Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์29 ตุลาคม 2550
เมเจอร์ฯ สร้างจุดแกร่งสู้ตลาดบนดึงเอไอจีร่วมทุนรุกโครงการหรู             
 


   
www resources

โฮมเพจ เมเจอร์ซินีเพล็กซ์

   
search resources

เมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์, บมจ.
สุริยนต์ พูลวรลักษณ์
Real Estate




เมเจอร์ฯ ผนึกกลุ่มเอไอจีตั้งบริษัทร่วมทุนรุกตลาดใหม่ซุปเปอร์ลักชัวรี่ หวังสร้างมาตรฐานใหม่สู้ดีเวลลอปเปอร์ข้ามชาติในตลาดคอนโดไฮเอนด์ ประเดิมโปรเจกต์แรกที่สุขุมวิท 31 เชื่อมั่นเครือข่ายระดับโลกของพันธมิตรช่วยเสริมฐานการเงิน-คอนเนคชั่นแข็งแกร่ง คว้าโอกาสสุดท้ายช่วงตลาดฟื้นรับข่าวเลือกตั้งเดินหน้าระดมทุนปลายปีนี้

เพราะจุดยืนเดียวของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ที่เน้นรุกเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ เมื่อภาวะตลาดเปลี่ยนไป มีการเข้ามาของดีเวลลอปเปอร์รายใหม่ๆ ที่มีดีกรีระดับอินเตอร์ จึงกลายเป็นสิ่งที่กดดันให้เมเจอร์ฯ ต้องเร่งปรับตัวเองเพื่อรับมือกับผู้เล่นในตลาดที่มีประสบการณ์ลงทุนและโนว์ฮาวในการพัฒนาโครงการที่เหนือกว่า อีกทั้งต้องเร่งสร้างแบรนด์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าชาวต่างชาติ กำลังซื้อสำคัญที่ผลักตลาดนี้ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

การตัดสินใจจับมือร่วมทุนกับเอไอจี โกลบอล เรียลเอสเตท อินเวสต์เมนต์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ในเครือของอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป อิงค์ หรือเอไอจี จากอเมริกา เพื่อจัดตั้งบริษัท เอ็มเจเอไอ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เพื่อรุกตลาดระดับซุปเปอร์ลักชัวรี่ โดยเมเจอร์ฯ ถือหุ้น 51% และเอไอจีถือหุ้น 49% แม้จะมองว่าการร่วมทุนกับพันธมิตรไม่ใช่โมเดลการปรับตัวที่แปลกนักในยุคนี้ แต่ก็น่าจะสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของดีเวลลอปเปอร์ไทยที่จะยกระดับให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ อีกนัยหนึ่งก็เพื่อเป็นการปูพื้นสร้างการตอบรับที่ดีของนักลงทุนให้เข้ากับจังหวะกระแสในช่วงที่เมเจอร์ฯ กำลังจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ปลายปีนี้

สุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (MJD) กล่าวว่า การร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มเอไอจีจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของฐานเงินทุน โนว์ฮาว และการทำตลาดในระดับนานาชาติ อาศัยจุดแข็งของพันธมิตรที่มีประสบการณ์ในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์หลายรูปแบบมาแล้วทั่วโลก โดยบริษัทร่วมทุนนี้จะลงทุนเป็นรายโครงการไป โครงการแรก ได้แก่ คอนโดมิเนียมใน ซ.สุขุมวิท 31 บนพื้นที่ 3.5 ไร่ มูลค่า 3,000 ล้านบาท ราคา 1.5 แสนบาทต่อ ตร.ม. ซึ่งจะเป็นโครงการระดับซุเปอร์ลักชัวรี่โครงการแรกของเมเจอร์ฯ จะเปิดตัวในต้นปีหน้า และเอไอจีคาดหวังผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้นประมาณ 20-25%

ฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งของเอไอจีจากการลงทุนในหลายรูปแบบทั่วโลก ประสบการณ์จากการลงทุนพัฒนาโครงการระดับไฮเอนด์ในประเทศต่างๆ รวมทั้งความสนใจที่จะลงทุนในไทย ที่สอดรับกับความต้องการของเมเจอร์ฯ ที่อยากจะสร้างความแข็งแกร่งเท่าเทียมกับคู่แข่ง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทข้ามชาติ จึงกลายเป็นความลงตัวที่ Win-Win ทั้งสองฝ่าย เพราะจะเป็นทางลัดที่จะทำให้เมเจอร์ฯ เป็นดีเวลลอปเปอร์ที่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วกว่าที่คาด แม้จะต้องแลกกับการเร่งสร้างผลตอบแทนกลับคืนผู้ถือหุ้นให้ได้ตามที่ตกลง

แม้ที่ผ่านมาภาวะตลาดทุนยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่อง แต่เพื่อความเติบโตของธุรกิจ ก็ถึงเวลาที่เมเจอร์ฯ ต้องอาศัยจังหวะโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปีเดินหน้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยมีแผนจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในเดือน พ.ย.นี้จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นสัดส่วน 28.57% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 500 ล้านบาท (ทุนจดทะเบียน 700 ล้านบาท) ทำให้สัดส่วนผู้ถือหุ้นเดิมลดเหลือ 62% ซึ่งจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาชำระหนี้สถาบันการเงิน 1,500 ล้านบาท ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงจาก 2.7 เหลือ 1.2 และใช้พัฒนาโครงการในอนาคต แม้ยังต้องเสี่ยงกับความผันผวนของตลาด แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่า โดยปกติก่อนเลือกตั้งจะเป็นช่วงที่ตลาดมีการซื้อขายคึกคัก จึงเป็นจังหวะเวลาที่ดีที่จะทำให้การระดมทุนประสบความสำเร็จ

สุริยน คาดว่า ปีนี้จะมียอดรับรู้รายได้จาก 3 โครงการ มูลค่า 6,000 ล้านบาท และปีหน้าจาก 5 โครงการ มูลค่า 7,800 ล้านบาท จาก Backlog 8 โครงการ มูลค่า 13,800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง 2-3 ปี ทำให้รายได้ปีหน้ามีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปีหน้ามีแผนจะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมริมหาดจอมเทียน พัทยา เฟส 1 มูลค่า 3,300 ล้านบาท และอีก 2 โครงการใหม่ พร้อมทั้งสนใจจะขยายธุรกิจไปยังจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ ในอนาคต   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us