|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โออิชิ ปรับตัวรับเทรนด์เครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ ชูกลยุทธ์ต้องเป็นมากกว่าชาเขียวพร้อมดื่ม ส่งรสชาติใหม่คลอโรฟิลด์- ซีโร่ ควงกลยุทธ์ไซส์ซิ่งคลอด 350 มล. จำหน่าย 15 บาท อัดฉีด 10 ล้านบาท หวังกระตุ้นตลาดโต 5% ยอดขายพุ่ง 10% ตอกย้ำผู้นำตลาดครองแชร์ 64% จาก 4,000 ล้านบาท
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมโออิชิ เปิดเผยว่า แนวโน้มกระแสสุขภาพที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง จากพฤติกรรมของผู้บริโภคใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ ส่งผลให้ผู้ประกอบการเริ่มสร้างตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลหรือเครื่องดื่มที่มีคุณประโยชน์เฉพาะด้านมากขึ้น ล่าสุดบริษัทจึงได้เปิดตัวชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ กรีนที 2 รสชาติใหม่ ได้แก่ รสคลอโรฟิลด์ เป็นชาเขียวที่สกัดจากพืชสีเขียว มีประโยชน์ให้ออกซิเจนแก่ร่างกายทำให้เลือดไหลเวียนดี และรสชาเขียว ซีโร่ มีรสหวานเหมือนชาเขียวปกติ แต่ไม่มีแคลอรี่
สำหรับแผนการตลาดทั้ง 2 รสชาติใหม่นี้ บริษัทเตรียมงบการตลาด 10ล้านบาท ผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมต่างๆ โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ห่วงใยสุขภาพ ทั้งนี้ชาเขียวคลอโรฟิลด์และซีโร่ ออกบรรจุภัณฑ์ขนาด 350มล. ราคา15บาท แตกต่างจากชาเขียวปกติขนาด 500มล.จำหน่ายราคา 20 บาท โดยเป็นครั้งแรกที่ชาเขียวโออิชิออกขนาดดังกล่าวออกมา วางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น แห่งเดียวเท่านั้น
นายตัน กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำตลาดชาเขียวโออิชิจะเน้นทั้งอีโมชันนัลหรือขายในด้านความสดชื่น ควบคู่กับการทำตลาดด้านฟังก์ชชันนัล โดยการออกรสชาติใหม่ที่ให้ประโยชน์เฉพาะด้านแก่ผู้ดื่ม ซึ่งขึ้นอยู่กับเทรนด์ของตลาดเครื่องดื่มจะมาในแนวทางไหน แต่ขณะนี้มองว่าเทรนด์ฟังก์ชันนัลกำลังมาแรง ดังนั้นการทำตลาดต้องสร้างสินค้าให้มากกว่าเป็นแค่ชาเขียว
"โออิชิเป็นแบรนด์ที่มีฐานลูกค้าสูง โดยปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม ดังนั้นจึงเลือกแบรนด์นี้ทำตลาดมากกว่าจะเป็นอะมิโน โอเค ซึ่งมีโพซิชันนิงเป็นเครื่องดื่มสปอร์ตดริงก์มากกว่า"
สำหรับเปิดตัวชาเขียวพร้อมดื่ม 2 รสชาติใหม่ คาดว่ากระตุ้นตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมูลค่า 4,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 5% จากปีนี้คาดว่าตลาดจะมีอัตราการเติบโต 15-20% ส่วนบริษัทตั้งเป้ายอดขายโตเติบ 10% ครองความเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 64% ลิปตันมีส่วนแบ่ง 9.5% ส่วนยูนิฟมีส่วนแบ่ง 9% เพียวริคุ 8.3%
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เซนชะได้เปิดตัวชาเขียวที่มีจุดขายฟังก์ชันนัลไปแล้ว ได้แก่ รสชาติ ไลท์ พลัส ไฟเบอร์ โดยมีจุดขายเป็นรสต้นตำรับมีความหวานเท่าเดิมแต่ลดแคลอรีลง 50% และซี 100 พลัส ไนอะซิน รสมะนาวผสมน้ำผึ้ง แต่มีจุดขายมีวิตามินซี 100 มิลลิกรัมและสารไนอะซิน อย่างไรก็ตามตลาดนี้ต้องใช้เวลาในการให้ความรู้ผ่านผู้บริโภคอีกมาก เนื่องจากยังเป็นตลาดใหม่
|
|
|
|
|