ยูนิเวอร์ซัล มิวสิค เผยแผนธุรกิจปีหน้า ทุ่มเดเงิน 10% ของรายได้ มุ่งเน้นช่องทางขายดิจิตอล หลังพบพฤติกรรมวัยรุ่นเปลี่ยนไป พร้อมเรียกเก็บค่าลิขสิทธ์การเปิดเพลงในที่สาธารณะอย่างเข้มข้นมากขึ้น หลังปล่อยปะละเลยมานาน ย้ำเพลงสากลเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ที่ยังมีการเติบโตที่ดี แม้จะผันผวนตามเศรษฐกิจบ้าง

นายรณพงศ์ คำนวณทิพย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูนิเวอร์ซัล มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ผู้จัดการรายวัน”ว่า พฤติกรรมการฟังเพลงของผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนไป โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นจากเดิมที่นิยมฟังเพลงจากแผ่นซีดี ปัจจุบันเริ่มมีช่องทางอื่นให้เลือกฟังเพลงได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์โหลดในลักษณะต่างๆ ทั้งจากอินเตอร์เน็ต หรือโหลดผ่านมือถือเพื่อฟังก็สามารถทำได้ ดังนั้นจึงมองว่าแผนการดำเนินธุรกิจในปีหน้า บริษัทฯจะมุ่งเน้นในช่องทางสื่อดิจิตอลมากยิ่งขึ้น

ล่าสุดบริษัทฯได้จัดสรรงบประมาณ 10% ของรายได้ที่วางไว้ เพื่อจะนำไปซัพพรอตในเรื่องของคอนเท้นต์ และเพื่อการดาวน์โหลดเพลงในปีหน้า รวมถึงการหาพันธมิตรเพิ่มเพื่อขยายช่องทางสร้างรายได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่าง ดีแทค เอไอเอส และทรู โดยมั่นใจว่าช่องทางดังกล่าวจะเป็นตัวผลักดันรายได้ที่สำคัญ หรือในแต่ละปีคาดว่าช่องทางนี้จะมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักขึ้นไป แม้ว่าในปีนี้สัดส่วนรายได้หลักจะยังคงมาจากซีดีกว่า 90% และอีก 10% มาจากกลุ่มดิจิตอล คาดว่าใน1-2ปีข้างหน้าจะปรับเป็นซีดี 80% และดิจิตอล 20%

“จากนี้ไปต้องการให้บริษัทฯมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าช่วงรอยต่อของรายได้จากดิจิตอลในช่วงนี้อาจทำให้รายได้จากซีดีสะดุดลงไปบ้าง แต่มองว่าจะเป็นเพียงแค่ระยะหนึ่งเท่านั้น เพราะเชื่อว่าซีดียังคงเป็นช่องทางหลักของกลุ่มผู้บริโภคที่จะรับฟังเพลงมากที่สุด”

ส่วนช่องทางจำหน่ายตามร้านขายเทปและซีดีที่เป็นพันธมิตรกับยูนิเวอร์ซัล ไม่ว่าจะเป็นร้าน บีทูเอส อิมเมจิ้น รวมกว่า 20-30ราย บริษัทฯจะมุ่งเน้นการในเรื่องของการทำกิจกรรมด้วยตนเองมากยิ่งขึ้น โดยจะพยายามหาพันธมิตรในการร่วมทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเป็นหลัก ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนด้านการทำตลาดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นด้วย

ล่าสุดได้ร่วมกับทางบริษัท สิงห์คอร์เปอเรชั่น จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มตราสิงห์ ร่วมเปิดตัวอัลบั้มใหม่ “Long Road out of Eden”ของวง Eaglesในรอบ 28 ปี ในงาน Singha Taste of Music Presents ‘Eagles’ World Premiere ในวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายได้ที่มาจาก พับบลิค เพอฟอร์แมนท์ หรือ การนำเพลงที่เป็นลิขสิทธ์ของทางยูนิเวอร์ซัลไปเปิดในที่สาธารณะ เช่น ตามสถานีวิทยุต่างๆ จากเดิมที่ไม่ค่อยมีการเรียกเก็บเท่าที่ควร ปีหน้าบริษัทฯจะให้ความสำคัญต่อรายได้จากช่องทางดังกล่าวมากยิ่งขึ้น

นายรณพงศ์ กล่าวต่อว่า จะเห็นว่าปีหน้าบริษัทฯจะเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้จะมุ่งในเรื่องของธุรกิจเพลงอย่างเดียว ดังนั้นในปีหน้าหรืออนาคตอันใกล้ บริษัทฯยังไม่มีนโยบายที่จะขยายธุรกิจไปสู่กลุ่มอื่นๆที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ รายการวิทยุ หรืออื่นๆ ทั้งนี้เพื่อต้องการทำให้ธุรกิจเพลงเข้มแข็งมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม นายรณพงศ์ ได้กล่าวถึงกระแสการรับฟังเพลงสากลในประเทศไทยไว้ด้วยว่า เพลงสากลและเพลงทั่วไป หากจะมองเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยก็ถือว่าใช่ แต่ทางตนมองว่าเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์มากกว่า ดังนั้นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์จะมีอัตราการเติบโตมากแค่ไหนนั้น ยอมรับว่าเศรษฐกิจมีส่วนที่จะชี้การเติบโตได้ ทั้งนี้ในส่วนของเพลงสากล ถือได้ว่า ยูนิเวอร์ซัล เป็นอันดับหนึ่งในตลาดดังกล่าว โดยในแต่ละปีมีรายได้เติบโตขึ้นตามเป้า หรือในปีนี้ยังคงมีรายได้อยู่ในหลักร้อยล้านบาทตามเป้าที่วางไว้