การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมปีที่แล้วได้มีมติตามข้อเสนอขงบรรหาร
ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมให้ต่ออายุสัญญาโรงเหล้าแม่โขง
ระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมกับบริษัทสุรามหาราษฎร์ ออกไปอีกห้าปี
สัญญาเดิมนั้นจะหมดอายุในปี 2537 ซึ่งเมื่อถึงปีนั้นแล้วก็จะต้องมีการประมูลแข่งขันกันใหม่ระหว่างสุรามหาราษฎร์กับผู้สนใจรายอื่น
ๆ แต่เมื่อมติครม.ออกมาเช่นนี้ สุรามหาราษฎร์ก็มีสิทธิที่จะผลิตต่อไปอีกจนถึงปี
2542 แล้วค่อยว่ากันใหม่อีกที ก่อนจะถึงเวลานั้นก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขอีกมากมายตามมา
บรรหารให้เหตุผลในการต่อสัญญาครั้งนี้ว่า เพื่อจูงใจให้บริษัทสุรามหาราษฎร์ยินยอมลงทุนพัฒนาปรับปรุงคุณภาพของสุราแม่โขงให้ดีขึ้นเพราะถ้าไม่ต่อสัญญาแล้ว
ระยะเวลาที่เหลืออีก 5 ปีจากนี้ไปอาจจะไม่คุ้มต่อการลงทุน
เมื่อมีการต่อสัญญาออกไปเช่นนี้แล้ว ทางสุรามหาราษฎร์ก็จะลงทุนสร้างโรงบ่มเหล้าเพิ่มขึ้นอีกเป็นเงิน
3,818 ล้านบาท ทางผู้บริหารของสุรามหาราษฎร์เปิดเผยว่า เหตุที่เพิ่งจะมาคิดปรับปรุงคุณภาพเหล้าในตอนนี้ก็เพราะว่าก่อนหน้านั้นมีข้อจำกัดหลาย
ๆ อย่างจึงยังไม่คิดจะมาลงทุนในเรื่องนี้
เหตุผลที่ข้อที่สองก็คือถ้าปล่อยให้หมดสัญญาลงในปี 2537 ก็จะต้องมีการประมูลกันใหม่ซึ่งต้องมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง
และอาจจะทำให้รัฐได้ผลประโยชน์ไม่เท่ากับที่จะได้หากยอมต่อสัญญาออกไปอีกห้าปี
เหตุผลเช่นนี้จะมีนัยต่อไปในอนาคตกาลได้ไหมว่าหากถึงปี 2542 แล้วมีแนวโน้มว่าจะมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงในการเข้าประมูลอีกก็เป็นไปได้ที่จะมีการต่อสัญญาออกไปอีกเรื่อย
ๆ จนกว่าจะแน่ใจว่าการแข่งขันจะลดความเข้มข้นลง
และกลุ่มธุรกิจรายอื่น ๆ ที่คิดจะกระโดดเข้ามาแข่งกับสุรามหาราษฎร์ก็ต้องถูกกันออกไปโดยปริยาย
อย่างน้อย ๆ ก็อีกห้าปี
ผลประโยชน์ที่รัฐจะได้จากการต่อาอยุสัญญาครั้งนี้คือสุราราษฎร์จะจ่ายค่าตอบแทนทั้งสิ้น
26,148 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยผลประโยชน์แบบเหมาจ่าย 4,797 ล้านบาท และส่วนที่เพิ่มขึ้นอีกปีละ
3 เปอร์เซ็นต์จนครบ 5 ปี
สุราราษฎร์เคยขอต่ออายุสัญญามาครั้งหนึ่งแล้วในสมัยรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์พร้อมกับข้อเสนอแก้ไขการจ่ายค่าสิทะและภาษีเมื่อปลายปี
2530 แต่คณะรัฐมนตรีในตอนนั้นให้ผ่านเฉพาะเรื่องค่าสิทธิและภาษีส่วนเรื่องต่อสัญญานั้น
สุธี สิงห์เสน่ห์ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเห็นว่าควรจะให้สัญญาสิ้นสุดตามปกติเรื่องต่อสัญญาก็เลยถูกระงับไป
รัฐมนตรีอุตสาหกรรมที่เป็นผู้เสนอเรื่องนี้ในตอนนั้นคือ ประมวล สภาวสุ
ซึ่งมานั่งเป็นรัฐมนตรีการคลังในชุดนี้
เหล้านั้นแม้จะก่อให้เกิดโทษมากกว่าคุณ แต่ถ้ากินให้เป็นก็จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายและถ้ากินให้ถูกจังหวะก็ยิ่งได้ผลประโยชน์มหาศาล