในภูมิภาคหลังสภาพคล่องล้นโลก ขณะที่รับอานิสงส์ราคาน้ำมันพุ่งไม่หยุด บวกกับแรงเก็งกำไรลุ้น "ปตท." แตกพาร์ ด้านหุ้นเอเชียทะยานถ้วนหน้าเช่นกัน

ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (29 ต.ค.) ดัชนียังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกยังเดินหน้าทะยานสร้างสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานต่างปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย บมจ.ปตท. หรือ PTT ราคาปรับตัวขึ้นแตะระดับ 440 บาท ขณะที่บมจ.บ้านปู หรือ BANPU ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาปิดที่ 460 บาท

ทั้งนี้ ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นปิดที่ 915.03 จุด เพิ่มขึ้น 20.46 จุด หรือ 2.29% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 916.06 จุด ขณะที่จุดต่ำสุดอยู่ที่ 905.85 จุด มูลค่าการซื้อขาย 24,399.18 ล้านบาท มีนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,999.59 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 346.77 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,652.82 ล้านบาท

หากพิจารณามูลค่าการซื้อขายเฉพาะในกลุ่มพลังงาน พบว่า มีมูลค่าซื้อขายรวม 1.21 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 50% ของมูลค่าการซื้อขายรวม ส่วนดัชนีกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นมาปิดที่ 24,700.37 จุด เพิ่มขึ้น 1,134.24 จุด หรือ 4.81%

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เข้าไปตรวจสอบความผิดปกติจากการซื้อขายในช่วงที่มูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก แต่ที่ผ่านมายังไม่พบความผิดปกติ และไม่พบว่ามีนักการเมืองหรือกลุ่มทุนทางการเมืองเข้ามาใช้ปั่นราคาหุ้นเพิ่มใช้เป็นทุนในการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานทางการเมืองหรือคำสั่งพิเศษจากภาครัฐให้เข้าไปตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวเป็นพิเศษ แต่การตรวจสอบของตลท.เป็นไปเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน โดยประเด็นหลักที่ส่งผลทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากเป็นผลมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกจากสภาพคล่องที่ไหลเข้ามาในตลาดทุน

"เราไม่ได้รับคำสั่งอะไรพิเศษจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปตรวจสอบการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น แต่เท่าที่มีการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีความผิดปกติในการซื้อขายทั้งราคาและปริมาณหุ้นที่ซื้อขาย"นางภัทรียากล่าว

นอกจากนี้ การปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีอย่างต่อเนื่องยังเป็นผลมาจากการการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มพลังงานจะโดดเด่นตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติค่อนข้างคาดหวังจะได้เห็นการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 23 ธ.ค. ซึ่งปกติก่อนการเลือกตั้งทุกครั้งตลาดหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเสมอโดยในรอบนี้ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่สูงทำให้หุ้นในกลุ่มน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก

สัดส่วนตปท.เทรดหุ้นแตะ40%

นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า สัดส่วนนักลงทุนที่ซื้อขายในตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมอยู่ที่ประมาณ 25% เป็น 40% เนื่องจากมีเม็ดเงินจากต่างประเทศที่ไหลเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นทั่วภูมิภาคเอเชีย ขณะที่ตลาดหุ้นไทยได้รับผลดีมากขึ้นเนื่องจากมีการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ SET 50 Index Options ซึ่งคาด ว่าจะได้รับความสนใจเหมือน SET 50 Index Futures ซึ่งมีการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 4.4 พันล้านบาทหรือประมาณ 7.4 พันสัญญาต่อวัน ซึ่งมีอัตราการเติบโตถึง39%

โบรกเตือนระวังแรงขายทำกำไร

นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด กล่าวว่า จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะหุ้น PTT-PTTCH-TOP-ATC-PTTEP ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนธันวาคม ที่ตลาดนิวยอร์ก ปิดตลาดที่ราคา 91.86 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์

ทั้งนี้ ทิศทางในตลาดหุ้นวันนี้ คาดว่าดัชนีจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามสัญญาณเทคนิคและแรงซื้อในหุ้นมาร์เกตแคปขนาดใหญ่ที่ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยดัชนีมีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 920 จุด ซึ่งหากดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงระดับดังกล่าวอาจจะมีการขายทำกำไรออกมา เนื่องจากตลาดหุ้นอาจจะต้องมีการปรับฐานอีกครั้ง โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 911 จุดหากหลุดแนวรับดังกล่าวแนวรับต่อไปอยู่ที่ 900 จุด

ส่วนผลการประชุมคณะกรรมการของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30-31 ตุลาคมนี้ ยังเป็นประเด็นที่นักลงทุนต้องติดตามแม้ว่าจะมีการคาดการณ์ไว้ว่าเฟดอาจอาจจะลดดอกเบี้ยในรอบนี้เพียง 0.25%

ลุ้นปตท.แตกพาร์เหลือบาทเดียว

แหล่งข่าวนักวิเคราะห์ กล่าวว่า ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นจนราคาหุ้นหลายบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในหลักเกือบ 100 บาทหรือสูงกว่าแล้วนั้น ทำให้นักลงทุนต้องติดตามว่าอาจจะมีข่าวการประกาศแตกพาร์หุ้นในบางบริษัทเพื่อให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากราคาในปัจจุบัน

ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการแตกพาร์หุ้นที่ราคาอยู่ในระดับค่อนข้างสูงไม่ว่าจะเป็น PTT หรือ BANPU ที่อยู่ในระดับมากกว่า 400 บาทโดยมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) อยู่ที่ 10 บาท ซึ่งหากมีการแตกพาร์จริงจะช่วยเพิ่มปริมาณการซื้อขายได้ค่อนข้างมาก

หุ้นแถบเอเชียพุ่งลิ่วถ้วนหน้า

ทางด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตลาดหุ้นทางแถบเอเชียวานนี้ ต่างก็ปิดเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน โดยปัจจัยสำคัญมาจากการที่นักลงทุนมองการณ์ในแง่ดี ก่อนหน้าการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันอังคาร (30) และวันพุธ (31) นี้ ซึ่งใครๆ ต่างคาดหมายกันว่า จะต้องมีการลดดอกเบี้ยเฟดฟันด์เรตลงมาอีกอย่างน้อย 0.25%

ความรู้สึกในทางดีเช่นนี้ ทำให้นักลงทุนไม่หวั่นไหวถึงแม้ราคาน้ำมันตลาดโลกกำลังพุ่งทะยานทำนิวไฮที่ระดับสูงเลย 93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว

ทั้งนี้ ในตลาดแถบเอเชียวานนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญของโตเกียวปิด +1.17% ขณะที่ฮ่องกงปิด +3.9% ทะลุผ่านแนวจิตวิทยาสำคัญที่ระดับ 31,000 จุด เช่นเดียวกับเซี่ยงไฮ้ปิด +2.83% ทางด้านสิงคโปร์ +1.3% , กัวลาลัมเปอร์ +0.95%, และมุมไบ(บอมเบย์) +3.82%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us